บิ๊กโจ๊ก สั่งดำเนินคดีถึงที่สุด หนุ่มอ้างเป็นทีมงาน ใช้ปืนขู่บังคับขืนใจเด็กเอ็นฯ
logo ข่าวอัพเดท

บิ๊กโจ๊ก สั่งดำเนินคดีถึงที่สุด หนุ่มอ้างเป็นทีมงาน ใช้ปืนขู่บังคับขืนใจเด็กเอ็นฯ

ข่าวอัพเดท : บิ๊กโจ๊ก สั่งดำเนินคดีถึงที่สุด หนุ่มอ้างเป็นทีมงาน ใช้อาวุธปืนบังคับขืนใจสาวเอ็นเทอร์เทน แฉพฤติกรรม เคยมาขอความช่วยเหลือ และถ่ายรูป บิ๊กโจ๊ก,แอบอ้าง,ทีมงาน,ขืนใจ,ข่มขู่,เด็กเอ็น

737 ครั้ง
|
28 เม.ย. 2566
         บิ๊กโจ๊ก สั่งดำเนินคดีถึงที่สุด หนุ่มอ้างเป็นทีมงาน ใช้อาวุธปืนบังคับขืนใจสาวเอ็นเทอร์เทน แฉพฤติกรรม เคยมาขอความช่วยเหลือ และถ่ายรูป เอาไปข่มขู่ผู้อื่น
 
        วันที่ 27 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ผู้เสียหาย ซึ่งทำงานเป็นเด็กเอ็นเทอร์เทน เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ว่า ถูกลูกค้าอ้างเป็นทีมงานบิ๊กโจ๊ก ใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอไว้แบล็คเมล์ หลังก่อเหตุยังส่งข้อความข่มขู่ ทำให้หวาดกลัว
 
           ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บวรมงคล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ดำเนินการสืบสวนนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการกล่าวอ้างโดยใช้การถ่ายภาพกับบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อข่มขู่ให้ผู้อื่นเกรงกลัว อีกทั้งผู้ต้องหายังใช้อาวุธปืนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ฝ่ายสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายวทัญญู หรือ เจต จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญาตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 ในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลอื่น ซึ่งได้กระทำโดยมีอาวุธปืน"
 
          กระทั่งวันที่ 26 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายวทัญญู ได้ที่บริเวณบ้านพักในพื้นที่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย พร้อมตรวจค้นพบอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง จึงจับกุม นายวทัญญู ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ได้อายัดตัว นายวทัญญู ตามหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
           ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ นายวทัญญู พบว่า เคยต้องหาคดีอาญามาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2555 ถูกดำเนินคดีในข้อหา ไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2564 ถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอก ที่ สน.ตลิ่งชัน
 
             พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นบุคคลที่เคยมาขอความช่วยเหลือตน และได้มีภาพที่ถ่ายด้วยกัน แต่กลับนำภาพดังกล่าวไปใช้ในการกล่าวอ้างเพื่อข่มขู่ผู้อื่น อีกทั้งยังใช้อาวุธปืนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงได้สั่งการให้ตามจับมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์กล่าวอ้างชื่อหรือภาพของบุคคลอื่น เพื่อไปกระทำการที่ผิดกฎหมาย หากได้รับแจ้งหรือได้รับการร้องเรียนก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทุกราย และหากประชาชนพบเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวสามารถแจ้งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายได้ทางช่องทาง 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง