เปิดหลักฐาน คดี “แอม ไซยาไนด์” พบ “ยาถอนพิษ” คาดเป็นของแอม ! : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ยังคงเป็นข่าวสะเทือนขวัญของประชาชนชาวไทย ในคดี "แอม ไซยาไนด์" ที่มีจำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุด พบสัมพันธ์สวาทของนายแด้ อีกทั้งหลักฐานใหม่คือ "ยาถอนพิษ" ไซนาไนด์ คาดเป็นของแอม !

 

 

             วันที่ 1 พ.ค. 66 รุ้ง ภรรยาของผู้เสียชีวิต (กบ เขียงหมู) เล่าว่า เช้าของวันที่ 23 ม.ค. 65 กบสามีของตน ได้มีอาการ ร้อนตัว ตาแดง และปวดท้อง ซึ่งในคืนก่อนหน้าเขาได้บอกกับตนว่าออกไปกินข้าวกับเพื่อน ขณะที่อาการของสามีก็แย่ลงเรื่อย ๆ ตนบอกให้ไปหาหมอเขาก็ไม่ยอมไป กระทั่งในคืนนั้นสามีของตนเริ่มไม่ไหวแล้ว ร้อนข้างในตัวมาก ดิ้นรนกระวนกระวาย จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็เสียชีวิตในวันต่อมาเวลา 08.09 น. ซึ่งตนก็มีความสงสัยในตัวของกบว่าอาจจะโดนวางยา เพราะตัว และปากของเขาม่วงผิดปกติ แต่ตนก็ไม่ได้ผ่าพิสูจน์อะไร เพราะก็ไม่รู้จะไปเอาผิดกับใคร จึงเก็บความสงสัยไว้ในใจ ทั้งนี้สามีเป็นคนที่แข็งแรงมาก เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ

 

             ต่อมาเมื่อมีข่าว แอม ไซยาไนด์ขึ้น ส่วนตัวตนไม่ได้รู้จักกับแอม แต่มีนักข่าวมาถามตน ตนจึงให้เขาไปสอบถามกับเพชร เพื่อนสนิทของกบ จึงได้ทราบว่า กบไปรับแอมที่ จ.สกลนคร เพื่อปล่อยเงินกู้ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์เป็นกิ๊กกันอีกด้วย ทว่าเรื่องราวเหล่านี้ เพชรไม่เคยเล่าให้ตนฟังเลย หลังจากสามีตนเสียชีวิต เพชรก็หลบหน้าหลบตาตน ซึ่งตนก็สงสัยพฤติกรรมของเพชรมากเช่นเดียวกัน ว่าเขามีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับแอมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตอนสามีเสียชีวิต เขาเหลือแค่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เงินสดในรถของเขาไม่มีสักบาท ทำให้ตนสงสัยว่า ถ้าเพชรบอกว่ากบเคยคบกับแอมจริง ตนคิดว่าเขาเอาเงินไป 

 

 

             ขณะเดียวกัน ตนเคยมีความสัมพันธ์กับแด้ ได้ผูกข้อไม้ข้อมืออยู่ด้วยกัน เมื่อเดือน เม.ย. 65 โดยหลังจากสามีตนเสียชีวิตได้ประมาณ 3 เดือน นายแด้ได้เข้ามาจีบตนผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนายแด้ เคยชวนตนปล่อยเงินกู้ อ้างว่ามีเพื่อนเขาทำอยู่ และมีวงแชร์ด้วย แต่ตนได้ปฏิเสธเพราะกลัวโดนหลอก ตนต้องเก็บเงินไว้ให้ลูก ทั้งนี้นายแด้เป็นนักเลง และเขายังทำร้ายตนด้วย ตนจึงตัดสินยุติความสัมพันธ์ตอนเดือน พ.ย. 65 สำหรับคดีนี้ ตนคิดว่านายแด้น่าจะถูกฆ่าตัดตอน แต่ตนไม่ได้ติดใจในเคสของแด้ แต่ตนติดใจในเคสของกบ เพราะตนรักกบมาก กบเป็นเสาหลักของครอบครัว ตนอยากรู้ว่ากบเสียชีวิตเพราะอะไร ถ้าเป็นเพราะแอม ตนจะไม่ยอมให้กบตายฟรี

 

 

             ฟาก รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ตอนนี้หลักฐานทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ โดยตนได้ตรวจพวกสารคัดหลั่งต่าง ๆ ทำให้ได้เจอ "โซเดียมไทโอซัลเฟต" ที่เป็น ยาแก้พิษของ ไซยาไนด์ ที่เราเจอในอ.บางแพ จ.นครปฐม ซึ่งได้ส่งผลกลับไปให้ร้อยเวรแล้ว คาดว่าจะเป็นของแอมพกไว้ ตนยังไม่แน่ใจ เพราะเวลาได้รับตัวอย่างมาตรวจพิสูจน์นั้น ตนไม่ได้ทราบข้อมูลอื่น ๆ ส่วนในคดีของครูอ๊อดนั้น ก็ได้มีการตรวจคราบน้ำลายจากศพ ผลเบื้องต้นออกมาแล้ว รอตำรวจแถลงคดีต่อไป

 

             อย่างไรก็ตาม "โซเดียมไทโอซัลเฟต" ที่เจอไม่ได้เป็นสารพิษสารอันตรายอะไร แต่ว่า โพแทสเซียมไซยาไนด์ เป็นสารควบคุมประเภทที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย คนที่ครอบครองต้องมีใบอนุญาต ขณะที่ตัวไซยาไนด์ฝาแดงที่เป็นข่าวนั้น สั่งซื้อจากประเทศจีน ถ้าใครครอบครองจะมีความผิดทั้งหมด ขณะเดียวกัน ตนอยากให้ประชาชนใจเย็น ๆ รอตำรวจเขาแถลงข่าว ตำรวจเขาทำงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งแม้ตอนที่ผลแล็บยังไม่ออก เขายังออกหมายจับไปแล้ว 3 คดีได้ โดยตำรวจน่าจะแถลงการณ์ไม่เกิน 2-3 วันนี้ 

 

 

             ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า คดีนี้ ชาวบ้านสังคมสงสัยมาก ๆ เป็นที่สนใจของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องตั้งเซ็นเตอร์กองปราบปราม เพราะกองปราบฯ มีอำนาจในการสืบสวน ซึ่งสามารถรวมสำนวนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างน้อยเบาะแสมันจะได้หลั่งไหลมา ทว่าตอนนี้มันเป็นโรงพักไหนรับผิดชอบ ก็สอบสวนไป มันเป็นผลเสียเพราะจะทำให้ทีมกฎหมายของทีมผู้ต้องหา ทำให้ยกฟ้องได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 เพราะว่าแยกกันสอบสวน มันทำให้ไม่มีประจักพยาน