ภาค 4 ! คดี “แอม ไซยาไนด์” เจอพิษในอ้วกเหยื่อ คาดแอมพก “ยาถอนพิษ” ติดตัว

ยังไม่จบกับคดี “แอม ไซยาไนด์” หลังมีผู้เสียหายทยอยโผล่ออกมาเรื่อย ๆ ล่าสุดสืบทราบความสัมพันธ์สวาทของนายแด้ และยังพบยาถอนพิษไซยาไนด์ คาดว่าเป็นของแอม ! 

 

 

             วันที่ 1 พ.ค. 66 รุ้ง ภรรยาของผู้เสียชีวิต (กบ เขียงหมู) ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ  "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย กาย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา เล่าว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 65 กบออกจากบ้านไปตอนประมาณ 13.00 น. และกลับเข้าบ้านมาตอนประมาณ 02.00 น. ต่อมาเช้าเวลา 07.00 น. กบบอกว่าเขาปวดหัว เขามีอาการร้อนตัว ตาแดง และปวดท้อง ซึ่งตนได้ถามว่าเขาไปไหนมาเมื่อคืน เขาตอบกลับมาว่า เขาไปกินส้มตำกับเพื่อน ตนก็ได้ถามอีกวว่าเขาไปที่ไหนมา แต่กบบอกกับตนว่า ไม่ต้องรู้หรอก เขาไปกับเพื่อน กระทั่ง 11.00 น. กบได้กินข้าวต้มที่ตนทำ ซึ่งเขากินน้ำเยอะมาก และได้ถ่ายท้องเช่นเดียวกัน ตนได้บอกให้เขาไปหาหมอ เขาก็ไม่ยอมไป จากนั้นเวลาประมาณ 00.00 น. ของวันที่ 24 ม.ค. 65 กบบอกว่าเขาไม่ไหวแล้ว ร้อนข้างในตัวมาก  ปีนโต๊ะ ดิ้นรนกระวนกระวายมาก เวลาประมาณ 02.00 น. เขาเริ่มหายใจไม่ออก ตนจึงให้น้องชายพากบไปส่งโรงพยาบาล จากนั้นเวลา 08.09 น. กบก็ได้เสียชีวิต

 

             ตอนที่ตนได้เห็นศพของกบ ตนก็บอกกับที่บ้านเลยว่ากบต้องโดนวางยา เพราะตัวกบม่วง ปากม่วงไวมาก และท้องอืด ขณะเดียวกัน ตนไม่ได้ผ่า เพราะแม่บอกตนว่า ถ้าเราเอาผิดกับใครไม่ได้ ก็ให้กบเขาไปดี ๆ ไม่ต้องมีแผล ทั้งนี้ กบเป็นคนแข็งแรงมาก เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ กรงหมู 50-66 กก. หมูตัวละ 200-300 กก. เขายกคนเดียวได้หมด เรื่องที่กบเสียชีวิตตนก็ยังสงสัยเก็บไว้ในใจ กระทั่งมาเป็นข่าว แอม ไซยาไนด์ ขึ้นมา ส่วนตัวตนนั้นไม่ได้รู้จักแอมมาก่อนเลย แต่ทว่า แอมอยู่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งตัวกบนั้นก็ทำงานที่อำเภอนี้ และเพชรเพื่อนสนิทของกบ ก็อาศัยอยู่ในอำเภอนี้ ตนจึงได้บอกนักข่าวให้ไปสอบถามกับเพชร เพราะเขาสนิทกันมาก 

 

 

             เมื่อวาน(1 พ.ค. 66)   นักข่าวไปสัมภาษณ์เพชร แล้วมาบอกกับตน จึงได้ทราบว่า กบไปรับแอมที่ จ.สกลนคร เพื่อปล่อยเงินกู้ โดยเพชรไม่เคยเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ตนฟังเลย หลบหลีกตนตลอดหลังจากกบเสียชีวิต เราสงสัยพฤติกรรมของเพชรมากเช่นเดียวกัน ว่าเขามีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับแอมหรือไม่ โดยเพชรเล่าให้นักข่าวฟังว่า เขาเป็นคนพากบไปพบแอมเอง ขณะเดียวกันสถานะความสัมพันธ์ของแอมกับกบนั้น เพชรบอกว่า เขาเป็นกิ๊กกัน โดย แอมจะไม่ให้กบเรียกชื่อ แต่จะให้เรียกว่า "คุณ" แทน ทั้งนี้หลังจากกบเสียชีวิตไปเขาเหลือแค่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เงินสดในรถของเขาไม่มีสักบาท ทำให้ตนสงสัยว่า ถ้าเพชรบอกว่ากบเคยคบกับแอมจริง ตนคิดว่าเขาเอาเงินไป 

 

 

             นอกจากนี้ หลังจากกบเสียชีวิตไปได้ประมาณ 3 เดือน นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ หนึ่งในผู้เสียชีวิตของคดีนี้ นายแด้เข้ามาจีบตนทางเฟซบุ๊ก เคยพากันไปนำทุเรียนมาขายด้วยกัน และได้มาผูกข้อไม้ข้อมือกินอยู่ด้วยกันประมาณเดือน เม.ย. 65 กระทั่ง เดือน พ.ย. 65 ตนตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับนายแด้ เพราะเขาเป็นนักเลง และเขาไม่รักลูกของตนกับกบ ทั้งนี้ในระหว่างคบกันนั้น ตนค่อนข้างมีเงินอยู่ เพราะกบเพิ่งจะเสีย และนายแด้นั้นเคยชวนตนปล่อยเงินกู้ อ้างว่ามีเพื่อนเขาทำอยู่ และมีวงแชร์ด้วย แต่ตนได้ปฏิเสธเพราะกลัวโดนหลอก ตนต้องเก็บเงินไว้ให้ลูก ขณะเดียวกัน นายแด้เคยทำร้ายตนด้วย อีกทั้งก่อนวันที่นายแด้จะเสียชีวิต แฟนของนายแด้ ชื่อนุ้ย เป็นสาวโรงงาน อยู่ที่อ.สามพราน จ.นครปฐม  โทรมาหาตนว่า คบกับแด้เขาเหนื่อยมาก แด้เจ้าชู้มาก ตอนนี้เขาก็กลับไปอยู่เมียเก่าของเขาที่ จ.เชียงใหม่ 

 

             สำหรับคดีนี้ ตนสงสัยว่าที่นายแด้เสียชีวิต น่าจะเป็นการถูกฆ่าตัดตอน โดยแอม เพราะ นุ้ยได้บอกกับตนว่า นายแด้มีเงินเยอะกว่าเดิมมาก ใส่ทองเส้นใหญ่ ซึ่งในตอนนั้นตนยังคิดว่าเขาไปค้ายาเสพติดมา ขณะที่การตายของนายแด้ ตนไม่ได้ติดใจอะไร แต่เคสของกบ ตนรักกบมาก กบเป็นเสาหลักของครอบครัว ตนอยากรู้ว่ากบเสียชีวิตเพราะอะไร ถ้าเป็นเพราะแอม ตนจะไม่ยอมให้กบตายฟรี 

 

 

             ฟาก รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ตอนนี้พยานหลักฐานต่าง ๆ ก็ทยอยมาเรื่อย ๆ ตนก็รอตรวจพิสูจน์อยู่ โดยใช้เทคนิค เลเซอร์ Raman Spectroscopy ซึ่งถ้าตัวนี้ตรวจเจอ เราก็สามารถรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เลย แต่ถ้าหากมันลึกไปกว่านั้น เราก็ใช้เทคนิค Ion Chromatography ซึ่งตอนนี้ใช้ตรวจพวกสารคัดหลั่ง โดยในตอนนี้เราเจอ "โซเดียมไทโอซัลเฟต" ก็คือยาแก้พิษของ ไซยาไนด์ ที่เราเจอในอ.บางแพ จ.นครปฐม ซึ่งได้ส่งผลกลับไปให้ร้อยเวรแล้ว คาดว่าจะเป็นของแอมพกไว้ ตนยังไม่แน่ใจ เพราะเวลาได้รับตัวอย่างมาตรวจพิสูจน์นั้น ตนไม่ได้ทราบข้อมูลอื่น ๆ นอกจากนี้ 

 

             สำหรับประเด็นของ ครูอ๊อด หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากคดีนี้ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 65 เป็ยเคสที่เสียชีวิตกลางดึก แล้วพ่อแม่มาพบศพ จากนั้นก็มีการฌาปนกิจตามปกติ แต่โชคดีที่ร้อยเวรฉลาดมาก เขาเคลียร์ห้องที่เกิดเหตุ แต่ยังเหลือตู้เย็นที่ยังไม่ได้เคลียร์ ซึ่งในตู้เย็นจะมีน้ำสมุนไพร และทุกอย่างครบ โดยทางพ่อแม่ก็ยังไม่ได้แตะต้องอะไรเลย ขณะที่คราบน้ำลายของครูอ๊อดนั้น ผลเบื้องต้นออกมาแล้ว รอตำรวจแถลงคดีต่อไป

 

             ทั้งนี้ "โซเดียมไทโอซัลเฟต" ไม่ใช่สารพิษสารอันตรายอะไร แต่ว่า โพแทสเซียมไซยาไนด์ เป็นสารควบคุมประเภทที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย คนที่ครอบครองต้องมีใบอนุญาต ขณะที่ตัวไซยาไนด์ฝาแดงที่เป็นข่าวนั้น สั่งซื้อจากประเทศจีน ถ้าใครครอบครองมีความผิดทั้งหมด ซึ่งในตอนเกิดคดีแรกของ น.ส.ก้อย ไซยาไนด์พบมีขายออนไลน์มากมาย แต่ ณ ตอนนั้นหายกันไปเกลี้ยง ขณะเดียวกันตัวอย่างต่าง ๆ ที่ตนตรวจสอบนั้น เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในขบวนการเท่านั้นเอง ทางตำรวจเขามีพยานหลักฐานต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นพวเส้นทางการเงิน หรืออื่น ๆ ซึ่งขนาดผลแล็ปยังไม่ออก เขายังออกหมายจับไปแล้ว 3 คดีได้  อย่างไรก็ตามตนขอให้ประชาชนมั่นใจในตำรวจ ใจเย็นนิดหนึ่งรอฟังตำรวจเขาแถลงไม่น่าเกิน 2-3 วันนี้

 

 

             ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า คดีนี้ ชาวบ้านสังคมสงสัยมาก ๆ เป็นที่สนใจของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องตั้งเซ็นเตอร์กองปราบปราม เพราะกองปราบฯ มีอำนาจในการสืบสวน ซึ่งสามารถรวมสำนวนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างน้อยเบาะแสมันจะได้หลั่งไหลมา ทว่าตอนนี้มันเป็นโรงพักไหนรับผิดชอบ ก็สอบสวนไป มันเป็นผลเสียเพราะจะทำให้ทีมกฎหมายของทีมผู้ต้องหา ทำให้ยกฟ้องได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 เพราะว่าแยกกันสอบสวน มันทำให้ไม่มีประจักพยาน