ภาค 2 ! ยิ่งขุดยิ่งผวา “แอม ไซยาไนด์”

ประเด็นร้อนในสังคมตอนนี้ คงหนีไม่พ้น "แอม ไซยาไนด์" ที่ตอนแรกเริ่มจากเรื่องราวของ "ก้อย" วูบดับปริศนาริมน้ำ จนนำไปสู่หารสืบสวนที่ลึกขึ้น ทำให้บทสรุปสุดท้ายออกมาว่า แอมตกเป็นผู้ต้อหา ก่อเหตุสะเทือนขวัญ วางยาพิษไซยาไนด์ กว่า 13 ศพ !

 

 

            วันที่ 27 เม.ย. 66 นิภาวรรณ ขันวงษ์ (ส้ม) พี่สาวของก้อยผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า วงแชร์ของน้องมีทั้งหมด 7 คน เสียชีวิต 4 คน ตนก็ไม่ทราบว่าการเสียชีวิตของน้องสาว เกี่ยวกับวงแชร์หรือไม่ แต่คิดว่าเกี่ยวกับเรื่องเงินแน่ ๆ เพราะ แอมเคยยืมเงินน้องสาว 50,000 บาท เมื่อ 6-7 เดือนก่อน ซึ่งคืนน้องตนหรือยัง ตนก็ยังไม่แน่ใจ ขณะเดียวกันจากวันแรกที่น้องสาวเสียชีวิต จนถึงวันนี้กลายเป็นว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิต 15 คน ตนตกใจมาก ไม่คิดว่าแอมจะกล้าทำถึงขนาดนี้ เพราะตนก็รู้จักกับแอมเป็นการส่วนตัวมานานแล้ว เขาไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรบ่งบอกเลย เป็นคนพูดจาดีกับทุกคน ทว่าตอนนี้ตนรู้สึกแค้นแอมมาก ถ้าก่อเหตุฆ่าคนขนาดนี้ อยากให้เขาตายไปเสียดีกว่า  

 

            ส่วนประเด็นที่เขาอ้างว่ามีพี่เภสัชกรนั้น ตนรู้จักพี่สาวคนดังกล่าว เพราะว่าช่วงโควิด ประมาณ 2 ปีก่อน น้องสาวตนได้ซื้อยาแก้โควิดจากแอม แล้วพี่สาวเขามาส่งให้ ซึ่งตนก็ได้กิน รวมถึงแจกคนรู้จักด้วย แต่กินเข้าไปแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร 

 

 

            ฟาก ชยดล แหลมกระโทก (ดล) เพื่อนสนิทของแด้ผู้เสียชีวิต เล่าว่า แด้ เป็นแฟนกับ แอม รู้จักกันประมาณ 5-6 เดือนก่อนเสียชีวิต ซึ่งเป็นการคบหากันแบบไม่เปิดเผย รู้แค่ แม่ ยาย และกลุ่มเพื่อนของแด้ ขณะที่ทางฝั่งญาติของแอมไม่รู้จักแด้ ทั้งนี้ตนสงสัยตั้งแต่วันแรกที่เพื่อนของตนเสียชีวิต แต่ทางครอบครัวของแด้เขาไม่ติดใจ เนื่องจากวันที่เพื่อนตนเสียชีวิต แอมเป็นคนเดียวในที่เกิดเหตุจ.อุดร ซึ่งแอมเป็นคนรับรองกับตำรวจว่าไม่ติดใจการตายของแด้ อีกอย่างก็คืแอมเขาบอกว่าเขาตั้งครรภ์กับแด้ 3 เดือน ยายเขาเลยไม่อยากผิดใจกัน เห็นแก่หลานในท้อง ยายบอกแต่เพียงว่า "ใครทำก็รับผลกรรมไปแล้วกัน" ส่วนทรัพย์สินทั้งหมดของแด้ ยายเขาให้แอมหมด เพื่อนำไปเลี้ยงหลาน 

 

            ทั้งนี้ เพื่อนตนเสียชีวิตวันที่ 12 มี.ค. 66 เวลา 13.45 น. ตอนที่ตนได้เห็นศพของเพื่อน วันที่ 13 มี.ค. 66 เวลา 05.00 น. ตนมั่นใจในทันทีว่าเพื่อนตนโดนวางยา เพราะหน้าศพคล้ำ มือดำ เล็บดำ และรูปตอนเสียชีวิตมีเลือดออกปากออกจมูก ซึ่งมีความตนสงสัยว่าเป็นการฆ่าปิดปากหรือเปล่า เพราะเวลากลางคืน แอมจะชอบอ้างว่าไปดูแลแม่ แต่ตนสงสัยว่าเขาจะไปหาชายอีกคนหรือเปล่า ซึ่งถ้าชายคนนั้นก็รู้ว่าแอมท้องกับเขา แด้ก็รู้ว่าแอมท้องกับแด้ ก็เลยก่อเหตุฆาตกรรม 

 

            ส่วนเหตุการณ์วันที่เสียชีวิตนั้น เช้าวันที่ 12 เม.ย. 66 แด้และแอม ได้ชวนกันไปทำบุญ แต่ระหว่างทางเขาแวะกินข้าวกัน จากนั้นไม่นานนายแด้ก็อ้วก อาเจียน ล้มหมดสติ จนแม่บ้านมาเห็นจึงส่งโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลแด้ก็ได้สติ จึงขอกลับจากโรงพยาบาล แม้หมอจะบอกให้อยู่ก่อน ซึ่งระหว่างทางกลับ ลูกน้องของแด้เป็นคนไปส่ง ซึ่งลูกน้องเล่าให้ฟังว่า แด้อ้วกตลอดทาง และเมื่อลูกน้องไปส่งเสร็จแอมเป็นคนมารับที่หอพัก ซึ่งแอมก็แสดงท่าทีเสียใจ เป็นห่วงเป็นใย ก่อนที่เพื่อนตนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันแอมอ้างว่าตอนเพื่อนตนเสียชีวิต เขาออกไปซักผ้าข้างนอก หลังจากเพื่อนตนเสียไม่นาน แอมก็ทำเรื่องส่งศพเพื่อนของตนกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ทว่าแอมไม่ได้กลับมากับศพเพื่อนของตนด้วย แต่กลับไปจัดงานวันเกิดในคืนเดียวกันที่เพื่อนตนเสียชีวิต 

 

 

            ด้าน รพี ชำนาญเรือ (รพี)  พี่ชายคนสนิทผู้เสียชีวิต เผยว่า หลังจากที่มาออกรายการถกไม่เถียงคราวก่อน ในกรณีที่น้องก้อย เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 66 หลังจากนั้นก็เริ่มมีข้อมูลต่าง ๆ ไหลมาหาตนทางแชตข้อความ ว่าญาติ ๆ ของพวกเขาเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกัน แล้วก็มีความเกี่ยวพันกับผู้ต้องสงสัย(แอม) ตนจึงได้สอบถามข้อมูลจากกลุ่มเหล่านี้ และส่งข้อมูลหลักฐานต่อให้ตำรวจ

 

            ทั้งนี้ เคสล่าสุดเพิ่งส่งมาให้ตนเมื่อเช้า(27 เม.ย. 66)เพิ่มเข้ามา มีลักษณะคล้าย ๆ กับคดีน้องก้อย โดยก่อนเสียชีวิตเจอตัวกับแอม และเป็นลมล้มพับไปในห้องพัก เกิดเหตุที่ จ.นครปฐม ขณะเดียวกัน จากการสืบข้อมูลมาของผู้เสียหายรวมแล้ว 13 เคส พบว่า กลุ่มแรกจะเกี่ยวข้องกับการหยิบยืมเงิน กลุ่มที่สองเกี่ยวข้องกับวงแชร์ที่แอมเป็นท้าว กลุ่มที่สามเป็นลักษณะที่ผู้เสียชีวิตได้เอารถหรือทรัพย์สิน ให้ทางแอม ไปทำจำนอง จำนำ หรือไปทำธุรกรรมต่าง ๆ กลุ่มที่สี่เกี่ยวข้องกับการทำสหกรณ์ และการทำประกันภัย

 

 

            ขณะที่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต กล่าวว่า จากในช่วงแรกที่เราได้วิเคราะห์กัน จะเห็นได้ชัดว่า เหยื่อที่ไปกับแอมได้ล้มลงไปแล้ว คนที่ไปปล่อยปลาบริเวณนั้นรีบเข้าไปดู แต่ในขณะที่คนที่มาดูด้วยกัน ไม่ได้ลงไปดูว่าเป็นอะไร แต่กลับชำเลืองดูครู่หนึ่ง แล้วเดินออกไปเลย ตรงนี้เรียกได้ว่าผิดปกติจากธรรมชาติ ตามปกติแล้วคนทั่วไปมีการเสียชีวิตของคนใกล้ตัว จะต้องมีความเป็นห่วง กังวลใจ แต่ในเคสของคุณแด้ หลังจากการเสียชีวิต ก็มีการไปงานวันเกิดแล้วไม่ใส่ชุดดำ ยิ่งมีความผิดปกติ 

 

            จากเรื่องราวหลาย ๆ เรื่อง เหยื่อทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับแอม พฤติการณ์ของคดีก็คล้ายกัน ไปทานข้าวด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน สร้างความคุ้นเคย ต่อมาเสียชีวิต และ ยืมเงิน ปล่อยเงินกู้ เป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้กัน สุดท้ายเสียชีวิต ในคดีนี้น่าจะเข้าข่าย ฆาตกรต่อเนื่อง ส่วนเรื่องที่ผู้ก่อเหตุป่วยเป็นโรคจิตเวช หรือไม่นั้น จะต้องให้จิตเวชเป็นผู้ประเมิน แต่ที่ตนประเมินดูคร่าว ตนคิดว่าหลาย ๆ อย่างที่เขาทำ คนธรรมดาบางทีคิดทำไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ สันนิษฐานกันว่า คดีนี้เป็นคดีแรกที่ก่อเหตุโดยผู้หญิง ต่อเนื่องกันมากที่สุดในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน 

 

 

            ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว กล่าวว่า กรณีศพของนายแด้ ยังเสียชีวิตไม่ถึง 24 ชั่วโมง ศพยังไม่เน่า ส่วนที่เล็บมือดำ มันมีได้อยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือเวลาการเสียชีวิตอย่างกระทันหัน มันจะมีเลือดไปคั่งที่หน้า ทำให้หน้าคล้ำ ยิ่งรุนแรงก็ยิ่งคล้ำ อีกประเด็นยังตัดทิ้งเรื่องยาพิษไม่ได้ สารพิษต่าง ๆ มันก็สามารถทำให้เกิดลักษณะแบบนี้ได้ บริเวณปาก ใบหน้า เล็บ จะคล้ำดำ พวกนี้จะเป็นจุดสังเกตุว่าโดนยาพิษ ซึ่งจะต้องมีการชันสูตรต่อเนื่อง ส่วนเรื่องที่ตอนเสียชีวิตมีเลือดออกปากออกจมูกนั้น มันก็อาจเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่มันก็ยังตัดสาเหตุของการได้รับสารพิษไม่ได้ ต้องผ่าพิสูจน์  ขณะเดียวกัน หากตนเจอศพในลักษณะแบบนี้ตนผ่าชันสูตรแน่นอน อย่างไรก็ตาม ศพที่เสียชีวิตไปแล้ว หากยังมีเนื้อเยื่ออยู่สามารถตรวจสอบการตกค้างของไซยาไนด์ได้ แต่การตรวจสอบในกระดูกยังไม่มี 

 

            ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พี่สาวของแอมเป็นพี่สาวคนละแม่กัน ซึ่งเป็นพยาบาลในพื้นที่ จ.ราชบุรี มาเป็น 10 ปี กระทั่งมาเปิดร้านสมุนไพร ทั้งนี้ทางนิติเวช และสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าค้นร้านค้าแล้ว เพื่อตรวจสอบดูว่ามีร่องรอยของไซยาไนด์หรือไม่ ขณะที่พี่สาวนั้น ก็ยังยืนยันว่าแอมไม่เคยมาที่นี่ อีกทั้งยังเป็นพี่สาวคนละแม่ เลยไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ 

 

 

            ขณะที่วันนี้ เรายังไม่เจอจุดที่รับไซยาไนด์ แต่พบศพเพิ่มอีก 2 ศพ เสียชีวิตเมื่อปี 63 และพบพยานปากสำคัญ นั่นก็คือคนที่อยู่กับนายแด้ ที่เสียชีวิตที่ จ.อุดรธานี โดยพยานรายนี้ให้การชัดเจนว่าแอมเป็นคนลงมือฆ่านายแด้ สรุปแล้วตอนนี้มีผู้เสียชีวิต 13 ขณะเดียวกัน รายล่าสุด ภรรยาของดาบตำรวจ ตม. ที่จ.บึงกาฬ ก็เป็นพฤติการณ์คล้ายกัน โดยภรรยาของเขาได้ให้แอมยืมเงินไป 200,000 บาท แล้วก็ฆ่าล้างหนี้ไป

 

            ทั้งนี้ เราได้ออกหมายจับแอมไปแล้ว 2 คดี  ในคดีที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และคดีของสารวัตรผู้หญิง ที่ จ.นครปฐม ซึ่งได้พบสารไซยาไนด์ในตัวศพ มีผลตรงกับในหลอดที่พบที่บ้านของแอม เพราะฉะนั้นก็จะเหลืออีก 11 คดี แต่ตนก็ยังเชื่อว่ามีโอกาสที่ศพจะมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแอมจะมีอาการทางจิต หรือรักษาอาการทางจิต แต่ว่าขณะก่อเหตุแอมรู้ตัวขณะกระทำ และมีการวางแผน จากเหตุนี้จะไม่ทำให้แอมได้ละเว้นโทษ