เช้านี้ที่หมอชิต - เรียกว่าเป็นอีก 1 คดีสะเทือนขวัญ เมื่อตำรวจจับกุมสาววัย 36 ปี เมียของรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง ในจังหวัดราชบุรี หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของบุคคลใกล้ตัวอย่างน้อย 8 ราย ด้วยกัน โดยรายล่าสุดเหตุเกิดเมื่อ 14 เมษายนที่ผ่านมา ญาติผู้ตายสงสัยว่าเป็นการวางยาพิษจากเพื่อนสนิท และกลัวว่าคดีจะไม่คืบหน้า จึงเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบฯ จนนำมาสู่การสืบสวนคดีและออกหมายจับในที่สุด
จากกรณีที่ญาติของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ อายุ 35 ปี เข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบปราม เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ว่าสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร ว่าอาจจะมาจากการถูกวางยาพิษ และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเพื่อนสาวของผู้ตายที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้มีสามีเป็นตำรวจอยู่ในพื้นที่
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ เดินทางไปทำบุญปล่อยปลากับเพื่อนสาว ชื่อ แอม ที่วัดแห่งหนึ่ง จู่ ๆ น.ส.ศิริพร ก็มีอาการหัวใจวายเฉียบพลัน และเสียชีวิต ส่วน น.ส.แอม เพื่อนสาวที่ไปด้วยกันได้หลบหนีไป โดยนำทรัพย์สินของผู้ตายไปด้วย จึงเชื่อว่า น.ส.ศิริพร ถูกเพื่อนคนนี้วางยาพิษจนเสียชีวิต โดยมีข้อมูลว่า มีเพื่อนของ น.ส.แอม เสียชีวิตในลักษณะนี้หลายคน ตำรวจกองปราบปรามจึงรับเรื่องไว้ตรวจสอบ
จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับ นางสาวสรารัตน์ หรือ แอม อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลอาญาในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยจับกุมได้ที่บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยผู้ต้องหารายนี้เป็นภรรยาของรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง ในจังหวัดราชบุรี
โดยจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตบริเวณริมน้ำบ้านโป่ง พบผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ อายุ 35 ปี โดยไม่มีบาดแผลและไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ต่อมาตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ลงพื้นที่สืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตเดินทางมาปล่อยปลากับผู้ต้องหา โดยทั้ง 2 คน ได้ขับรถเก๋ง สีบรอนซ์เงิน มาจอดข้างศาลาประชาคมริมน้ำ แล้วเดินลงจากรถไป
จากนั้นผู้เสียชีวิตเดินถือถุงปลาจำนวน 2 ถุง เพื่อที่จะไปปล่อยปลาบริเวณริมน้ำบ้านโป่ง ส่วนผู้ต้องหาไปเข้าห้องน้ำ หลังจากผู้เสียชีวิตเดินลงไปบริเวณริมน้ำเพื่อปล่อยปลา ก็ได้หมดสติล้มลง กระทั่งผู้ต้องหาออกจากห้องน้ำมาพบ จึงตะโกนเรียกคนมาช่วย เมื่อเห็นว่ามีคนมาช่วยแล้ว ผู้ต้องหาได้ขับรถคันดังกล่าวออกไปทันที ซึ่งจากแนวทางสืบสวนเชื่อว่า น.ส.แอม ผู้ต้องหา เป็นผู้นำไซยาไนด์ (Cyanide) ซึ่งเป็นสารเคมีอันตราย ผสมใส่อาหารให้ น.ส.ศิริพร ผู้ตายกิน เพื่อหวังเอาทรัพย์สิน จากการสืบสวนพบว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกหลายกรณี
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการไล่เลียงเหตุการณ์ พบว่ามีคดีลักษณะคล้ายกันนี้ 7 คดี มีผู้เสียชีวิตถึง 8 คน โดยคดีที่ตำรวจสอบสวนกลาง ขออนุมัติศาลออกหมายจับเป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จึงเหลืออีก 6 คดี ซึ่งหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การอนุมัติหมายจับ คือ การผ่าพิสูจน์พบว่ามีสารไซยาไนด์ในร่างกายของผู้ตาย และหลักฐานจากการตรวจที่เกิดเหตุพบขวดไซยาไนด์อยู่ที่หลังบ้าน
ส่วนเหตุจุงใจในการก่อเหตุน่าจะเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตาย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ ผู้ตายทั้งหมดเป็นคนที่อยู่แวดล้อมกับผู้ก่อเหตุ ที่อยู่ที่แฟลตตำรวจและก็เป็นตำรวจ ตัวผู้ก่อเหตุจึงรู้ว่าเป้าหมายทำอะไรอยู่ และมีเงินหรือไม่มีเงิน ซึ่งเรื่องนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้หรือไม่ เพราะถือว่าเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง โดยผู้เสียชีวิต 8 ราย นั้น ประกอบด้วย
คนที่ 1. วันที่ 13 ธันวาคม 2563 ชื่อ ฟ้า เสียชีวิตที่บ้านพัก ในจังหวัดนครปฐม
คนที่ 2. วันที่ 6 มกราคม 2564 ชื่อ สุรัตน์ ทรพับ หรือบี เสียชีวิตที่บ้านพัก ใน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
คนที่ 3. วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ชื่อ ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ เสียชีวิตหน้าห้างโกลบอลเฮ้าส์ จังหวัดนครปฐม
คนที่ 4. วันที่ 12 กันยายน 2565 ชื่อ น.ส.กณิกา ตุลาเดชารักษ์ เสียชีวิตที่ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
คนที่ 5. วันที่ 12 มีนาคม 2566 ชื่อ สุทธิศักดิ์ พูนขวัญ เสียชีวิตที่บ้านพัก จังหวัดอุดรธานี
คนที่ 6. วันที่ 1 เมษายน 2566 ชื่อ พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ เสียชีวิตที่ องค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม
คนที่ 7. วันที่ 14 เมษายน 2566 ชื่อ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ เสียชีวิตที่ท่าน้ำ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
คนที่ 8. วันที่ 14 สิงหาคม 2565 ชื่อ นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ เสียชีวิตที่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
คนที่ 9. อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ล่าสุด พบว่ารอดชีวิต
โดยหนึ่งในตำรวจหญิงที่เสียชีวิต กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้ เหตุเกิดเมื่อ 1 เมษายน 2566 บริเวณหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ จากภาพจะเห็นผู้หญิง 2 คน นั่งอยู่ใกล้กัน จากนั้นอีกคนหนึ่งค่อย ๆ ฟุบจนตกจากเก้าอี้ ขณะที่ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ติดกันซึ่งถูกระบุว่าเป็น น.ส.แอม ทำได้แค่เพียงยืนดูและคุยโทรศัพท์ต่อไป โดยไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ มีเพียงชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจะเอาผิดคนร้ายได้ ต้องใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ส่วนศพผู้เสียชีวิตที่ทำพิธีฌาปนกิจไปแล้ว จะเป็นปัญหาต่อการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหรือไม่ ไปฟังเสียงบางช่วงบางตอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหา เบื้องต้น ไม่มีการให้การใด ๆ โดยจะใช้สิทธิ์ไปให้การในชั้นศาล แต่ยอมรับว่ารู้จักผู้เสียชีวิตทุกราย สำหรับประเด็นวงแชร์นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เท่าที่ดูยอดเงินมีจำนวนไม่เยอะ ส่วนพฤติการณ์ชัดเจนว่าผู้ต้องหาฆ่าเพื่อประสงค์จะเคลียร์หนี้สิน โดยจะมีการส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจสุขภาพจิตด้วย ซึ่งมีรายงานว่า นางสาวสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหารายนี้กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ในขณะที่สามีซึ่งเป็นรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งใน จังหวัดราชบุรี ตอนนี้ถูกย้ายออกจากพื้นที่แล้ว