มีผู้เสียหายรายหนึ่ง ถูกวัยรุ่นทำร้าย ตำรวจเรียกนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกันบนโรงพัก แต่ฝั่งก่อเหตุไม่พอใจ เหตุฝั่งผู้บาดเจ็บเรียกเงินแพง ควักมีดสปาตาออกมาฟันเข้าศีรษะผู้เสียหาย ถึงกับต้องปีนหน้าต่างหนีตาย โชคดีมาพลเมืองดีช่วยพาซ้อนรถจักรยานยนต์หนีออกจากโรงพัก
ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ตนเองไปหาน้องสาวที่คลองน้ำบ้านแบก อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ตนเองนั่งปูเสื่อที่ริมคลองกับน้องสาว ส่วนแฟนตนเองนั่งเล่นโทรศัพท์บนรถมอเตอร์ไซค์ สักพักคนก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านมากับแฟนของเขา แล้วถามแฟนเราว่า “มองหน้ามีปัญหาอะไร” แฟนเราบอกว่า “ไม่ได้มอง” แล้วผู้ก่อเหตุก็ลงมาจากรถพูดว่า “มึงเอามั้ยล่ะ” พร้อมกับใช้หมวกกันน็อกฟาดใส่แฟนเรา 2-3 ครั้ง แล้วก็เข้ามาชกต่อยแฟนตนเอง ตนเองเลยตะโกนบอกให้หยุดไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ ผู้ก่อเหตุก็ได้ใช้กุญแจมอเตอร์ไซค์จะมาแทงตนเอง พร้อมกับพูดว่า “มึงแจ้งมาเลย กูจะแทงทั้งเมียมึงด้วย” จากนั้นคนก่อเหตุก็เอากุญแจมาแทงเรา แต่แฟนเราผลักเขาออกไปทัน เราก็วิ่งไปหลบที่หลังรถ แล้วโทรแจ้งตำรวจ
จากนั้นคนก่อเหตุก็ตะโกนบอกว่า “มึงรอกูอยู่นี้” จากนั้นก็ขับรถออกไป ตนเองกับแฟนจึงรีบขี่รถออกจากที่เกิดเหตุทันที เพื่อไปบ้านย่าที่อยู่ใกล้ ๆ ระหว่างทางได้ขี่รถสวนกับคนก่อเหตุ คนก่อเหตุถือมีดพร้า แล้ววนรถเร่งเครื่องตามตนกับแฟนจนทันที่หน้าบ้านย่าพอดี แฟนตนเองจึงเบรคให้รถล้ม แล้วตนเองกับแฟนจึงรีบวิ่งเข้าบ้านย่าทันที เราแล้วคนแถวนั้นช่วยไล่คนก่อเหตุไป ตนเองจึงไปแจ้งความที่ สภ.กู่ทอง
ทางด้าน ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 9 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดให้ตนเอง เข้ามาไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก แต่ทางเราก็รู้สึกกลัว และไม่ปลอดภัย แต่ตำรวจบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว ตนเองและครอบครัวเดินทางไปที่โรงพัก ไปเจอกับแม่ของคนก่อเหตุ (แต่คนก่อเหตุไม่ได้มาด้วย) ซึ่งไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัว เพราะฝ่ายแม่ผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่าแฟนเราผิด ไปมองหน้าเขาก่อน แม่คนก่อเหตุจึงโทรเรียกคนก่อเหตุมา
จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง คนก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์มา แล้วโวยวายถามหาตนเองว่า “มันอยู่ไหน” แม่ผู้ก่อเหตุก็พาลูกชายเดินเข้ามาในห้องสืบสวน พอคนก่อเหตุเห็นตนเองที่นั่งอยู่กับตำรวจ ได้วิ่งเขามาแล้วล้วงมีดสปาต้าที่เอวขึ้นมาฟันเข้าที่หัวตนเองประมาณ 2-3 ครั้ง ทำให้แฟนตนเองต้องรีบกระโดดหน้าต่างของโรงพัก แล้ววิ่งไปที่รถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นมีพลเมืองดีได้ขับรถพาตนเองหนี และพาไปรักษาตัวที่อนามัยใกล้ ๆ แต่เขาปิด จึงวอนให้ตำรวจที่อยู่ป้อมใกล้ ๆ ไปส่ง แต่ตำรวจบอกว่าขับรถไม่เป็น ตนเองจึงโทรไปหาครอบครัว ที่กำลังขับรถตามหาตนเอง ให้มาพาไปส่งโรงพยาบาล
ต่อมา วันที่ 14 เมษายน ตนเองได้ขอออกจากโรงพยาบาลก่อน เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย (กลัวคนก่อเหตุตามไปทำร้ายอีก) และช่วงบ่ายได้เดินทางไปแจ้งความซึ่งตำรวจแจ้งไป 3 ข้อหาคือ พยายามฆ่า ก่อเหตุซึ่งหน้า มีสารเสพติดในร่างกาย
ต่อมา วันที่ 19 เมษายน ตำรวจนัดไปไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย ซึ่งทางแม่ผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่มีเงิน ไปยืมมาได้ 1 หมื่นบาท ทางเราก็พยายามไกล่เกลี่ยขอเพิ่มขึ้นอีก แต่เขาให้ได้แค่ที่ 5 หมื่นบาท ทางตำรวจเห็นว่าพอดีแล้ว เพราะเป็นแค่การไกล่เกลี่ยเบื้องต้น แต่คดีจะดำเนินต่อไป ทางครอบครัวแฟนจึงตกลง และลงบันทึกประจำวันไว้
ส่วนเรื่องคดี ตำรวจบอกว่า 2-3 เดือน ถึงจะเขียนสำนวนเสร็จและส่งสำนวน (ซึ่งเรามองว่ามันนานมาก) และเราขอแจ้งข้อหาไตร่ตรองล่วงหน้าแต่ตำรวจบอกว่าจะพิจารณาดูก่อนว่า (คนก่อเหตุ) พกมีดมาทำไม ถ้าอยากแจ้งข้อหาไตร่ตรองให้หาหลักฐานมา และตนเองได้ขอคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ห้องสืบสวน แต่ตำรวจบอกว่าให้ไม่ได้ เป็นความลับราชการ
ตอนนี้ฝ่ายตนเองได้ค่อยติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกแค่ว่า เขียนสำนวนยังไม่เสร็จ กว่าจะเขียนเสร็จก็ 2 เดือน
ทางด้าน พ.ต.ท. สมมาส สถิลวัฒน์ รอง.ผกก (สอบสวน ) สภ.กู่ทอง จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง สภ.กู่ทอง เราไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้จับกุมตัวพุฒิพัฒน์ ถุงจันทร์แก้ว หรือ มิกซ์ อายุ 18 ปี ที่อยู่ บ.แบก ต.นาทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เราได้จับกุมตัวในวันนั้นเลย และได้นำไปฝากขังไว้ที่ ศาลจังหวัดมหาสารคาม โดยได้ทำการคัดค้านการประกันตัวไว้แล้ว ตอนนี้รอให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง แล้วไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนนี้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/s7YzX4m15p0