หนุ่มร้องถูกโจ๋เจ้าถิ่น ควักมีดไล่ฟัน ทั้งที่ไม่รู้จักกัน ต้องวิ่งหนีตายกลับบ้าน ก่อนที่ ตร. จะเรียกมาไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย ทว่าเรื่องยังไม่จบ โจ๋เจ้าไม่เลิกรา ควักสปาตาฟันหัว แผลฉกรรจ์กลางโรงพัก !
วันที่ 25 เม.ย. 66 พรรวษา พรมดวงศรี (นุ่น) แฟนของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 66 ตนออกไปเล่นน้ำสงกรานต์กับน้องสาว และแฟน แถวคลองน้ำบ้านแบก อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม สักพักผู้ก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านมากับแฟนของเขา มาหาเรื่องว่าแฟนตนไปมองหน้าเขา ก่อนจะเอาหมวกกันน็อกมาฟาดแฟนของตน พร้อมกับต่อยแฟนตนไม่หยุด ตนจึงขู่จะแจ้งความ เขาจึงกลับบ้านไป ฝ่ายตนจึงรีบหนี ทว่าก็มาเจอคู่กรณีกลางทาง เขาก็ได้ขับรถไล่ พร้อมทั้งถือมีดไล่ฟัน จนแฟนของตนต้องยอมหักรถล้ม แล้ววิ่งหนีตายเข้าบ้าน ซึ่งคู่กรณีเขาก็มาโวยวาย พยายามจะเข้ามาในบ้าน แต่โชคดีว่ามีพลเมืองดีแถวนั้นห้ามเอาไว้ก่อน
ต่อมาในวันที่ 9 เม.ย. 66 ตำรวจเรียกแฟนไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับฝั่งคู่กรณี ซึ่งได้ไปเจอกับแม่ของคู่กรณี การคุยกันครั้งนี้ไม่ลงตัว เพราะแม่ของคู่กรณีบอกว่า ลูกของเขาไม่เคยทำใครก่อน และยังสงสัยว่าแฟนของตนไปมองหน้าลูกของเขาก่อนหรือเปล่า จึงทำให้ลูกโมโห เขาจึงโทรเรียกลูกชายเขามา พอลูกชายเขามาถึงโรงพักเขาก็โวยวาย ถามหาแฟนของตน ซึ่งเมื่อพอเขามาเห็นหน้าแฟนตน เขาก็วิ่งเข้ามาควักมีดสปาตาออกมาฟันเข้าที่หัวของแฟนตนเลย ต่อหน้าตำรวจ 2 นายที่อยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ ตนเคยขอให้ตำรวจตรวจสอบอาวุธของฝั่งคู่กรณีก่อนจะนัดมาไกล่เกลี่ยกันแล้ว
ด้าน ศิวะกร กองปัญญา (เปรียว) ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนไม่ได้รู้จักคู่กรณีมาก่อน ตอนที่เขาบอกว่าตนมองหน้า ตนยืนยันได้ว่าไม่ได้มองหน้าเขา ตนเล่นโทรศัพท์อยู่ ส่วนเหตุการณ์วันที่ 9 เม.ย. 66 ที่โรงพัก หลังจากถูกฟันแล้วนั้น ตนต้องกระโดดหน้าต่างหนี บาดแผลของตนถูกฟันลึกไปถึงกระโหลกดีว่าไม่ทะลุกระโหลก โดนเส้นเลือดดำ ต้องเย็บทั้งหมด 11 เข็ม ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ฝั่งคู่กรณีถูกตำรวจจับเข้าห้องขัง แต่ทว่าเขายังเล่นโทรศัพท์ได้ ซึ่งได้โพสต์เหมือนจะตามล่าตน ทำให้ตนกลัว หวาดระแวงจนตนออกจากโรงพยาบาล
ฟาก ลัดดา แม่ผู้ก่อเหตุ เผยว่า ลูกชายเล่าให้ตนฟันว่าเขาถูกหาเรื่องก่อน จึงได้ไปก่อเหตุเอาคืนตามข่าว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจผิดคนหรือไม่ อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนไม่มีเงินไปประกันลูกชาย และคงไม่ประกันตัวออกมา สำหรับเรื่องการเยียวยาตนต้องเยียวเบื้องต้น 50,000 บาท อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าลูกชายไม่ได้เป็นคนดี เพราะเขาติดกัญชา ตอนนี้กำลังบำบัดอยู่
ขณะที่ เกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน ก็มีเหตุคล้าย ๆ ลักษณะนี้ ที่ตำรวจเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย สุดท้ายยิงกันตายต่อหน้าตำรวจ ซึ่งก็เป็นอุทาหรณ์ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรพิจารณาเรื่องแบบนี้ได้แล้ว นอกจากนี้ ถ้าคุณแม่ของผู้ก่อเหตุต้องการประกันตัวลูกชายออกมา ตนมีแนวทางให้ คือต้องไปที่สำนักงานยุติธรรมประจำจังหวัด โดยทางรัฐฯ จะเป็นคนออกเงินประกันตัวให้ แต่คุณแม่จะต้องไปค้ำประกันว่าจะช่วยเคลียร์ให้ลูกชายไม่ไปก่อเหตุกับฝั่งคู่กรณีก่อน
ด้าน พ.ต.อ. วิเศษ ภักดีวุฒ ผกก.สภ.ภู่ทอง กล่าวว่า วันที่ตำรวจนัดมาไกล่เกลี่ยนั้น ไม่คาดคิดว่าผู้ก่อเหตุจะกล้าก่อเหตุ เพราะญาติผู้ใหญ่ก็มากันทั้ง 2 ฝ่าย อีกทั้งเหตุการณ์ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว จึงไม่ได้ทำการตรวจค้นอาวุธอะไร อย่างไรก็ตามตอนนี้หลลักฐานเพียงพอต่อการเอาผิดโดยจะแจ้งข้อหา พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธ และเสพยาเสพติด ซึ่งจะส่งสำนวนให้อัยการช่วงต้นเดือน พ.ค. นี้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35