อุกอาจ ! สาวร้อง อดีตแฟนบุกถีบ จยย. โพสต์ล่าตัว-ขู่ฆ่า ตามราวีไม่เลิก : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

เรื่องราวปัญหาครอบครัว ลามมาจนเกิดความรุนแรง จนสาวผู้ช่วยพยาบาลทนไม่ไหว ร้องสายไหมต้องรอด หลังอดีตแฟน บุกถีบพัง จยย. 3 หน พร้อมทั้งโพสต์ขู่ฆ่า แค่นั้นไม่พอ ยังกีดกันไม่ให้เจอลูก 

 

 

            วันที่ 24 เม.ย. 66 ขวัญ (ผู้เสียหาย) เล่าว่า ตนถูกอดีตแฟน ที่มีลูกด้วยกัน 1 คน ตามรังควานตลอดแม้จะเลิกกันไปแล้วกว่า 3 ปี อีกทั้งยังโพสต์เฟซบุ๊กขู่ฆ่า และตามล่าตัวตนและแฟนใหม่ ซึ่งตนโดนแบบนี้เป็นประจำ แต่ตนก็ยังนิ่งเพราะคิดว่าเขาจะเลิกทำไปเอง ทว่าพฤติกรรมเขามีแต่แรงขึ้นเรื่อย ๆ จนวันที่ 13 เม.ย. 66 มาถีบจนจักรยานยนต์ล้ม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยังก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2 หน โดยมีเพื่อนของเขาร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีโทรไปขู่กับครอบครัวตนอีกด้วย ตนเจอแบบนี้ทำให้สุขภาพจิตเสีย เพราะต้องคอยระแวงเขาอยู่ตลอด 

 

            ทั้งนี้ตนคบกับแฟนเก่ามาได้ 6 ปี ซึ่งในระหว่างที่คบหากันก็มีทะเลาะกันอยู่ตลอด และถึงขั้นลงไม้ลงมือกันบ่อยครั้ง ทำให้ลูกเห็นการทะเลาะกันอยู่ตลอด นอกจากนี้เขายังฝังใจว่าตนเล่นชู้นอกใจเขา เพราะเคยมีช่วงที่ตนได้เลิกรากัเขา ตนได้ไปศึกษาดูใจกับคนใหม่ แต่พอเขามาง้อตนก็กลับไปอยู่กับเขา ซึ่งสุดดท้ายก็ตัดสินใจเลิกรากันอย่างเด็ดขาด ต่างคนต่างไปเริ่มต้นใหม่ นอกจากนี้ เรื่องลูกเขาก็พยายามกีดกันตนไม่ให้เจอลูก เคยพยายามขอเขามาเลี้ยงแต่ก็เขาก็ไม่ยอม  มีแค่ตอนที่ลูกป่วยเข้าโรงพยาบาล ตนได้นำเขามาอยู่กับตน ซึ่งตอนนั้นก็พบรอยช้ำลูกทั่วตัว โดยลูกบอกว่าถูกพ่อทำโทษด้วยการตี ทำให้ตนอยากนำลูกกลับมาเลี้ยงเอง 

 

            ด้าน ต้น (ผู้ก่อเหตุ) เผยว่า ตนถีบจักรยานยนต์ของอดีตแฟนสาวจริง เพราะตนถูกเขาล้ำเส้น จากการที่แฟนใหม่ของเขาเวลาเจอตนก็มาแอบถ่ายรูป และที่ตนโพสต์ตามหาตัวพวกเขาก็เพราะเรื่องนี้ ส่วนที่โพสต์ข่มขู่ตนไม่ได้เจาะจงว่าโพสต์ถึงใคร ขณะที่เรื่องทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาวนั้น มันเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยคบหากัน เพราะว่า อดีตแฟนสาวนั้นนอกใจตนหลายครั้ง

 

            สำหรับเรื่องลูกนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้กีดกันอะไรเขา เวลาเขามาที่บ้านตนก็ไม่เคยไปทำร้ายเขา  ทว่าฝั่งอดีตแฟนสาวเองต่างหากที่ไม่เคยเลี้ยงดูส่งเสียอะไรลูกเลย อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาไม่มายุ่งกับตนก่อน ตนคงไม่ยุ่งกับเขา ต่างคนต่างอยู่ และตนจะดูแลลูกเอง 

 

 

            ฟาก เกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ตนมองว่าทั้ง 2 ฝ่าย รักลูกเหมือนกัน ดังนั้น ต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม โดยแนะนำให้ฝ่ายหญิงมาขอความช่วยเหลือที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อจัดหาทนายต่อสู้คดี ในการเลี้ยงดูลูก หรือพบปะบุตร  ซึ่งด้วยความเป็นแม่ยังไงก็มีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่ต้องศาลเขาจะพิจารณาว่าจะมีสิทธิ์เท่าไหร่ นอกจากนี้ แนะนำให้ไป กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อให้ไปตรวจสอบสภาวะของลูก 

 

 

            ขณะที่  อาชาน โอภาสธนากูล (ตี๋) ทีมงานสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้เราค่อนข้างมีความกังวล เพราะปัญหาเล็ก ๆ ในครอบครัว หากมันสะสมไปเรื่อย ๆ มันจะเกิดเป็นความรุนแรงมากขึ้น อย่างที่เราเห็นในข่าว เราจึงช่วยประสานเรื่องไปยัง สน.สายไหม และพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับคู่กรณี โดยแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท และการทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นข้อหาที่น่าจะทำให้เขาได้รับโทษ อีกทั้งตัวผู้เสียหายค่อนข้างหวาดกลัว จึงขอกับพนักงานสอบสวนให้คุ้มครองพยานด้วย 

 

            ฟาก พ.ต.อ. รังสรรค์  สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม เล่าว่า ตอนนี้ผู้ต้องหามามอบตัวแล้ว โดยมีความผิด ฐานทำให้เสียทรัพย์ และกำลังสอบสวนเพิ่มโทษในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทั้งนี้ในเรื่องความปลอดภัย ตนจะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้กับทั้ง 2 ฝ่ายเอง ซึ่งอาจจะนัดคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายในภายหลัง