แฟนเก่าซิ่งกระบะ ชนแฟนใหม่ ทับหญิงคนรัก อ้างเบรกไม่ทัน คลิปชัดดั่งหนังบู๊ !

ครอบครัวร้องสื่อ ลูกสาวถูกแฟนเก่าขับรถกระบะตามชนจักรยานยนต์ของลูกสาวที่มาพร้อมกับแฟนใหม่ เป็นเหตุให้ ลูกสาวกระเด็นเข้าไปติดใต้รถกระบะ อาการบาดเจ็บสาหัส ฝ่ายผู้ก่อเหตุอ้าง ไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากคุย !  

 

 

            จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 66  เกิดเหตุรถจักรยานยนต์บิกไบก์ ถูกรถขับตามและชนท้าย ซึ่งบนรถจักรยานยนต์มีฝ่ายชายเป็นคนขับ แล้วฝ่ายหญิงซ้อน หลังจากถูกชนนั้น ฝ่ายหญิงกระเด็นลงไปติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะ บาดเจ็บสาหัส ซึ่งผู้ก่อเหตุพยายามจะขับรถทับฝ่ายหญิง ฝ่ายชายจึงหยิบก้อนหินขว้างไปที่ประตูรถยนต์ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุหยุด ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือ นายอ๊อฟ ซึ่งนายอ๊อฟเป็นแฟนเก่าของฝ่ายหญิงที่ถูกชน อ้างที่ชนเพราะอยากคุยเรื่องคดีความ

 

            วันที่ 20 เม.ย. 66 กรณ์ พ่อของผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ก่อนจะมาเกิดเหตุการณ์รถชนขึ้น ลูกสาว และแฟนของเขา เคยมีเรื่องมีราวกับฝั่งนายอ๊อฟ ผู้ก่อเหตุมาก่อน ซึ่งนายอ๊อฟนั้นเป็นแฟนเก่าของลูกสาว โดยวันที่เกิดเหตุ ลูกสาวกับแฟนหนุ่มกำลังขี่รถไปตลาด ซึ่งผ่านหน้าบ้านของนายอ๊อฟ คาดว่านายอ๊อฟน่าจะเห็น ทำให้ช่วงขากลับนายอ๊อฟขับรถตามหลัง ก่อนจะเอาไม้ฟาดไปโดนแฟนของลูกสาว และมากระชากผมลูกสาวตนจนรถล้ม ก่อนจะเอาขวดเบียร์มาตีที่หัวของลูกสาว และเอาขวดที่แตกนั้นมาจี้คอ เหตุการณ์ครั้งนั้นลูกสาวได้รับบวดแผลทั้งหัว ทั้งคอ เย็บไป 11 เข็ม ซึ่งจากประเด็นนี้ ทำให้มีเรื่องราวเป็นคดีความกัน 

 

 

            หลังจากเกิดเเหตุการณ์นั้น ลูกสาวก็กลัวมาก เพราะนายอ๊อฟ ได้รับการประกันตัวออกมา ซึ่งในตอนนั้นตนยังบอกลูกสาวว่า นายอ๊อฟโดนคดีอยู่ คงไม่กล้ามาทำอะไรหรอก จนกระทั่งวันที่ 18 เม.ย. 66 เป็นวันที่เจ้าหน้าที่นัดลูกสาวเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม ลูกสาว และแฟนของลูกก็ได้ขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน ทว่าก็ผ่านหน้าบ้านนายอ๊อฟอีกครั้ง คราวนี้นายอ๊อฟก็ขับรถกระบะตาม ก่อนจะขับรถชนจักรยานยนต์ของลูกและแฟน จนลูกสาวได้เข้าไปติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะ แต่นายอ๊อฟก็ยังไม่หยุดขยับรถ ทำท่าเหมือนจะทับซ้ำ ทั้งนี้นายอ๊อฟได้อ้างว่า เขาพยายามจะขับรถปาดหน้าเพื่อมาคุยกับลูกสาวในเรื่องของคดีขึ้น แต่พลาดควบคุมรถไม่อยู่ ไม่ได้มีเจตนาตั้งใจจะชน

 

 

            ด้าน จุ๋ม แม่ของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุนายอ๊อฟยังได้โทรไปหาเพื่อนของลูกสาว บอกว่า "มึงไปดูเพื่อนมึงสิ กูขับรถชน ว่าอยู่วัดหรืออยู่โรงพยาบาล" นอกจากนี้ก่อนจะเกิดเหตุ นายอ๊อฟมีการมาขู่ฆ่า มาเป็นระยะ ๆ โพสต์โชว์ปืนต่าง ๆ ด้วย ทั้งนี้ ลูกสาวมีอาการบาดเจ็บกระดูกเชิงกรานหัก 2 ท่อน และกระทบกระเทือนที่สมอง อีกทั้งหูข้างขวาฉีกขาด ฟกช้ำทั่วร่างกาย ตอนนี้ตนกังวลเรื่องความปลอดภัย และกังวลว่าเขาจะได้รับการประกันตัวอีก 

 

            ฟาก พ.ต.อ. ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.ป่าโมก กล่าวว่า ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้เคยมีเหตุทำร้ายร่างกายกันมาก่อนแล้ว เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่  18 เม.ย. ก็ได้มาเกิดเหตุรถยนต์ขึ้น ทั้งนี้จากการสืบสวนพบว่า นายอ๊อฟ เคยมีการข่มขู่ ลักษณะอาฆาต จ้องจะทำร้ายถึงชีวิต ขณะเดียวกัน จากการสอบปากคำนายอ๊อฟ พบว่ามีเจตนาที่จะฆ่า  ซึ่งเราพิจารณาข้อมูลเหล่านี้รวมกันหลักฐานในที่เกิดเหตุ จึงได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า ต่อนายอ๊อฟ สำหรับประเด็นรถคันที่เกิดเหตุ นายอ๊อฟไม่ใช่เจ้าของรถ นายอีอฟยืมเพื่อนมา แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องยึดรถไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ยังไม่สามารถคืนรถให้กับเพื่อนของนายอ๊อฟได้ 

 

 

 

            ทั้งนี้ ในคดีแรกตนได้คัดค้านการประกันตัวนายอ๊อฟไป แต่เขาน่าจะได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ส่วนในคดีล่าสุดนี้ ญาติของนายอ๊อฟไม่ได้มีญาติคนไหนมาขอประกันตัว ตนจึงได้ส่งตัวไปฝากขังเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลแล้ว ว่าเขาจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเขาได้รับการประกันตัว ทางตำรวจจะให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยกับทางผู้เสียหาย และล่าสุดหลังจากเกิดเหตุ ทางตำรวจได้ให้ญาติของทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันแล้วว่าจะเลิกแล้วต่อกัน 

 

 

            ด้าน เกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ครอบครัวผู้เสียหายไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเยียวยาเลย เพราะมีสิทธิ์รับเงินเยียวยากรมคุ้มครองสิทธิฯ เนื่องจาก เหตุเกิดจากการกระทำความผิดจากบุคคลอื่น ตอนนี้ต้องรอดูว่าผู้เสียหายจะบาดเจ็บกี่วัน หรือจะทุพลภาพหรือไม่ เราจะคำนวนออกมาเป็นเงินเยียวยาให้ ทั้งนี้ตนแนะนำให้ครอบครัวผู้เสียหายติดตามเรื่องประกันของรถ เนื่องจากเงินเยียวยาจากทางประกันนั้นเยอะกว่าเงินเยียวยาที่รัฐบาลเยียวยาให้ อีกเรื่องหนึ่งตนแนะนำให้ ไปถอนการประกันตัวในคดีแรก และคัดค้านการประกันตัวในคดีสองให้มันสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำโอากาสในการประกันตัวในคดีที่สองได้นั้น น้อยลง