ตัวแทนจาก 9 พรรคการเมือง ร่วมประชันวิสัยทัศน์ ปัญหาเกี่ยวกับการบริการทางสาธารณสุข อาทิ การบริการที่ไม่มืออาชีพ เครื่องมือไม่พร้อม ต้องรอคิวตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนบางกรณีถึงขั้นสูญสียชีวิต จะแก้อย่างไร บนเวที BIG DEBATE นครราชสีมา โดยช่วงที่ 2 เป็นการตอบคำถามจาก 4 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และ พรรคพลังประชารัฐ
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคมีนโยบายสาธารณสุข คือ เร่งรัดพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ที่ได้มาตรฐานวิชาชีพและมีคุณภาพ ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง โดยเร่งรัดการผลิตแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ ให้ รพ.สต. ไปอยู่กับ อบจ. เพื่อลดความแอร์อัดของคนไข้ใน รพ.
โกศล ปัทมะ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ซึ่งพรรคจะยกระดับโดยเฉพาะการนัดคิว ให้มีการนัดออนไลน์ บัตร ปชช. ใบเดียว สามารถรักษาได้ทุก รพ. ทั่วประเทศ ไม่ต้องรอรับยา ตรวจเสร็จแล้วไปรับยาใกล้บ้าน
นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง พรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีตัวเลข 2 ตัวที่ต้องดู คือ จำนวนหมอ กับ จำนวนคนไข้ ในส่วนของจำนวนหมอ เราต้องเพิ่ม หรือคงไว้ ด้วยการเพิ่มสวัสดิการและการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ให้เพียงพอ ถูกต้อง และเหมาะสม ในส่วนของจำนวนคนไข้ ต้องลดจำนวนลง คนไทยจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น และต้องกระจายตัวผู้ป่วยออกไปในแต่ละสถานพยาบาล ไม่มากองตาม รพ. หลัก ๆ
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลและได้ดูแล ก.สาธารณสุข เรามีวิธีแก้ไข คือ ต้องปฏิรูประบบการรักษาพยาบาล ซึ่งการแก้ต้องเป็นไปได้ และใช้เครื่องมือที่มีอยู่ เช่น Telemedicine (แพทย์ทางไกล) พร้อมทั้งยกระดับ รพ.สต. และ อสม.
พบกับรายการ “เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย BIG DEBATE” ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 19.30 น. บนช่องทางออนไลน์ของ Ch7HD และ TERO Digital และ ตั้งแต่เวลา 20.30 น. ยิงสด ส่งตรงผ่านหน้าจอทีวีช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม