สาว PR ถูกแฟนหนุ่ม ลากตัวครูดไปกับถนน กว่า 1 กม. เจ็บสาหัส | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

110 ครั้ง

19 เม.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ชายหนุ่มหึงแฟนสาว บุกตบแฟนสาวขณะทำงานต้อนรับลูกค้าอยู่ในร้านข้าวต้ม ท่ามกลางสายตาลูกค้าที่มาใช้บริการจำนวนมาก จากนั้นได้จับแฟนสาวขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่แฟนสาวไม่ยอมขึ้น ชายหนุ่มจึงขี่รถจับตัวแฟนสาวลากครูดไปกับถนนไกลเกือบ 1 กิโลเมตร ตอนนี้แฟนสาวเจ็บสาหัส รักษาตัวไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ยังไม่มั่นใจจะกลับมาปกติเหมือนเดิมหรือไม่

ภาพที่พลเมืองดีที่เหตุการณ์ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปดู จะเห็นมีรอยเลือดอยู่บนถนนตลอดทางจนถึงหน้าบ้านผู้ก่อเหตุ จากนั้นพลเมืองดีได้แจ้งตำรวจและกู้ภัย เพื่อพาส่งโรงพยาบาล

ส่วนผู้ก่อเหตุรายนี้ถูกตำรวจจับแล้ว และได้รับการประกันตัวออกมาแล้วเช่นกัน ทางญาติเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กลัวผู้ก่อเหตุจะมาก่อเหตุซ้ำ จึงเดินทางมากระทรวงยุติธรรมเพื่อขอสิทธิ์คุ้มครองพยาน เรามาตามความคืบหน้าในคดีนี้กัน

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา นางกิ่งกาญจน์ สุดแจ้ง อายุ 56 ปี มารดา และ นางสาวนันทิยา อัจยตโพคิน อายุ 33 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บ เข้าพบ นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้บาดเจ็บ เพราะวันนี้ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว จึงกลัวว่าจะมีการบุกมาทำร้ายอีกหรือไม่ จึงมาขอชุดคุ้มครองพยานและเงินเยียวยาต่าง ๆ ที่รัฐบาลจะดูแลให้ ขณะที่ด้าน ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ส่งสายตรวจไปดูที่บ้านและติดตู้แดงสายตรวจเพื่อความปลอดภัยแล้ว

ด้าน นางกิ่งกาญจน์ ระบุว่า ตอนแรกที่เห็นภาพรู้สึกรับไม่ได้ ทำกับน้องเหมือนหมาตัวหนึ่ง ตอนเห็นก็รู้ทันทีว่าแฟนของลูกสาวเป็นคนทำ เพราะเคยก่อเหตุแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้หนักที่สุด คาดว่าจะมาจากอารมณ์หึงหวง แม่เคยเตือนลูกแล้ว แต่ลูกบอกว่าให้โอกาส และจะปรับปรุงตัวได้

อยากฝากบอกผู้ก่อเหตุว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใคร ทุกคนเป็นลูกมีพ่อมีแม่ และจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด ชีวิตตอนนี้ลำบากขึ้นเพราะแม่ก็หาเช้ากินค่ำเป็นลูกจ้างเทศบาล ลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่วนค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดตอนนี้ยังสรุปไม่ได้เพราะเพิ่งเริ่มรักษา ต้องรักษาประมาณ 2 เดือน แต่จะกลับมาเดินได้เหมือนเดิมหรือไม่หมอยังตอบไม่ได้ ส่วนบาดแผลที่น้องได้รับคือ ฟันหัก ปากแตกเย็บปาก หัวแตก เย็บหัวเข่าทั้ง 2 ข้าง นิ้วโป้งมีบาดแผลทะลุถึงกระดูก

ทางด้าน นางสาวนันทิยา กล่าวว่า ตนเองเป็นเพื่อนสนิท กับผู้บาดเจ็บมาก ทำงานอยู่ที่เดียวกัน แต่ช่วงหลังไม่ค่อยได้คุยกัน ตนเองไม่รู้จักผู้ชายคนที่ก่อเหตุเลย แต่มีคนที่รู้จักก็จะคอยมาบอกตลอดว่าผู้ชายคนที่ก่อเหตุชอบทำร้ายเพื่อนตนเองเป็นประจำ ตนเองรู้จักนิสัยเพื่อนคนนี้ดีคือเป็นคนชอบให้อภัยคน ทำให้ไม่ยอมเลิกกับผู้ชายคนนี้ ทำให้เกิดดังกล่าวขึ้น

ด้าน นายเกิดโชค เผยว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะเข้ามาดูแล เรื่องที่ 1 คือเยียวยาชดเชยความเสียหายที่ได้รับ คือค่ารักษาพยาบาล ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ค่าฟื้นฟูสภาพจิตใจ

เรื่องที่ 2 คือเรื่องการดูแลเรื่องความปลอดภัย หากเป็นพยานในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะดูแลพยานในเรื่องความปลอดภัย รวมไปถึงรับ-ส่งพยานในการเบิกความในชั้นศาล หรือดูแลจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ส่วนข้อแนะนำเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีครอบครัว ที่เป็นการทะเลาะกันของสามีภรรยา อาจจะต้องเสนอให้กระทรวงยุติธรรมในพื้นที่ดูแลหาทนายความในการให้คำปรึกษาเรื่องการฟ้องหย่า ในฐานะทำร้ายร่างกายเกินกว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยาได้

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35