ญาติคาใจ สาววูบดับ แต่เพื่อนขับรถหนี อ้างไม่รู้เพื่อนตาย สุดท้าย พบพิรุธเพียบ !

กลายเป็นปมปริศนา หลังสาววูบดับริมน้ำ เป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ที่ยิ่งกว่านั้น เพื่อนที่มาด้วยกันมีพิรุธมากมาย ทั้งไม่ยอมเข้าไปช่วย ขับรถหนี พร้อมทั้งแอบเเอาทรัพย์สินไปด้วย ! 

 

 

            วันที่ 18 เม.ย. 66 นิภาวรรณ ขันวงษ์ (ส้ม) พี่สาวของผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย กาย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา เล่าว่า น้องสาวของตน หายตัวไปอย่างปริศนาในวันที่ 14 เม.ย. 66 ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า หมดสติระหว่างนำปลาไปปล่อยบริเวณริมน้ำแห่งหนึ่งใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ แอม เพื่อนของก้อย ปฏิเสธว่า ไม่ได้ไปหาก้อย ทว่าเมื่อตนเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดก็ต้องช็อก เมื่อพบว่าแอมโกหกตั้งแต่ต้น เพราะเขานัดกับน้องสาวตนออกไปปล่อยปลา เมื่อน้องหมดสติแล้ว แอมถึงได้หนีหายไป พร้อมพบพิรุธมากมาย 

 

            คุณส้ม เล่าเพิ่มว่า ตอนช่วงเช้าของวันที่ 14 เม.ย. 66 ตอนนั้นเราติดต่อน้องสาวไม่ได้ โทรไปหาก็ไม่ติด เพื่อนของน้องที่น้องได้ยืมรถเขาไป บอกตนว่า น้องไปหาแอมเพื่อจะไปคุยเรื่องทนาย ตนจึงติดต่อไปหาแอม แต่แอมกลับบอกว่าไม่ได้อยู่กับน้องสาวตน โดยแอมอยู่ที่ จ.อยุทธยา ตนก็ได้ตามหาไปเรื่อย ๆ กระทั่ง 14.00 น. ตนยังหาน้องไม่เจอ จึงโพสต์ตามหาน้องตามเฟซบุ๊ก จากนั้นไม่นาน ก็มีคนส่งรูปน้องสาวมาให้ตน แจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว ตนก็ช็อกมาก ซึ่งก็ได้ติดต่อไปบอกแอม และแอมก็ได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใย ตนก็ไม่ได้คิดอะไรจนกระทั่งได้ไปเห็นภาพกล้องวงจรปิด ว่าน้องสาวของตนได้ออกไปกับแอม ตั้งแต่ต้น เมื่อรู้เรื่องตนช็อกมากจนสลบไปเลย เพราะ ตนก็สนิทกับแอม ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้น หลังจากนั้นเขาก็พยายามติดต่อมาหาตน แต่ตนก็ไม่ได้อยากคุยกับเขาแล้ว เนื่องจาก เขาโกหกตนมาตั้งแต่ต้น โดยเขาไม่เคยยอมรับอะไรเลย 

 

            นอกจากนี้ ทรัพย์สินของน้องตนยังหายไปด้วย โดยมี กระเป๋าแบรนด์เนม 1 ใบ เงินสดประมาณ 50,000 บาท และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง ทรัพย์สินต่าง ๆ ยังหาไม่เจอ ตอนนี้เจอแค่รถยนต์ที่หายไปในตอนแรก ขณะที่ สาเหตุการเสียชีวิตแพทย์วิเคราะห์ว่า มาจากระบบหัวใจล้มเหลว ซึ่งตนก็ยังติดใจว่าสาเหตุของการที่หัวใจล้มเหลวเกิดจากอะไร เพราะน้องสาวเองก็ยังแข็งแรงดีอยู่ 

 

 

            ฟาก รพี ชำนาญเรือ (รพี) พี่ชายคนสนิทของผู้เสียชีวิต เล่าต่อว่า วันที่เกิดเหตุ ก้อยได้ออกไปกับแอม เพื่อจะไปปล่อยปลากัน โดยได้ขับรถของเพื่อน เป็นรถโตโยต้า ยาริส ทว่าเมื่อไปดูกล้องวงจรปิดของสถานที่เกิดเหตุแถมริมน้ำ อ.บ้านโป่ง จ.กาญจนบุรี พบว่า รถที่ก้อยเอามาหายไป จึงโพสต์ประกาศตามหาจนไปเจอรถคันดังกล่าว ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ทำให้ตนตีกรอบเข้ามาได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร ซึ่งมันเกี่ยวกับคนชื่อแอมทั้งหมด เพราะว่า รถของก้อยที่จอดอยู่ในบ้านของข้าราชการนั้น ตัวแอมน่าจะรู้จักข้าราชการคนดังกล่าว และตัวเขาเองก็มีสามีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตนมองว่าอาจจะทำกันเป็นขบวนการ เพื่อจะหวังอะไรบางอย่าง

 

            ทั้งนี้ แอมได้ได้ปฏิเสธทั้งหมด อ้างว่าไม่ได้ขับรถมาหาก้อย ที่ริมน้ำก็ไม่ใช่เขา แต่สุดท้ายก็มายอมรับภายหลังว่าทั้งหมดเป็นเขาเอง ให้เหตุผลว่าที่โกหกเพราะรถที่เขาขับเป็นรถผิดกฎหมาย ทำให้เขาไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ก็มายอมรับกับตนภายหลังว่า ทรัพย์สินต่าง ๆ ของก้อยที่หายไป เขาได้เอาไปทิ้งแล้ว ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกคือ แอม ได้โกหกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไปดูจุดเกิดเหตุต่าง ๆ รวมถึงจุดที่ทิ้งทรัพย์สอนด้วย จนเขาหัวปั่นกันหมด และเขาก็เหมือนรู้ช่องว่างทางกฎหมาย สิ่งที่เขายอมรับอะไรกับตน เขาจะยอมรับต่อเมื่อจำนนต่อหลักฐานแล้ว  

 

            ตอนนี้ ตนมีหลักฐานใหม่ล่าสุด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ถ้าหากว่ากองปราบ เข้ามาทำคดีนี้ ตนจะมอบหลักฐานให้ เพราะตนไม่อยากให้หน่วยงานในพื้นที่ทำคดีนี้ สำหรับประเด็นที่ครอบครัวกังวลนั้น คือ แอมนั้นมีความเกี่ยวข้องกับข้าราชการ ในพื้นที่เกิดเหตุ ก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม 

 

 

            ด้าน ทองพิน เกียรติชนะสิริ แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนได้คุยกับลูกสาวตอนเช้าวันที่ 14 เม.ย. 66 โดยลูกบอกว่าจะกลับมารับตนตอนเย็น แต่ลูกก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ซึ่งหน้าตาลูกก็ยังแข็งแรงปกติดีอยู่ ขณะที่อาการป่วยของลูกก็ไม่มีอะไรเลย มีแค่ช่วง 2 เดือนหลังเพิ่งเป็นโรคเครียด แต่ก็กินยาแล้วพักผ่อนก็ดีขึ้น หลังจากเสียลูกสาวไป เหมือนตนเสียเสาหลักของครอบครัวไป ขอวิงวอนให้เอาคนร้ายมาลงโทษให้ได้ อย่าให้ลูกตนตายฟรี 

 

 

            สำหรับ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต กล่าวว่า จากหลักฐานต่าง ๆ ตนมองว่าแอมมีพิรุธ ซึ่งในตอนนี้ผู้เสียชีวิตล้มลงไป ถ้าสังเกตดูคนรอบข้างที่เขามาปล่อยปลาเหมือนกัน เขายังวิ่งเขามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่ตัวผู้ต้องสงสัยมาด้วยกัน แต่กลับไม่วิ่งเข้าไปดูว่าเพื่อนเป็นอะไร และยังมีการพูดไม่ตรง พูดโกหก ทั้งเรื่องการนำทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตไปทิ้ง แสดงว่า ในกระเป๋าอาจจะมีหลักฐานที่สำคัญต่อคดี อย่างไรก็ตามการชันสูตรโดยละเอียด จะทำให้เราทราบร่องรอยหลายประการ อาทิ อาจจะถูกวางยาเป็นต้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ 

 

            สำหรับโอกาสในการเป็นลมวูบหมดสติ แล้วเสียชีวิตนั้น โอกาสค่อนข้างยากในการบอกละเอียด ว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ บางทีเจ้าตัวก็ยังไม่รู้เลย ทว่าผู้เสียชีวิตมีอาการของโรคซึมเศร้า ความเครียด คนใกล้ชิดต้องลองไปตรวจสอบหาข้อมูลดู เพราะอาจเชื่อมโยงกับการฆาตรกรรม ทั้งนี้หากครอบครัวกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม แนะนำให้ทำเรื่องร้องทุกข์ไปยังกองปราบปราม เพื่อขอความเป็นธรรม