เซลสาว คลินิกเสริมความงาม ถูกแฟนที่พึ่งคบกับ 10 เดือนทำร้ายร่างกาย ต้องหนีออกมาอยู่คนเดียว เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่กลับถูกแฟน สั่งให้ตำรวจอายัดบัญชี อายัดรถยนต์ ซึ่งเป็นสมบัติที่ตนเองหามาทั้งหมด
ตนเองรู้สึกแปลกใจ ทำไมตำรวจถึงมาอายัด เงินในบัญชีกับรถยนต์ขอตนเองได้ แถมรถก็เป็นชื่อเพื่อนตนเอง และที่หนักกว่านั้นคืน ตำรวจที่ทำการอายัดทรัพย์สินตนเอง ไม่ใช่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ แต่เป็นตำรวจอยู่ในกรุงเทพ แล้วตำรวจเอาอำนาจอะไรมาอายัดทรัพย์สินตนเองได้
นางสาวณัฐนิชา โพธิ์ทองนาค อายุ 34 เซลขายคอร์สคลินิกความงาม ได้เดินทางมาร้องเพจ สายไหมต้องรอด เพื่อขอให้ช่วยให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากตนเองถูกรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมมือกับครอบครัวของแฟนเก่า
นางสาวณัฐนิชา กล่าวว่า เมื่อประมาณ 10 เดือนที่แล้ว ตนเองได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นนักมวยอยู่ในสังเวียน fight club thailand จากใน TikTok จากนั้นตนเองได้คบหากันในฐานะแฟน และได้มาเช่าบ้านอยู่ด้วยกันในจังหวัดนครปฐม ตนเองเป็นคนจ่ายค่าเช่าบ้านทุกเดือน ค่าใช้จ่ายอยู่กินก็เป็นเงินของตนเอง
จากนั้นเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้แต่งงานกับผู้ชายคนดังกล่าว แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ค่าจัดงาน 70,000 บาทตนเองเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมด หลังจากแต่งงานกันได้เพียง 1 เดือน ฝ่ายชายก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป มีการให้รุนแรง เริ่มมีการทำร้ายร่างกายตนเองเรื่อยมา หนักสุดถึงขั้นใช้มีดวิ่งไล่แทง ตนเองต้องแอบแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ พอตำรวจมา ได้เข้ามาพาตัวตนเองออกมาจากจุดนั้น
จากนั้นแม่ของฝ่ายชายได้โทรศัพท์มาพูดคุยให้กลับไปคืนดีกัน ตนเองคิดว่าเขาจะกลับตัวกับใจไม่ทำร้ายเราแล้ว จึงกลับไปคืนดีด้วย แต่พอกลับไปก็โดนทำร้ายอีก และยึดทองคำน้ำหนัก 5 บาทของตนเองไว้ ตนเองจึงออกอุบายว่า ขอทองคืนก่อนได้ไหม จะนำไปจำนำชำระหนี้ หลังจากที่ตนเองได้ทองคืนมาแล้ว ตนเองก็หนีออกมาจากจุดนั้นเลย ไม่ขอกลับไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว
ต่อมา รถยนต์ของเพื่อนตนเอง ที่ตนเองนำมาใช้ทำงาน ที่จอดซ่อมไว้ที่อู่ ได้มีกระดาษจากตำรวจมาติดไว้ที่รถยนต์เขียนว่า ห้ามเคลื่อนย้ายรถคันนี้ ตนเองก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงมาอายัดรถคันนี้ได้ เพราะตนเองไม่เคยพัวพันกับเรื่องยาเสพติด ตนเองจึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โพธิ์แก้ว และได้โทรไปสอบถามตำรวจที่ทำการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายรถ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ตำรวจจึงบอกว่า ขณะนี้ไม่ได้แจ้งห้ามเคลื่อนย้ายรถอย่างเดียวนะ ตอนนี้ยังได้แจ้งอายัดบัญชีธนาคารไว้ด้วย เพราะมีคนมาแจ้งความว่าถูกตนเองเอาทรัพย์สินที่หามาด้วยกันไป ให้ตนเองเข้ามาไกล่เกลี่ยที่ สน.ศาลาแดง
ตนเองจึงได้เดินทางไปที่ สน.ศาลาแดง เพื่อไกล่เกลี่ยกับชายคนดังกล่าวพร้อมกับครอบครัวของเขา ซึ่งทางแม่ของผู้ชายคนดังกล่าวได้ยื่นข้อเสนอมาว่า ให้ตนเองนำเงินมา 200,000 บาททองคำหนัก 10 บาท เพื่อเป็นการจบเรื่อง ตนเองไม่ยอมจ่ายให้ เพราะทรัพย์สมบัติทั้งหมดเป็นของตนเองที่หามา ไม่ได้เป็นของฝ่ายชายเลยแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งรถยนต์คันที่ถูกตำรวจสั่งห้ามเคลื่อนย้าย ก็เป็นรถของเพื่อนตนเอง ซื้อมาก่อนที่ตนเองจะมาคบกับฝ่ายชายอีก
ตอนนี้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัยเนื่องจากฝ่ายชายเข้ามาข่มขู่ที่บ้านแม่ของตนเอง และมีการส่งรูปปืนมาข่มขู่อีกด้วย แล้วพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้ก็ไม่เป็นธรรม ไม่ได้อยู่ในท้องที่เกิดเหตุ แต่มารับทำคดีนี้ได้อย่างไร มาอายัดทรัพย์สินตนเองแบบนี้ได้อย่างไร โดยที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตนเองเลยสักคดี ตนเองจึงอยากวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย เพราะตอนนี้ตนเองได้ตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้ตนเองจะหนีไปไหนก็ไม่ได้ รถก็ถูกสั่งอายัดไว้ เงินติดตัวสักบาทก็ไม่มีเพราะถูกอายัดบัญชี
ทางด้านอาชาน โอภาสธนากูร ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนเองก็สงสัยในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานเหมือนกัน เนื่องจากเหตุไม่ได้เกิดในพื้นที่นั้น แต่ทำไมคู่กรณีถึงไปแจ้งความในท้องที่ดังกล่าว และพนักงานสอบสวนได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารไว้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการติดต่อสอบถามถึงเจ้าของบัญชีธนาคารเลย
ต่อมาทางด้านทีมงานเพจสายไหมต้องรอดได้โทรศัพท์ไปสอบถามพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง ที่ทำการอายัดบัญชีธนาคารและสั่งห้ามเคลื่อนย้ายรถยนต์ของผู้เสียหาย ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวอ้างว่า มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ จึงต้องอายัดบัญชีทรัพย์สินไว้ ส่วนเรื่องรถยนต์ตนเองไม่ได้อายัดไว้ แค่สั่งห้ามเคลื่อนย้ายเฉย ๆ ส่วนเรื่องที่ตนเองอยู่นอกเขตรับผิดชอบแล้วมาทำคดีนี้ได้อย่างไร ตนเองยืนยันว่าไม่รู้ว่าอยู่นอกพื้นที่ เห็นผู้แจ้งบอกว่าอยู่ในพื้นที่ของสถานีตำรวจ ตนเองจึงรับทำคดีโดยที่ยังไม่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และไม่ได้คุยกับคู่กรณีก่อน
ทั้งนี้งานสอบสวนคนดังกล่าวยังระบุว่า ตอนนี้ตนเองได้ลางานช่วงสงกรานต์ จะกลับมาทำงานอีกทีในวันที่ 17 เมษายน หลังตนเองกลับมาทำงานจะทำการปลดอายัดทรัพย์สินให้ทั้งหมด
มาฟังทางด้านฝั่ง ผู้ชายอธิบายถึงเรื่องนี้กันบ้าง มี Facebook ที่ใช้ชื่อว่า มหา ทรัพย์ ได้ออกมาไลฟ์สดพูดถึงเรื่องนี้ว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ติดคุกอยู่นาน ไม่รู้ว่าแม่แอบเดินบัญชีธนาคารให้ พอนางสาวน้ำรู้ว่าบัญชีตนเองสามารถกู้ธนาคารได้ นางสาวน้ำก็ให้เพื่อนที่ทำงานอยู่ในธนาคารมาเดินเรื่องการกู้ธนาคารให้ โดยกู้มาทั้งหมด 4 ครั้ง เป็นจำนวนเงินเกือบ 400,000 บาท ธนาคารได้โอนเงินเข้ามาในบัญชีของตนเอง หลังจากนั้นตนเองได้โอนเงินทั้งหมดออกไปให้กับนางสาวน้ำต่อ โดยมีหลักฐานการโอนเงิน ตนเอง ช่วยทำมาหากินตลอด ไปขายขนม ได้กำไรมาเท่าไหร่ ก็จะให้นางสาวน้ำทั้งหมด โดยไม่ได้ขอเงินเก็บไว้ใช้เลย
ล่าสุด หลังจากคราวนี้แพร่กระจายออกไป ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาคุยกับ นางสาวณัฐนิชา โพธิ์ทองนาค (ผู้เสียหาย) ขอให้ไม่ออกสื่อได้ไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้จะรีบกลับไปถอนอายัดให้ทั้งหมดเลย ไม่รอถึงวันที่ 17 แล้ว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35