จับ 1 ผู้ต้องหา ร่วมยิงถล่มบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้าน พบปมถูกกีดขวางความรัก

459 ครั้ง

11 เม.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามแบบ เอ็ม 16 บุกเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีการดวลปืนกัน พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้รวม 6 ราย จับคนร้ายได้แล้ว 1 คน ขณะที่ดาบตำรวจ ผู้ก่อเหตุคนสำคัญ ยังหลบหนี

โดยผู้เสียชีวิต 4 คนแรก ก็คือ นายธรรมรงค์ เจ้าของบ้าน และอดีตผู้ใหญ่บ้าน, นางนิลทิพย์ เป็นภรรยา, นายพรศักดิ์ อดีตผู้ใหญ่บ้านเช่นกัน และรายที่สี่คือ นายธรรมรัตน์ เป็นหนึ่งในกลุ่มของคนร้ายที่ก่อเหตุ

และเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังพบศพผู้เสียชีวิตอีกคน ภายในรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งเป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุ จอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในลานวัดไกรสรเขตราราม อำเภอบ้านตาขุน เข้าตรวจสอบ พบมีผู้เสียชีวิตภายในรถ คือ นายบาส เป็นลูกชายของ ดาบตำรวจ อรรถพร

เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า หลังก่อเหตุ ดาบตำรวจ อรรถพร ได้โทรไปหาพี่ชายที่บวชเป็นพระว่า ลูกชายถูกยิงตาย ก่อนนำรถมาจอดทิ้งไว้ที่วัดดังกล่าว จากการชันสูตรพลิกศพพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะด้านขวา กระสุนทะลุออกทางด้านซ้าย จำนวน 1 นัด

ต่อมาเมื่อเช้าวานนี้ (10 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า พบศพหญิงสาว ถูกยิงเสียชีวิตในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจไปตรวจสอบหน้าห้องพักหมายเลข 1 พบรถเก๋งสีดำ จอดอยู่ 1 คัน ตรวจสอบภายในห้องพบศพ นางสาวพนิดา นิลนิยม เป็นภรรยาของ ดาบตำรวจ อรรถพร นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน จากการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่ใต้ตาซ้ายทะลุขมับขวา 1 นัด ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ปลอก

สอบถาม นางสาวเตย (นามสมมุติ) ผู้ดูแลห้องพักทราบว่า ดาบตำรวจ อรรถพร ได้มาเปิดห้องพัก ห้องเบอร์ 1 ไว้สามคืน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน และวันที่ 8 เมษายน มาเปิดห้องเบอร์ 7 เพิ่ม อีกหนึ่งห้อง จนมาเห็นในข่าวก็รู้ว่าเป็น ดาบตำรวจ อรรถพร ที่ตนเองรู้จักเป็นผู้ก่อเหตุ จนมีเจ้าหน้าที่แกะรอยมาเจอรถ และไม่ทราบว่าในห้องมีผู้หญิงอยู่ด้วย เพิ่งมาทราบตอนมีตำรวจตรวจสอบ ก็พบว่าผู้หญิงในห้องเสียชีวิตดังกล่าว ต่อมาทางครอบครัวของ นางสาวพนิดา ได้นิมนต์พระจำนวน 2 รูป มาทำพิธีเชิญวิญญาณและเรียก นางสาวพนิดา กลับบ้าน

โดยญาติผู้ตายคนหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุกราดยิง และนางสาวพนิดา ได้หายตัวไปด้วย ก็ได้แต่ภาวนาให้รอดชีวิตกลับมาบ้าน ทุกคนต่างเฝ้ารออยากให้ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนปมปัญหาทราบเพียงว่าผู้ตายคบหากับ ดาบตำรวจ อรรถพร แต่ทางผู้ใหญ่ธรรมรงค์ไม่ให้คบหากัน

ต่อมาตำรวจ สภ.บ้านตาขุน ยังพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส ถูกจอดทิ้งไว้หน้าห้องพักเบอร์ 5 ของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในหมู่ที่ 2 ตำบลเขาวง อำเภอบ้านตาขุน ซึ่งเป็นรถที่ ดาบตำรวจ อรรถพร วิเชียร เป็นผู้เช่ามา ตรวจในรถพบอาวุธปืนสงคราม M 16 จำนวน 1 กระบอก จึงยึดไว้ตรวจสอบ

ขณะที่ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงคดีนี้ว่า ชนวนเหตุสังหารอดีตผู้ใหญ่บ้าน เกิดจากปัญหาระหว่างพ่อตาและลูกเขย โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายมานพ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกับดาบตำรวจ อรรถพร ก่อเหตุได้แล้ว พร้อมยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล และไล่ล่าตัว ดาบตำรวจ อรรถพร โดยมั่นใจว่าจะได้ตัวในเร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกันช่วงเย็นวานนี้ (10 เม.ย.) พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ติดตามคดีที่ สภ.บ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดย พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวนายมานพ ผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุร่วมกับ ดาบตำรวจ อรรถพร ขณะหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จังหวัดพังงา สอบสวนนายมานพ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุก็ไม่รู้ว่า ดาบตำรวจ อรรถพร จะชวนไปยิงนายธรรมรงค์ พ่อตา และหลังก่อเหตุ ดาบตำรวจ อรรถพร มีอาการเครียดจนคุ้มคลั่ง จึงได้บอกให้ ดาบตำรวจ อรรถพร ขับรถไปส่งที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะถูก ดาบตำรวจ อรรถพร ยิงตายไปอีกคน และมาทราบทีหลังว่า ดาบตำรวจ อรรถพร ได้ยิงนายอรรถพล ลูกชายตายในรถเพิ่มอีกหนึ่งคน

ทั้งนี้ นายมานพ มีประวัติเป็นมือปืนในพื้นที่ และเคยถูกจับกุมในข้อหาเกี่ยวกับคดีฆ่า และเพิ่งพ้นโทษออกมาก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก

ในส่วนของผู้กำกับ สภ.คีรีรัฐนิคม ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 ได้มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร ภาค 8 เนื่องจากปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในพื้นที่ และทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว

ส่วนเรื่องที่ ดาบตำรวจ อรรถพร ส่งข้อความไปหาคนใกล้ชิดประกาศจะยอมตายนั้น

พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35