เช้านี้ที่หมอชิต - นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร้องสภาทนายความ ยื่นสอบมรรยาททนายตั้ม พร้อมขอลบชื่อเพิกถอนใบอนุญาตทนาย
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าร้องต่อสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ยื่นหนังสือให้สอบมรรยาท นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เนื่องจากมีพฤติกรรมหลายอย่าง ที่เข้าข่ายผิดต่อมรรยาททนายความ โดยมีนายวัชระ สุคนธ์ กรรมการมรรยาททนายความ และนายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเป็นผู้รับเรื่อง
นายชูวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่ทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวโจมตีตน ซึ่งไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้เป็นคู่ความ จึงไม่รู้ว่า อีกฝ่ายมีวัตถุประสงค์ใด ไม่เข้าใจว่ากล่าวหาโจมตี ประจานตนและลูกชายเพราะอะไร อีกทั้งใช้สื่อออนไลน์กล่าวโจมตีมาตลอด จึงนำหนังสือ มาร้องเรียนต่อนายกสภาทนายความ ให้ตรวจสอบว่า นายษิทรา ฝ่าฝืนข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยเรื่องมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 หมวด 4 หรือไม่ และขอให้ลบชื่อออก เพิกถอน ใบประกอบวิชาชีพ เพื่อเป็นตัวอย่าง บนพื้นฐานจริยธรรมและศีลธรรมอันดี
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า จากกรณีที่ปัจจุบัน มีทนายความหลายคน ให้ข้อมูลทางโซเชียล แต่ไม่ครบถ้วน จึงต้องการปราบแก๊งทนายโซเชียล มองว่าเป็นอันตรายต่อประชาชน เป็นการโฆษณา เรียกราคา ซึ่งอาชีพทนายความ ควรพิสูจน์ฝีมือว่าความ ไม่ใช่การพูดผ่านโซเชียลให้ประชาชนหลงเชื่อ ถูกหลอกด้วยข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือข้อมูลผิด ๆ
ขณะที่นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กล่าวว่า หลายครั้งที่ทนายตั้มแถลงข่าวออกสื่อ ส่วนตัวก็เห็นว่าไม่สมควร เข้าข่ายผิดมรรยาททนายความ ซึ่งต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป ขณะที่นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กล่าวว่า หลายครั้งที่ทนายตั้มแถลงข่าวออกสื่อ ส่วนตัวก็เห็นว่าไม่สมควร เข้าข่ายผิดมรรยาททนายความ ซึ่งต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับการพิจารณาลงโทษทนายความที่ทำผิดมรรยาททนายความ มี 4 ระดับ คือ ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์, พักใบอนุญาต ไม่เกิน 3 ปี และโทษหนักสุด คือลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ ส่วนการว่ากล่าวตักเตือน และภาคทัณฑ์ นั้นยังสามารถว่าความได้ แต่ความผิดที่ถูกพักใบอนุญาตและลบชื่อออกจะเป็นทนายความนั้น ห้ามว่าความโดยเด็ดขาด
ด้านนายวัชระ สุคนธ์ กรรมการมรรยาททนายความ กล่าวว่า จะนำหลักฐานไปตรวจสอบ โดยจะตั้งเป็นรูปแบบคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมานายษิทรา เคยถูกร้องเรียนการทำหน้าที่ของทนายมากกว่า 12 เรื่อง บางเรื่องอยู่ระหว่างตรวจสอบและบางเรื่องคณะกรรมการยกคำร้องไป
สำหรับทนายความถูกลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ ทนายความผู้ถูกร้อง ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ไปยังรัฐมนตรีว่าการยุติธรรม เพื่ออุทธรณ์คำสั่งของสภาทนายความ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังมีความเห็นเหมือนเช่นเดียวกับสภาทนายความ ก็ยังสามารถฟ้องศาลปกครอง เพื่อพิจารณาต่อไป และหากครบกำหนด 5 ปี ที่ถูกลบชื่อออก สามารถยื่นเรื่องขอเป็นทนายความกับสภาทนายความได้ แต่คณะกรรมการจะพิจารณาว่าสมควรจะให้กลับมาเป็นทนายความได้อีกหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถมาร้องที่สภาทนายความได้ หากพบทนายความที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดมรรยาททนายความ
นายชูวิทย์ ยังโพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ ใช้หัวข้อทนายกับช่างทาสี อาชีพที่เปลี่ยนขาวเป็นดำได้ โดยเล่าย้ำถึงเหตุผลที่ต้องไปร้องมรรยาททนายความทนายตั้ม พร้อมกับความจำเป็นที่ต้องร้องเรียนทนายตั้มต่อสภาทนายความ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อทนายคนอื่นๆ และไม่ให้กลับมากระทำการในทำนองนี้อีก
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม