เศรษฐา เมิน พลังประชารัฐ ไม่จับมือ เพื่อไทย ถามย้อน ไพบูลย์ คือใคร ? | ขอบสนามเลือกตั้ง #7HD

เช้านี้ที่หมอชิต - แม้จะกำหนดธงก้าวข้ามความขัดแย้งให้กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ระหว่างทางดูเหมือนจะดุเดือดไม่น้อย โดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข่าวเรื่องดีลตั้งรัฐบาลร่วมกันมาตลอด คนที่ออกมากระแทกมีทั้ง คุณชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่ปราศรัยแบบร้อนแรง ๆ เหน็บไปยังคุณเศรษฐาว่า เป็นนายกฯพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่ฟังนายใหญ่ก็ต้องเป็นลูกเขย ขณะที่คุณไพบูลย์ นิติตะวัน ถึงกับประกาศกร้าว พลังประชารัฐไม่จับมือกับเพื่อไทย-ก้าวไกล แน่นอน

 

เมื่อวานนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ แบบชัดๆโดยปฏิเสธว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีนโยบายที่รับไม่ได้หลายเรื่อง พรรคก้าวไกลมีปัญหามากที่สุด พรรคเพื่อไทยเป็นลำดับที่ 2 ทั้ง 2 พรรคอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สบายใจกับนโยบาย จึงคิดว่าไม่น่าร่วม อย่างไรก็ตามคุณไพบูลย์ปฏิเสธที่จะบอกว่ามีนโยบายอะไรบ้างที่ไม่สบายใจ

 

เมื่อสื่อถามย้ำว่า การแถลงเรื่องนี้ พลเอก ประวิตร รับทราบหรือไม่ นายไพบูลย์ เลี่ยงตอบว่า ผมรับผิดชอบคำพูดผม ส่วนท่านจะรับผิดชอบอย่างไรท่านก็ไม่ได้บอกเช่นกัน

 

แล้วทาง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย จะว่าอย่างไรเมื่อมีท่าทีแบบนี้มาจากฝั่งพลังประชารัฐ ส่วนแรกที่นายชัยวุฒิ พาดพิง นายเศรษฐาย้ำว่า ไม่เคยเป็นนอมินีให้ใคร และจะไม่มีใครมาครอบงำได้นอกจากประชาชน และหากหลังการเลือกตั้ง พรรคเห็นว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนอื่นเหมาะสมมากกว่า ตนก็ไม่ได้ไปไหน ยังคงเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเหมือนเดิม

 

ส่วนที่กรณีที่ นายไพบูลย์ ประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ถามย้อนกลับไปแบบนิ่ม ๆ ว่า ไม่ทราบว่านายไพบูลย์คือใคร ณ เวลานี้ หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย คือ เผยแพร่นโยบายและรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนเพื่อมาปรับเสริมเติมแต่งนโยบายที่มี

 

นายเศรษฐาพูดถึงประเด็นเหล่านี้ระหว่างการลงพื้นที่นิรันดร์คอนโด 93 ซอยสุขุมวิท 93 กรุงเทพ ซึ่งเป็นการลงไปแนะนำนโยบายพรรคและตอบคำถามต่างๆจากชุมชน หลายประเด็นน่าสนใจเช่น พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่เอากัญชาแน่นอน นอกจากกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น ส่วนเรื่องการเกณฑ์ทหาร มองว่าการบังคับเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง การเป็นทหารไม่ใช่การบ่งบอกว่า รักชาติ หรือชังชาติ เพราะการรักชาติไม่จำเป็นต้องเป็นทหาร เป็นอย่างอื่นก็สามารถแสดงออกถึงการรักชาติได้ นอกจากนี้ ยังบอกว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ได้รับเสียงตอบรับดี ยิ่งโดนโจมตี ก็ยิ่งได้อธิบายเรื่อย ๆ สำหรับการแจงที่มางบ ได้ส่งคำชี้แจงไปยัง กกต. เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่หลายคนมองว่า ไม่ควรแจกเงินแบบพร่ำเพรื่อเป็นเบี้ยหัวแตก ยืนยันว่าไม่ใช่การแจกพร่ำเพรื่อ แต่เป็นรัฐบาลปัจจุบันต่างหากที่แจกพร่ำเพรื่อ 500-700 บาท หยอดน้ำข้าวต้มไปเรื่อย ๆ แต่ของเรา แจกหนเดียว กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ และตรงจุดในการกระจายเม็ดเงินไปยังเมืองต่าง ๆ ด้วย

 

ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเวทีปราศรัยจังหวัดน่าเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาก็มี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยในประเด็นนี้ ตอบโต้ทุกคำถามที่เข้ามาอย่างร้อนแรง