ตัวแทนจาก 7 พรรคการเมือง ร่วมประชันวิสัยทัศน์ ประเมินกำลังของพรรคตนเอง ใน จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือ ในศึกเลือกตั้ง 66 บนเวที BIG DEBATE เชียงใหม่
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จาก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เรามีความเชื่อมั่น เพราะในพื้นที่ภาคเหนือนั้นเราเป็นแชมป์มาโดยตลอด ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เราสามารถครองแชมป์ในฐานะสมาชิกผู้แทนราษฎรได้ทุกครั้ง และครั้งนี้ก็มีความพร้อมอีกเช่นเดิม โดยมีทั้งสามองค์ประกอบ คือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีบุคลิกลักษณะที่ตอบโจทย์ของประเทศในปัจจุบัน นโยบายของพรรค และ พรรคเพื่อไทยมีผู้สมัคร สส.เขต ซึ่งมีความใกล้ชิดกับประชาชน และเข้าถึงพี่น้องในทุกชุมชน ล่าสุดพวกเราลงพื้นที่กันอย่างหนัก ก็ขอให้พี่น้องประชาชนให้การยอมรับและก็ตอบรับการหาเสียงของพรรค ด้วยการเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งสองบัตร
รัตนประภา ดิศวัฒน์ จาก พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า อยากจะบอกทุก ๆ ท่านให้เข้าใจว่า ลุงป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ท่านมีความพร้อม ซึ่งตอนนี้ได้ทำการฟิตร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเตรียมรับใช้พี่น้องประชาชน ส่วนนโยบายของพรรค เราเน้นที่ปัญหารากหญ้าในทุกชุมชนของประเทศไทย ไม่ใช่ในเฉพาะพื้นที่เชียงใหม่เท่านั้น ในครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐ ก็ยินดีที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป แม้ในครั้งที่แล้วเราจะได้เป็นอันดับ 2 ในครั้งนี้เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
เดชรัต สุขกำเนิด จาก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกล พร้อมสำหรับภาคเหนือ เรามีความพร้อมเรามาจากตั้งแต่ครั้งเมื่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เราได้รับการตอบรับจากพี่น้องชาวเหนืออย่างดีมาก แม้กระทั่งเราถูกยุบพรรคไป พรรคก้าวไกล ก็เป็นพรรคที่มีผลงานเด่น ๆ เป็นที่ประจักษ์และตรงไปตรงมา เราคัดเลือกผู้สมัครอย่างดี ว่าที่ผู้สมัครทุกคนในเชียงใหม่และภาคเหนือ ทำงานล่วงหน้าเป็นเวลาสองปีแล้วเดินเข้าพบพี่น้องประชาชน ด้วยความพยายามและขยันหมั่นเพียร จนนำไปสู่นโยบายที่รับมาจากพี่น้องประชาชนจริง ๆ นำมาสู่ความพร้อม คือ เรามีนโยบายทั้งหมด 300 นโยบาย
นราพัฒน์ แก้วทอง จาก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีอดีต ปัจจุบัน และอนาคต สำหรับภาคเหนือเราเคยมีอดีต สส. 10 กว่าคน และมีมาอย่างต่อเนื่องไม่เคยขาด วันนี้เรามั่นใจว่าจะกอบกู้สถานการณ์กลับมาได้ด้วยผลงานที่เราทำมา วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะนำพาประเทศเข้าสู่การเมือง ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคืนขึ้นมาได้ วันที่ 14 อย่าลืมเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เราจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง และยืนยันว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะต้องเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ จาก พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มีหลากหลายนโยบายที่คิดว่าตรงใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ แต่นโยบายที่เราคิดว่าจะโดนใจและเข้ากับบริบทของคนเชียงใหม่ในขณะนี้ ก็คงจะเป็นนโยบายที่จะจัดการเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้กับผู้คนให้มีที่อยู่อาศัย มีที่ดินทำกินที่ยั่งยืน เนื่องจากเมืองเชียงใหม่มีทั้งสังคมเมืองและป่าเขา มีทั้งผู้คนที่อยู่ในพื้นที่สูง มีคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินมากมาย ก็จะมีการจัดการให้เกิดเป็นรูปธรรม
น.ต. ศิธา ทิวารี จาก พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายง่าย ๆ คือต้องการสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุด เพื่อส่งต่อให้ลูกหลาน ระบบการเมืองไทยที่ผ่านมาทำกันไว้อย่างเละเทะ ปากก็พูดว่าทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน แต่เวลาทำจริง ๆ แล้วล้วนแต่เป็นประโยชน์ของพวกพ้อง เราจึงควรจะสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด ประเทศไทยที่ตรงไปตรงมาให้แก่ลูกหลาน ด้านที่ให้ประเมินกำลังนั้น แทนที่จะประเมินกำลังตนขอให้กำลังใจแทนแล้วกัน ให้กำลังใจแก่ผู้สมัครทุกคนที่ท่านทำภาคพื้นที่และทำหน้าที่ของท่านได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ จาก พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่เราส่ง สส.ลงสมัคร 9 เขตด้วยกัน หากถามว่าพรรคไทยศรีวิไลมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด เข้มแข็งแค่ไหน ตนจะบอกว่า หัวหน้าพรรคที่อยู่บนเวทีแห่งนี้ สู้ตนไม่ได้สักคน เทียบด้วยความแข็งแรงทางด้านร่างกาย ความที่ยังหนุ่มยังแน่นอยู่ ตนเชื่อว่าแข็งแรงกว่าทุกพรรคอยู่แล้ว