สมการรอคอย “ราฟฟี่” กลับมาโชว์ผลงานน่าประทับใจเก็บชัยใน ONE ลุมพินี 12 โอกาสนี้ขอพาไปทำความรู้จักขุนเข่าแดนน้ำหอมให้มากขึ้น กว่าจะสร้างชื่อมาได้ถึงวันนี้ไม่ง่ายเลย
คืนรายการใหญ่ในรอบกว่า 2 ปี “ราฟฟี่ โบฮิค” ขุนเข่าแดนน้ำหอม วัย 31 ปี ยังทำผลงานได้เข้าตาใน ONE ลุมพินี 12 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา เอาชนะ “ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน” มวยรุ่นน้องจากพัทลุง ไปแบบคะแนนไม่เอกฉันท์ ไม่แปลกใจทำไมถึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักสู้ต่างชาติที่ยิ่งใหญ่ยาวนาน
#หนุ่มแดนน้ำหอมผู้หลงรักมวยไทย
เมื่อเทียบกับนักมวยหลาย ๆ คนแล้ว “ราฟฟี่” ถือว่าเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่นมาก ตอนอายุ 15 ปี เริ่มศึกษามวยไทยผ่านทางการดูวิดีโอ จากนั้น 2 ปี ถัดมา เขาลงทุนถึงขั้นขับมอเตอร์ไซด์ข้ามเมืองเพื่อไปซ้อมมวยไทยทุกวัน แสดงให้เห็นว่าเขารักศิลปะการต่อสู้นี้มากแค่ไหน จากนั้นมาเขาก็มุ่งมั่นตั้งใจฝึกปรือวิชามวยไทยอย่างจริงจัง
#ทิ้งแผ่นดินเกิดมาล่าฝันที่เมืองไทย
ในปี 2555 ราฟฟี่ในวัย 21 เริ่มตระหนักแล้วว่าถ้าอยากยิ่งใหญ่ในทางสายมวยไทยต้องก้าวไปอีกขั้น เขาจึงตัดสินใจหอบความฝันข้ามน้ำข้ามทะเลจากเมืองเลออาร์ฟ ฝรั่งเศส ย้ายภูมิลำเนามาอยู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นฝึกมวยที่ค่ายโชคดียิม อำเภอชะอำ จากนั้นย้ายไปอยู่ค่ายสิงห์ป่าตองที่ภูเก็ตในปีต่อมา เพื่อตามรอยไอดอลในดวงใจอย่าง “เดเมียน อลามอส” นักมวยจากชาติเดียวกัน
#สร้างชื่อท่ามกลางนักกีฬาที่เก่งที่สุด
ก่อนหน้านั้น การแข่งขันมวยไทยอาชีพยังเป็นเรื่องผิดกฏหมายของฝรั่งเศส การที่ “ราฟฟี่” เลือกย้ายมาอยู่ในเมืองไทยทำให้เขาได้ลงแข่งขันในกติกาที่ถูกต้อง ผ่านการประมือกับนักมวยไทยชื่อดังมามากมาย อาทิ ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์, แสงมณี พีเค.แสนชัยมวยไทย, ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ และ แรมโบ้ ม.รัตนบัณฑิต (เพชร ปตอ.) ซึ่งต่างถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น
#หนึ่งในนักมวยไทยต่างชาติที่คว้าแชมป์มากที่สุด
หลายปีที่ผ่านมามีชาวฝรั่งเศสหลายรายเคยสร้างชื่อขึ้นมาในกีฬามวยไทย แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเทียบความยิ่งใหญ่ของ “ราฟฟี่” ได้ทั้งในแง่คู่ชกระดับอาชีพที่เขาต้องเผชิญหน้า หรือจำนวนรางวัลที่เขาเคยได้รับ โดย “ราฟฟี่” กวาดตำแหน่งแชมป์มาแล้วทั้งในศึก WMC, WBC และแม็กซ์มวยไทย รวมถึงแชมป์ลุมพินีรุ่น 147 ป. ที่กระชากเข็มขัดมาได้จาก “พงษ์ศิริ พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” และป้องกันตำแหน่งนี้ได้ถึง 4 สมัย
#นักปิดเกมตัวจริง
ตลอดช่วงกว่า 7 ปีครึ่งที่อยู่เมืองไทย “ราฟฟี่” จัดการโค่นนักมวยชื่อดังไปแล้วมากมาย รวมถึงไฟต์ล่าสุดที่ปราบ “ตะเภาแก้ว” เอาไว้ได้แบบอยู่หมัด ฝากสถิติน่าทึ่งชนะ 83, เสมอ 19 และ แพ้ 1 โดยเป็นการชนะคู่ชกแบบไม่ครบยกได้ถึง 39 คน ซึ่งถือเป็นอัตราการน็อกคู่ต่อสู้อยู่ในระดับสูงในวงการมวยไทย เรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือชาวต่างที่ทักษะครบเครื่อง ทั้งยังชกสนุกสร้างความประทับใจในทุกครั้งที่เขาขึ้นสังเวียน
*หมายเหตุ ONE ลุมพินี งดจัดการแข่งขันในวันศุกร์ 14 เม.ย.66 (ช่วงสงกรานต์) เจอกันอีกที ศึก ONE ลุมพินี 13 (แบทแมน vs ไผ่แดง) วันศุกร์ที่ 21 เม.ย.66 และ ONE Fight Night 9 (น้องโอ๋ vs แฮ็กเกอร์ตี) ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 22 เม.ย.66