เชียงใหม่ล่ารายชื่อ ฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ไร้ประสิทธิภาพแก้วิกฤตฝุ่นควัน

เช้านี้ที่หมอชิต - เช้าวานนี้ ค่ามลพิษเชียงใหม่หลุดจากอันดับ 1 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกมาอยู่อันดับที่ 2 เป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ยังสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานมาเป็นเวลาต่อเนื่องกันหลายเดือนแล้ว เป็นที่มาของการที่คนเชียงใหม่จำนวนหนึ่งเริ่มทนไม่ไหวมองว่าเป็นปัญหาที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรับผิดชอบและได้เข้าชื่อกันเพื่อเป็นผู้สนับสนุนในการฟ้องคดีต่อนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกีี่ยวข้อง

 

ภาคเหนือในเวลานี้รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ ตกอยู่ในสภาพหมอกควันปกคลุมแบบนี้ต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว นี่คือฝุ่นพิษที่ส่วนใหญ่มาจากการเผาไร่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมข้าวโพดที่ควันลอยข้ามพรมแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งมาจากไฟป่าที่ดูเหมือนว่าปีนี้จะลุกโชนและลุกลามขึ้นในหลายพื้นที่ เป็นสถานการณ์วิกฤตทางสิ่งแวดล้อมและมลพิษที่ทำให้สภาพอากาศของเชียงใหม่ขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งของโลกในหลายครั้ง ก่อนที่จะตกลงมาอยู่อันดับสองเมื่อเช้าวานนี้ จากการที่เริ่มมีลมและมีข่าวว่าอาจมีพายุฤดูร้อนพัดเข้ามา ซึ่งอาจพอจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้บ้าง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นประชาชนมองว่าเป็นผลมาจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐในการแก้ปัญหา มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ได้มีการประกาศเชิญชวนชาวเชียงใหม่ ร่วมลงชื่อเป็น ผู้สนับสนุนการฟ้องคดี ต่อนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ, แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง และ พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

 

เพื่อให้ปฏิบัติการตามกฎหมายและนโยบายที่ได้มีการจัดทำไว้เพื่อลดทอนความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น โดยจะนำรายชื่อทั้งหมดต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ในวันนี้ เวลา 10.00 น.

 

สำหรับเหตุผลการฟ้องคดี ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละออง 2.5 ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยที่หน่วยงานรัฐทั้งรัฐบาลและหน่วยงานระดับท้องถิ่นต่าง ไม่ได้มีการรับมืออย่างกระตือรือร้นและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญสภาวะอันเลวร้ายและเสี่ยงภัยต่อโรคร้ายทางสุขภาพ ทั้งในระยะยาวและในระยะเฉพาะหน้า แสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจและการสิ้นไร้ความสามารถของรัฐบาล ในการปกป้องคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ หมอหม่อง นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งอาจารย์เป็นหมอนักอนุรักษ์ด้วย ก็ได้ร่วมเรียกร้องในครั้งนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเช่นกัน โดยได้นำข้อสรุปสาระสำคัญ จากการรายงานการวิจัยผลกระทบทางสุขภาพระยะยาวของ PM2.5

 

ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ค่าเฉลี่ย PM2.5 สูงอย่างเชียงใหม่ชี้ว่า มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 1.4 เท่า แต่เสี่ยงการเกิดมะเร็งปอดชนิด EGFR mutation ที่มักพบในคนไม่สูบบุหรี่ เพิ่มขึ้น 7 เท่า เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ 1.7 เท่าเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 1.5 เท่า

 

นอกจากนี้จะทำให้อายุขัยสั้นลง 4 ปี พร้อมกันนั้นยังได้เชิญชวนประชาชนที่สนับสนุนการฟ้อง ต้องการเรียกร้องให้รัฐปกป้องสิทธิพื้นฐานในการหายใจของประชาชน ไปร่วมรณรงค์ได้ที่หน้าทางเข้าศาลปกครองเชียงใหม่ พร้อมบอกว่า ชนะ หรือ แพ้ ไม่สำคัญเท่าการสร้างแรงกระเพื่อม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง