ผู้ปกครองแห่แจ้งความ เจ้าของเนิร์สเซอรี ทำร้ายร่างกายเด็กเล็ก จ.สงขลา

231 ครั้ง

07 เม.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เช้านี้ที่หมอชิต - ประเด็นความรุนแรงในเด็กเกิดขึ้นอีกแล้ว คราวนี้เป็นกรณีที่อดีตพี่เลี้ยงเด็กของเนิร์สเซอรีแห่งหนึ่ง สุดจะทนกับพฤติกรรมของ ป้าหนุ่ย เจ้าของเนิร์สเซอรีที่ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายเด็กเล็ก มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและภาพนิ่งต่าง ๆ ผู้ปกครองเข้าแจ้งความและวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเอาผิดกับ ป้าหนุ่ย เจ้าของเนิร์สเซอรีแห่งนี้ เราไปดูคลิปหลักฐานกัน

นี่คือคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นคลิปที่อดีตพี่เลี้ยงได้บันทึกไว้ก่อนที่จะลาออกจากบ้านปฐมวัยเนิร์สเซอรีแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา ซึ่งในคลิปจะพบว่าเด็กคนนี้มีรอยแดงช้ำบริเวณรอบ ๆ เบ้าตา เนื่องจากถูกเจ้าของเนิร์สเซอรีลากตัวเด็กไปอีกห้องหนึ่ง ก่อนจะทำร้ายร่างกาย

ทีมข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ ทนายอาร์ม ว่าลูกของตนเองได้ถูกเจ้าของบ้านปฐมวัยเนิร์สเซอรี ที่ชื่อว่า ป้าหนุ่ย ใช้ความรุนแรงกับลูกของตนเอง โดยบ้านปฐมวัยเนิร์สเซอรีแห่งนี้ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งตัวของ ป้าหนุ่ย ทำร้ายร่างกายลูกของตน และมีเด็ก ๆ อีกหลายคนโดนกระทำเช่นกัน

นอกจากนี้ ทนายอาร์ม ยังได้รับหลักฐานเป็นคลิปที่อดีตพี่เลี้ยงเนิร์สเซอรี 3-4 คน ที่เคยทำงานอยู่ที่นี่ และทนพฤติกรรมของ ป้าหนุ่ย ไม่ไหว เพราะได้กระทำต่อเด็กเกือบทุกคน จึงได้แอบถ่ายภาพและคลิป ส่งให้ผู้ปกครองของเด็กรับทราบ

ทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านพักของ ทนายอาร์ม ซึ่งได้ให้มอบหลักฐานคลิปและภาพต่าง ๆ ให้ทีมข่าว พร้อมทั้งอธิบายหลักฐานคลิปและภาพต่าง ๆ ที่อดีตพี่เลี้ยงเนิร์สเซอรี 3-4 คน สามารถแอบถ่ายเก็บไว้ได้

เจ้าของเนิร์สเซอรี ทนายอาร์ม ยังบอกอีกว่า ทางผู้ปกครองหลายท่านยังไม่ทราบเรื่อง และก็มีผู้ปกครองบางคนทราบเรื่องแล้ว แต่ยังคงหาหลักฐานมัดตัว ป้าหนุ่ย เจ้าของเนิร์สเซอรีไม่ได้ โดยเนิร์สเซอรีแห่งนี้เปิดมาได้ประมาณ 5-6 ปี และเริ่มมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายเด็ก ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน

ทนายอาร์ม ยังบอกอีกว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้เสียหาย โดยลูกของตนทั้ง 2 คน เรียนที่โรงเรียนนี้ และการกระทำต่อเด็กเล็ก ๆ ตนยอมไม่ได้อยู่แล้ว ตนมีหลักฐานทั้งคลิปวิดีโอและภาพนิ่งที่เห็นชัดเจนว่ามีการทำทารุณกรรมกับเด็ก ซึ่งมีการทารุณกรรมหลากหลายรูปแบบปล่อยเสียง

ทนายอาร์ม บอกอีกว่า หากข่าวนี้เผยแพร่ออกไปไม่มีผู้ปกครองคนไหนยอมรับได้แน่นอน ถึงแม้ลูกของตนเองจะยังไม่โดนตอนนี้ก็ตาม แต่ตนมีหลักฐานเพียงพอ ซึ่งมีเด็กที่ถูกทำร้ายประมาณ 10 คนแล้ว

ทีมข่าวยังได้ไปสอบถามกับอดีตพี่เลี้ยงคนหนึ่ง เล่าว่า พฤติกรรมของ ป้าหนุ่ย มีนิสัยควบคุมตัวเองไม่ได้ และเวลาเด็กร้องไห้ก็จะลากเด็กออกไปอีกห้อง แล้วก็ปิดประตูเพื่อจะพาเด็กไปทำร้าย ซึ่งบางคนก็มีรอยขีดข่วนตามร่างกาย บางคนที่ดวงตาก็จะมีเส้นเลือดฝอยบวมปูด

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า หากเด็กคนไหนร้องไห้ไม่กินนม ป้าหนุ่ย ก็จะลากเด็ก ๆ ไปห้องพยาบาล ซึ่งพวกตนเคยแอบเห็นว่า ป้าหนุ่ย เอานมกล่องราดไปบนศีรษะของเด็ก ๆ รวมถึงเหตุการณ์ที่เด็กคนไหนร้องก็จะลากไปอีกฝั่งของห้อง ก่อนจะขึ้นไปนั่งทับบนตัวเด็ก และเอามือปิดปากแล้วกดไว้ เด็กบางคนถูกทำร้ายจนเบ้าตามีรอยแดงช้ำ มีเส้นเลือดฝอยขึ้น

ส่วนอดีตพี่เลี้ยงเด็กอีกคนหนึ่ง ก็เล่าถึงพฤติกรรมความรุนแรงที่คล้ายกัน และอยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

ส่วนผู้ปกครองท่านใดที่ไม่แน่ใจว่าลูก ๆ ของท่านได้ตกเป็นเหยื่อการกระทำความรุนแรงครั้งนี้ สามารถติดต่อไปที่ ทนายอาร์ม เพื่อขอดูคลิปและภาพต่าง ๆ โดย ทนายอาร์ม พร้อมจะดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดกับเจ้าของเนิร์สเซอรีรายนี้อีกด้วย

ล่าสุดเที่ยงวานนี้ (6 เม.ย.) ที่บ้านปฐมวัยเนิร์สเซอรี ผู้ปกครองต่างทยอยเดินทางมารับลูก ๆ ของตัวเองกลับบ้าน หลังมีภาพพฤติกรรมความรุนแรงของ ป้าหนุ่ย ปรากฏอยู่บนหน้าข่าว จึงทำให้ผู้ปกครองเกิดความกังวลว่าที่ผ่านมาลูก ๆ ของตนเองอาจจะเคยตกเป็นเหยื่อความรุนแรงมาแล้วหรือไม่

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินไปสอบถามพี่เลี้ยงในเนิร์สเซอรีเพื่อถามหาตัวของ ป้าหนุ่ย เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าทางพี่เลี้ยงเนิร์สเซอรีได้บอกกับทีมข่าวว่าตอนนี้ทางเจ้าของเนิร์สเซอรียังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ ให้ผู้สื่อข่าวติดต่อทางมือถือเท่านั้น

ต่อมาทางกลุ่มผู้ปกครองจำนวนหลายคนได้เดินทางมาที่สำนักงานทนายอาร์ม ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กที่ปรากฏอยู่ในภาพ และจะเดินทางไปที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับป้าหนุ่ย พร้อมเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ พมจ.สงขลา เพื่อดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย

จากการสอบถามแม่ของน้องบี เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กเสื้อสีม่วงที่อยู่ในคลิปที่อดีตพี่เลี้ยงเด็ก ได้แอบถ่ายคลิปไว้ เล่าให้ฟังว่า ลูกสาวของเธอเพิ่งเข้าไปอยู่ที่เนิร์สเซอรี่แห่งนี้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยต้องเสียเงินเดือนละ 5,800 บาท ตอนแรกที่ให้ลูกสาวไปอยู่เพราะได้ยินมาว่าเนิร์สเซอรีแห่งนี้มีชื่อเสียง มีคุณภาพ ลูกสาวน่าจะอยู่แล้วมีความสุข

แต่จากนั้นตนเองเริ่มเห็นความผิดปกติขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปส่งลูกสาวช่วงเช้า ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่ง ครูหนุ่ย ได้ส่งรูปลูกสาวให้ดูผ่านแช็ตไลน์ พร้อมแจ้งว่า ลูกสาวไม่รู้เป็นอะไร ร้องไห้หนัก ลงไปดิ้นกับพื้นงอแงมาก และดวงตาทั้งสองข้างบวมแดงผิดปกติ ตอนนั้นตนเองตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว

แต่เมื่อสอบถามกลับไปยัง ครูหนุ่ย อ้างว่า ลูกสาวร้องไห้อย่างหนัก อาจจะทำให้เบ้าตาแดงช้ำ หรืออาจจะเป็นเกล็ดเลือดต่ำ หรือป่วยภูมิแพ้ก็เป็นไปได้ พร้อมกับบอกอีกว่า คุณแม่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะหายไปเอง และย้ำว่า ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ เพราะจะหายไปเอง ตอนนั้นตนเองก็เชื่อแต่ก็แปลกใจเล็กน้อย จนล่าสุดเมื่ออาทิตย์ก่อน ตนได้ไปรับลูกสาวกลับจากเนิร์สเซอรี ปรากฏว่าลูกสาวบ่นให้ฟังว่า ครูในเนิร์สเซอรีได้ตีแขนทำร้าย ตนเองจึงอัดคลิปไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามกับผู้ปกครองอีกท่านหนึ่ง ก็ได้บอกเล่าถึงอาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกของตัวเองเช่นกัน

ส่วนในทางคดีล่าสุดผู้เสียหายจำนวน 5 ราย ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจ สภ.หาดใหญ่ โดยทางตำรวจบอกว่าขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และมีการสอบปากคำผู้เสียหาย สำหรับพฤติกรรมดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดในส่วนของการทำร้ายร่างกาย กับ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ พมจ.อีกครั้งว่าขอบเขตกฎหมายจะเอาผิดได้แค่ไหน

พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35