ขยายผล จนท.เขตราชเทวี รีดเงิน 3.2 ล้าน จ่อเรียกให้ปากคำเพิ่ม 10 ปาก | ขยายข่าว กับ กาย สวิตต์

เช้านี้ที่หมอชิต - ขยายผลจับเจ้าหน้าที่เขตราชเทวีเรียกรับเงิน โดยพบของกลางขณะเข้าจับกุมเป็นเงินสดนับล้าน ล่าสุด ทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เตรียมเรียกให้ปากคำอีก 10 ปาก จากหลักฐานสำคัญ

 

จากกรณีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปง. เข้าจับกุม นายประมวล แก้วแสงศรี อายุ 57 ปี หัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี ความผิดฐานประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ซึ่งเกี่ยวกับการเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด และมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่บริเวณลานจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่เขตราชเทวี เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมานั้น โดยขณะจับกุมพบมีเงินสด 3,200,000 บาท อยู่ภายในถุงกระดาษสีขาว ซึ่งเงินก้อนนี้ก็คือเงินที่ทางผู้เสียหายถูกเรียกรับประโยชน์ได้นำไปลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจ เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเรียกรับเงิน โดยอ้างว่าจะช่วยเหลือด้านภาษีไม่ให้ต้องเสียเงิน 40 ล้านบาทได้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกับผู้เสียหายที่เห็นว่าการเรียกเงินดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ถูก จึงวางแผนจับกุมดังกล่าวขึ้น โดยให้นำเงินมามอบให้ตามนัดและเข้าแสดงตัว ซึ่งเงินดังกล่าวมีหมายเลขตรงกับที่ลงบันทึกประจำวันไว้กับทางเจ้าหน้าที่

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่าสิ่งของที่รับมาจากผู้เสียหายคิดว่าเป็นเอกสาร แต่รับว่ารับสิ่งของดังกล่าวมาจากผู้เสียหายจริง

      

ต่อมา วันที่ 5 เมษายน เจ้าหน้าที่จาก ปปป. และ ปปง. นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักส่วนตัวของ นายประมวล ผู้ต้องหาในคดีเรียกรับสินบน 3.2 ล้าน เพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบว่าเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และ รถยนต์เลกซัส สีขาว จอดอยู่ภายในโรงรถของตัวบ้าน จากการตรวจค้นภายในบ้านพบพระเครื่องและเอกสารที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการทุจริตจำนวนมาก นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ยังพบว่ามีการซุกซ่อนเงินสดจำนวน 6.9 ล้านบาท อยู่ภายในรถ จึงตรวจยึดไว้ตรวจสอบ

 

ล่าสุด เมื่อวานนี้ ทาง บก.ปปป. ระบุว่า ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว 3 ปาก คือ ผู้ต้องหา ภรรยา และลูกน้อง โดยคำให้การทั้งจากผู้ต้องหาเองยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ขณะนี้ชุดพนักงานสอบสวน ปปป. อยู่ระหว่างสืบสวนและขยายผล โดยจะตรวจสอบเส้นทางการเงินและเส้นทางการเงินย้อนหลังไปถึงสมัยที่หัวหน้าฝ่ายรายได้ทำงานที่สำนักงานเขตพญาไทด้วย และในวันนี้ (7 เม.ย.) จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี โดยจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ ทั้งบุคคลใกล้ชิด เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี โดยเฉพาะฝ่ายรายได้ และ 10 รายชื่อที่ปรากฏบนเอกสารบันทึกแจกแจงรายได้ ที่หัวหน้าฝ่ายรายได้ราชเทวีได้บันทึกเก็บไว้ ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะนำมาขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป ยืนยันว่า จะทำการตรวจสอบให้ครบทุกมิติ ขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทุกคน ไม่มีละเว้น