https://youtu.be/5UMmDjlBcKsเช้านี้ที่หมอชิต - ตัวเลขไม่โกหก แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นกับกลยุทธ์ของแต่ละพรรค และสถานการณ์หลังจากนี้ อย่างไรก็ตาม หากประเมินจากตัวเลขล่าสุด ที่มีการสำรวจความนิยมพรรคการเมืองและนักการเมือง ทุก 3 เดือน มาตลอดตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน โดยนิด้าโพล สถิติตัวเลขเหล่านี้กำลังชี้แนวโน้มทิศทางการเมืองอย่างไร และใครบ้างที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลชุดต่อไป ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการนิด้าโพล จะไขคำตอบเรื่องนี้ให้กับเรา
อาจารย์สุวิชา บอกด้วยว่า เหตุผลที่ทำให้คะแนนของพรรคเพื่อไทย และคุณอุ๊งอิ๊งค์สูงขึ้นตอนนั้น อาจมาจากการเริ่มเปิดตัวคุณอุ๊งอิ๊งค์และเดินสายมากขึ้น เมื่อเปิดชื่อออกมา คนก็เริ่มฮือฮา ขณะที่พลเอกประยุทธ์ ยังไม่มีอะไรใหม่ ๆ มาเสนอ อย่างไรก็ตาม คำถามต่อมาของเราก็คือ ตัวเลขนี้เป็นการพุ่งขึ้นแบบฉาบฉวยครั้งคราวหรือไม่ จึงต้องตามต่อในการสำรวจความนิยมครั้งที่ 3 ของปี 2565 เดือนกันยายน พบว่าแม้คะแนนความนิยมลดลงมา แต่เป็นค่าความแตกต่างไม่มาก จึงมีความเป็นไปได้ว่าคะแนนกำลังจะไต่บันได
คล้าย ๆ กับกรณีของ ผู้ว่าฯชัชชาติ ซึ่งตอนแรกยังไม่ได้มาก แต่เมื่อคะแนนเริ่มวิ่งขึ้นแล้ว ไม่มีใครไปหยุด จะไต่บันไดไปเรื่อย ๆ คะแนนของเพื่อไทยมีลักษณะนั้น เป็นแนวโน้มจะคงที่และเพิ่มขึ้น ตนยังเคยแสดงความเห็นไว้ว่า ถ้านายกฯอยากจะรักษาอำนาจไว้ต่อ ต้องยุบสภาตอนนั้น เพราะยังอยู่ในช่วงที่แข่งได้ ยิ่งปล่อยเวลาไปเรื่อยก็จะยิ่งยากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น เพราะการสำรวจครั้งที่ 4 เดือนธันวาคม 2565 ความนิยมของพรรคเพื่อไทย และคุณอุ๊งอิ๊งค์ ก็สูงขึ้นไปอีกจริง ๆ
อาจารย์สุวิชา กล่าวว่า เมื่อดูจากท่าทีของ ลุงป้อม แสดงอาการชัดเจนว่าจะเป็นนายกฯ คนที่ 30 เพื่อสร้างความปรองดอง ขจัดความขัดแย้งให้หายไป มีความพยายามเปลี่ยนลุคต่าง ๆ ให้ดูแข็งแรง ทันสมัย เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งจุดแข็งของลุงป้อมคือ คุยกับ สว.ได้ ต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เสียงของ สว. ในการเลือกนายกฯ ยังมีน้ำหนักอยู่ ดังนั้น การตั้งรัฐบาลจึงต้องการเสียง สว. และพรรคที่เพื่อไทยจะคุยได้ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล มีแค่พรรคเดียว คือ พรรคของลุงป้อม
ทีนี้ เราไปลองดูตัวเลขที่อาจารย์สุวิชาคาดการณ์ไว้ โดยอิงจากผลโพลศึกเลือกตั้ง 66 ครั้งที่ 1 ประกอบกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มี ณ ขณะปัจจุบัน อาจารย์ให้พรรคไหนอย่างไร เหตุผลอะไรมาดูกัน
เพื่อไทย อาจจะได้อยู่ในช่วง 230-250 ที่นั่ง หากเอาตัวเลขเดียว คิดว่าน่าจะอยู่ที่ 238 ที่นั่ง เพราะเชื่อว่าหลังจากนี้แรงต้านจากหลายฝ่ายจะสูงมาก ขณะที่พื้นที่อีสาน ซึ่งเป็นฐานสำคัญของเพื่อไทย จะถูกรุกอย่างหนักจากพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ และภูมิใจไทย ที่มีพลังพอที่จะชิงเก้าอี้ในอีสานได้
ภูมิใจไทย อยู่ในช่วง 60-70 ที่นั่ง เป๊ะ ๆ คิดว่า 65 ที่นั่ง อาจารย์เคยให้สูงกว่านี้ แต่หลัง ๆ ผลสำรวจค่อนข้างนิ่ง บวกกับโดนพิษคุณชูวิทย์เข้าไป จึงกระทบพอสมควร
รวมไทยสร้างชาติ 55 ที่นั่งด้วย แรงหนุนจากกระแสอนุรักษ์นิยม และนายกฯประยุทธ์
พลังประชารัฐ 50 ที่นั่ง อย่างที่บอกว่าทรัพยากรทางการเมืองพร้อม และตัวผู้สมัครในพื้นที่มีความนิยม ประชาธิปัตย์ 40 ส่วนก้าวไกล น้อยหน่อยไม่เกิน 25-30 ที่นั่ง ประเมินแบบนี้เนื่องจากจุดอ่อนของก้าวไกลอยู่ที่คะแนนเขตที่ถึงได้มา ก็ยังไม่มากพอที่จะชนะ คืออาจมาเป็นที่สองและสาม แต่ไม่ชนะ ซึ่งระบบการเลือกตั้งครั้งนี้ คะแนนเขตหรือบัตรใบแรก ถ้าแพ้จะถูกทิ้งน้ำหมด ไม่นำมาคำนวณเป็น สส. ส่วนใหญ่จึงจะได้มาจากปาร์ตีลิสต์ที่คาดว่าจะได้ 15-17 ที่นั่ง
เกาะติดทุกความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย ได้ที่ www.ch7.com/election2566
ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook : www.facebook.com/Ch7HDNews
Twitter : www.twitter.com/Ch7HD
IG : www.instagram.com/ch7hd_news
TikTok : www.tiktok.com/ch7hd_news
Youtube : www.bit.ly/youtubech7hd
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35