เช้านี้ที่หมอชิต - ทนายอั๋น ยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม หลังตรวจสอบพบกำไรบริษัทไม่เยอะ แต่ใช้ชีวิตหรูหรา อีกทั้งกรณีเอฟซีลุงพล โอนเงินช่วยคดีนั้น พบว่าลุงพลยืนยันเคยทราบว่าแฟนคลับโอนเงินช่วยค่าคดี 2-3 ล้านบาท
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ให้ตรวจสอบที่มารายได้ของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ว่าเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนคัดลอกข้อมูลจากเว็บไซต์เป็นงบดุลกำไรขาดทุนของ บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จํากัด ของทนายตั้ม ย้อนหลัง 4 ปี พบว่ามีกำไรเพียง 400,000 กว่าบาท แต่ทนายตั้มกลับใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายรับ-รายจ่ายของบริษัท หรือมีรายได้พิเศษทางอื่น ๆ จากช่องทางใด
นายภัทรพงศ์ กล่าวด้วยว่า แหล่งที่มารายได้ของทนายตั้ม 3 ทาง คือ 1. บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม 2.งานส่วนตัว และ 3.มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ของทนายตั้ม หากตรวจสอบแล้วโปร่งใสจะเป็นผลดีต่อตัวทนายตั้มเอง แต่หากพบการทุจริต จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของอาชีพทนายความ และอาจเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วย ซึ่งทนายตั้มก็ไม่เคยออกมาชี้แจงเรื่องรายได้ดังกล่าว
ส่วนกรณีทนายตั้มคิดค่าเสี่ยงภัย 300,000 บาท ในการแถลงข่าว ถือว่าผิดข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ ข้อ 18 ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ โดยตนเคยไปร้องสภาทนายความ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา
ทนายอั๋น ยังกล่าวถึงกรณี นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ที่ล่าสุดออกมายืนยันว่า เคยจ้างทนายตั้มทำคดีความ มีค่าเดินทางเหยียบบ้านกกกอก 500,000 บาท และทราบว่ามีแฟนคลับจากต่างประเทศเคยโอนเงิน 2-3 ล้านบาท ช่วยเรื่องคดีความ ซึ่งมีหลักฐานต่าง ๆ ยืนยัน และอยากให้ทนายตั้มกางบัญชีรายได้ เพื่อยืนยันแสดงความบริสุทธิ์ใจ
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม