คุณแม่ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ คาใจ ขั้นตอนการรักษาลูกสาววัย 5 ขวบ ที่เสียชีวิตจากอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง แต่แพทย์กลับวินิจฉัยว่าไม่เป็นไร จนมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันที่ 5 เม.ย. 66 สุทธิดา ทุมสงคราม (ฟ้า) แม่เด็กที่เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 66 ปู่(พ่อสามี) โทรมาบอกตนว่า ลูกสาวมีอาการอาเจียน และมีไข้สูง เลยพาตัวน้องไปโรงพยาบาล เพราะตัวลูกสาวเองก็มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว โดยเป็นภาวะธารัสซีเมีย และมีภาวะเหล็กเกินด้วย แต่เข้ารับการรักษาไม่ขาดเลยตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์บอกให้เจาะเลือดเพื่อตรวจหาโรค จากนั้นแพทย์คนนี้ได้ออกเวร จึงเปลี่ยนมาเป็นแพทย์อีกคนหนึ่ง โดยแพทย์คนที่ 2 ก็ได้บอกให้ไปเจาะเลือดอีกครั้งเพื่อตรวจเกี่ยวกับเรื่องน้ำตาล จากนั้นก็มีแพทย์คนที่ 3 เข้ามารับเวรต่อ โดยแพทย์คนที่ 3 ได้เข้ามาถามว่าอาการของลูกสาว จะฉีดยา หรือจะนอนโรงพยาบาล โดยปู่ ก็ได้ขอให้นอนที่โรงพยาบาล เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องโรคประจำตัว ขณะเดียวกันตัวลูกสาวเองก็มีอาการอาเจียนอยู่เรื่อย ๆ 4-5 รอบ ตกกลางคืนก็ยังคงอาเจียนอยู่ จนแพทย์ต้องมาฉีดยาแก้อาเจียนให้ถึงได้หยุด
เช้าวันต่อมาตนจึงให้ปู่แจ้งกับแพทย์ว่าขอย้ายตัวลูกสาวไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด เพราะน้องรักษาโรคประจำตัวที่นั่น และที่นั่นก็มีแพทย์เฉพาะทาง แต่แพทย์ได้แจ้งกับปู่ว่า หากจะย้ายจะต้องเซ็นปฏิเสธการรักษาก่อน เนื่องจากลูกสาวมีสิทธิ์เบิกตรงที่โรงพยาบาลนี้ จากสิทธิ์ของพ่อที่รับข้าราชการ ด้านปู่เองเขาก็เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ค่อยเข้าใจ เลยกลัวว่าถ้าลูกสาวเป็นอะไรระหว่างทางจะทำยังไง อีกทั้งหมอยังบอกว่าอยากให้นอนดูอาการที่นี่ก่อน 1-2 วัน
ต่อมา ยายสังเกตเห็นหลานนอนซึม เรียกแล้วไม่ตื่น จึงบอกเรียกพยาบาลมาดู เมื่อเขาตรวจแล้วพยาบาลบอกว่าน้องยังปกติ จากนั้นไม่นาน ลูกสาวยังนอนซึม เรียกก็มีเสียงร้องกรี๊ด และปัสสาวะรดที่นอน ทว่าพยาบาลกลับบอกว่า ลูกตนเอาแต่ใจหรือเปล่าที่ร้องกรี๊ด และตนได้ขอให้เขาปลุกลูกสาว แต่ก็ปลุกไม่ตื่นเขาจึงรีบแจ้งแพทย์เวร โดยแพทย์ได้แจ้งว่าน้องอาการวิกฤติ ให้ส่งตัวไปโรงพยาบาลในจังหวัดด่วน ทว่าระหว่างรอส่งตัวนั้นใช้เวลานาน เพราะต้องรอคนไข้อีกคนหนึ่งเพื่อไปพร้อมกัน ซึ่งคนไข้รายดังกล่าวยังเดินได้ แต่ลูกตนเข้าขั้นวิกฤติ โดยรอไปเกือบ 2 ชั่วโมง พอมาถึงโรงพยาบาลในตัวจังหวัด แพทย์ได้เจาะเลือดวินิจฉัยว่าน้องติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง และมีโอกาศที่หัวใจจะหยุดเต้น และวันที่ 11 มี.ค. 66 ลูกสาวก็หัวใจหยุดเต้น ปั๊มหัวใจถึง 3 รอบ แต่ก็ไม่ทันแล้ว นอกจากนี้ วันที่ 12 มี.ค. 66 เราได้ทำการประกอบพิธีทางศาสนาน้องได้ 1 คืนแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลขอรับศพกลับไปเอ็กซ์เรย์ ซึ่งตนก็ยังเอะใจว่าทำไมถึงต้องเอ็กซ์เรย์ และผลที่เอ็กซ์เรย์มาก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ตนอยากรู้เรื่องระบบการรักษา ระยะเวลาการส่งตัว ระบบส่งต่อ อยากรู้ว่าเขาทำถูกต้องไหม เพราะตนเคยถามแพทย์ที่รักษาน้อง เขาบอกว่าเขาไม่ได้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเด็ก ซึ่งเคยทวงถามกับทางโรงพยาบาลแล้วไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย 3 สัปดาห์ที่ตนรอคอยคำตอบ ทำไมไม่มีใครตอบอะไรกลับมาเลย ถ้าไม่ได้สื่อโซเชียล ตนจะได้เรียกร้องความเป็นธรรมไหม
ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว กล่าวว่า ตนคาดว่าน้องน่าจะมีอาการติดเชื้อจากทางเดินอาหาร เพราะมีอาการอาเจียนรุนแรง ซึ่งมันก็จะทำให้ระดับเกลือแร่ในร่างกายมันเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้สติสัมปชัญญะไม่เหมือนเดิม อย่างเช่นที่น้องกรี๊ดร้องออกมา อย่างไรก็ตามอาการช่วงแรกมันอาจจะดูไม่รุนแรง แต่พัฒนาการของโรคมันไว ส่วนเรื่องการตรวจเลือดในตอนแรกนั้น ขั้นตอนต่าง ๆ ตนไม่ได้เป็นคนอยู่ในเหตุการณ์ เดี๋ยวจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด ต้องรอผล อย่างไรก็ตาม ตามปกติแล้ว ถ้าการรักษาเกินศักยภาพของโรงพยาบาลนั้น ๆ ยังไงก็ต้องส่งต่อ ทั้งนี้ สิทธ์การรักษาของราชการไม่มีข้อจำกัดใด ๆ จะรักษาที่ไหนก็ได้
ฟาก ระพีพรรณ จันทรอ้วน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงคาน เผยว่า ทีมแพทย์ที่รักษาตอนนั้น เขาให้การรักษาตามแนวทาง จากผลเลือด โดยผลเลือด ณ วันนั้นไม่ได้บ่งบอกอะไรชัดเจน จึงรักษาไปตามอาการ ส่วนเรื่องที่ผู้ปกครองประสงค์ให้ย้ายผู้ป่วย ตนคิดว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ขณะที่เรื่องการให้เซ็นปฏิเสธการรักษานั้น ตนยังไม่แน่ใจในเหตุการณ์ตอนนั้น ในประเด็นของการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์นั้น เนื่องจากตัวผู้ป่วย มีการรับรู้ที่เปลี่ยนไป เลยสงสัยว่าอาจจะมีเรื่องในสมองหรือไม่ จึงดำเนินการขอเอ็กซ์เรย์ ขณะเดียวกัน ที่แพทย์ไม่ได้แจ้งผลการเอ็กซ์เรย์ เพราะเขาไม่ได้จบเฉพาะทางการอ่านผล เขาเลยไม่กล้าที่จะรับรองผล อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลจะหารือกับทางผู้ใหญ่ เพื่อเยียวยาให้ผู้เสียหาย และตอนนี้ได้ประสานไปยัง สสจ. และทางเขตทราบเรื่องแล้ว เดี๋ยวคงจะมีการลงมาตรวจสอบ
ด้าน รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ในมุมกฎหมายของกรณีนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะต้องทำการจัดตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ซึ่งเขาจะรับผิดชอบหรือไม่นั้น จะต้องมีผลสรุปว่าหมอประมาทเลินเล่อ ดังนั้นจึงต้องรอผลสรุปก่อน ส่วนตัวตนนั้นมีข้อสงสัยว่าในการส่งตัวผู้ป่วยมันเกิดการล่าช้าได้อย่างไร หรือในกระบวนการรักษามันมีการผิดพลาดไหม และที่ตนแปลกใจคือตอนน้องเสียชีวิตแล้วถึงเอาน้องไปเอ็กซ์เรย์ ทำไมไม่ทำตั้งแต่ยังไม่เสียชีวิต ทำให้เกิดความล่าช้าขึ้น ซึ่งความล่าช้าก็เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างหนึ่ง ขณะเดียวกัน แม่เด็กเขาก็ติดใจว่าขั้นตอนในการรักษานั้นผิดพลาดหรือไม่ ดังนั้นเรื่องนี้ ต้องให้ศาลท่านตัดสิน มันต้องมีคนตรวจสอบ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35