เร่งแกะรอย ! 2 คนร้าย ประกบยิง นักศึกษาช่างกลปทุมวันดับ ย่านจรัญสนิทวงศ์

431 ครั้ง

03 เม.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

มี 2 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ประกบยิง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เสียชีวิต ตามร่างกายพบรอยถูกคมกระสุนรวม 6 นัด วันนี้ (3 เม.ย.) มีความคืบหน้าในคดีนี้

เมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) เวลา 4 ทุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุยิงกันตาย เหตุเกิดใกล้ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 30/1 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สน.บางกอกน้อยเพียงแค่ 300 เมตร

หลังเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบศพนายศตวรรษ รอบรู้ อายุ 23 ปี นศ.วิศวกรรมไฟฟ้า ปี 1 ขึ้นปี 2 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน สภาพศพนอนตะแคงขวา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่หน้าอกซ้าย1 นัด หน้าอกขวา 1 นัดซี่โครงซ้าย 1 นัด ขาซ้าย 2 นัด และนิ้วโป้งขวา 1 นัด รวม 6 นัด และพบหัวกระสุนไม่ทราบขนาด 3 หัวตกบริเวณที่เกิดเหตุ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ล้มคว่ำ มีรอยกระสุนทะลุ 1 นัด และหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว ของผู้ตาย

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ ถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบขี่รถ จยย. ยามาฮ่า รุ่น N-Max สีขาว ทะเบียนจำได้ 9178 ขี่ประกบไล่กระหน่ำยิงหลายนัด จนรถผู้เสียชีวิตล้มคว่ำไถลไปกับถนน จากนั้นคนร้ายได้ ย้อนรถกลับมาจ่อยิงซ้ำอีกหลายนัด ก่อนขี่หลบหนีไปตามถนนจรัญสนิทวงศ์ ขาเข้ามุ่งหน้าสี่แยกไฟฉาย

ความคืบหน้าวันนี้ (3 เม.ย.) พ.ต.อ. ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผกก.สน.บางกอกน้อย ระบุว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางของคนร้าย รวมถึงกล้องวงจรปิดแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่า คนร้ายทั้งสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์ ประกบผู้ตายมาตั้งแต่หน้าหอพักบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 จากนั้นเมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุได้มีการประกบยิงจำนวนหลายนัด จนรถผู้ตายเสียหลักล้มลง จากนั้นคนร้ายก็วนรถกลับมาก่อนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต และหลบหนีไปทางถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าสี่แยกไฟฉาย

พ.ต.อ. ณัฐพัฒนส์ กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากพฤติการณ์ก่อเหตุอุกอาจมาก อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ เนื่องจากคนร้ายใส่หมวกกันน็อกเต็มใบทั้งสองคน รวมถึงได้มีการเรียกเพื่อนมาสอบปากคำบางส่วนแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องส่วนตัว หรือ เรื่องของความขัดแย้งระหว่างสถาบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ทางญาติจะเดินทางเข้ารับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

มีรายงานข่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ประกบยิงนักเรียนช่างกลเสียชีวิตครั้งนี้ มีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 มีคนร้ายสองคนใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ ประกบยิงนักเรียนสถาบันชื่อดัง จำนวน 8 นัด จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณ ซอยเทอดไท 86 (แยกกำนันแม้น) ท้องที่ สน.บางขุนเทียน โดยยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ส่วนผู้ก่อเหตุทั้งสองคดีนี้จะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันหรือไม่นั้น ตำรวจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ตั้งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ระบุว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา จากที่สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต และคนร้าย ขับขี่กันมาตามปกติ ไม่มีการเร่งเครื่อง หรือขับขี่ไล่กวดกันมาแต่อย่างใด และต่อมาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด จำนวน 7-8 นัด และเงียบหายไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปืนดังอีก 4-5 นัด จากนั้นทุกอย่างก็สงบลง จนกระทั่งเห็นว่ามีพลเมืองดีที่อยู่ใกล้เคียง ลงไปช่วยเหลือ

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เพื่อพบกับมารดา และ เพื่อนของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมารับศพ

นางอุไรวรรณ รอบรู้ อายุ 49 ปี แม่ผู้ตาย ระบุว่า ตนมีลูกสามคน โดยผู้ตายเป็นลูกคนที่สอง ของครอบครัว ที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนดีไม่เคยมีปัญหา หรือมีเรื่องกับใคร รวมถึงลูกชายตั้งใจเรียนจนสอบเข้าสถาบันแห่งนี้ด้วยตัวเอง ตั้งใจจะประกอบอาชีพวิศวกร เพื่อจะเลี้ยงดูแลครอบครัว ที่ผ่านมาก็เคยเตือนลูกชายให้ระมัดระวังตัว เพราะทราบดีว่าสถาบันที่ลูกเรียนมักจะมีปัญหา แต่ลูกชายบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ได้มีการโทรศัพท์คุยกับลูก ซึ่งลูกชายบอกว่าจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดเลย เพื่อกลับไปหาแม่ในเทศกาลสงกรานต์ ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุยกัน

ทราบว่าวันเกิดเหตุลูกชายออกไปซื้อกับข้าว อยู่ใกล้ที่พัก ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูก อยากให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว และอยากถามว่า ทำไมถึงมาทำร้ายลูกตนเช่นนี้ ทั้งที่ลูกชายไม่เคยมีปัญหา หรือ โกรธเคืองกับใครมาก่อน รวมถึงเป็นที่รักของเพื่อน ๆ ทุกคน นอกจากนี้หลังเกิดเหตุทางสถาบัน รวมถึงครูอาจารย์ก็ไม่มีการติดต่อมาสอบถามเหตุการณ์แต่อย่างใด

สำหรับศพของผู้เสียชีวิตทางครอบครัวจะพาร่างไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน อ.เชียงคาน จ.เลย เป็นเวลา 3 วัน ก่อนฌาปนกิจต่อไป

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35