บัตรทอง vs ประกันสังคม เหมือน/ต่าง กันอย่างไร ? | เงินทองของจริง

พูดถึงสวัสดิการที่เกี่ยวกับสุขภาพ "บัตรทอง" และ "ประกันสังคม" มีความเหมือนต่างกันอย่างไร ?

 

บัตรทอง หรือ บัตร 30 บาท เป็นบัตรที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติออกให้กับคนไทยทุกคน เป็นเสมือนสิทธิติดตัวคนไทยมาตั้งแต่กำเนิด แต่เมื่อถึงวัยทำงาน บางคนอาจเป็นข้าราชการ ซึ่งจะได้รับสิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการเข้ามาทดแทน แต่หากเป็นพนักงานบริษัท มีการจ่ายประกันสังคม ก็จะมีสิทธิผู้ประกันตนเข้ามาทดแทน ไปจนถึงวันสิ้นสุดของการทำงาน หลังจากนั้นจึงกลับมาเป็น บัตรทอง เช่นเดิม

 

โดยหลักแล้ว สิทธิรักษาพยาบาลของบัตรทอง จะเป็นสิทธิในการรักษาพยาบาลเฉพาะที่โรงพยาบาลเท่านั้น ในส่วนของค่าเดินทาง และค่าพักฟื้นหลังการรักษา จะไม่รวมอยู่ด้วย

 

เมื่อเปรียบเทียบกับประกันสังคมของพนักงานประจำ ซึ่งมีสิทธิรักษาพยาบาลด้วยเช่นกัน และเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เมื่อเราส่งจ่ายประกันสังคมแล้ว เราจึงต้องใช้สิทธิประกันสังคมมาตรา 33 หรือบางคนที่ออกมาทำธุรกิจส่วนตัว แต่ยังต้องการสิทธิการรักษาพยาบาลอยู่ สามารถส่งจ่ายมาตรา 39 ได้ และอีกมาตรา คือ มาตรา 40 ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มอาชีพอิสระ โดยมีสิทธิชดเชยรายได้ในกรณีเจ็บป่วย แต่จะไม่ได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาล ดังนั้นเมื่อเจ็บป่วยจึงต้องใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา และได้สิทธิเงินชดเชยจากประกันสังคมมาตรา 40 ด้วยเช่นกัน

 

กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน หากต้องการใช้สิทธิประกันสังคม เราสามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่โรงพยาบาลที่เราระบุเอาไว้ และในส่วนของบัตรทองก็เป็นลักษณะคล้าย ๆ กัน

 

หลายคนที่มีสิทธิประกันสังคม แต่อาจจะมีความกังวลอยู่ว่าจะเพียงพอหรือไม่ ต้องซื้อประกันสุขภาพเพิ่มหรือเปล่า อาจจะต้องสำรวจปัจจัยต่าง ๆ ของตัวเองก่อน เพราะแต่ละคนมีความเสี่ยงที่ไม่เท่ากัน ปัจจัยแรก คือ ประเมินความเสี่ยงของตัวเอง ว่ามีความถี่ในการเจ็บป่วยบ่อยหรือไม่ และปัจจัยที่ 2 คือ การประกันมีต้นทุนเสมอ เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องดูแล

 

เมื่อประเมินทั้งสองปัจจัยควบคู่กันแล้ว หากเรามองตัวเองว่าเป็นคนไม่ค่อยเจ็บป่วย หรือเมื่อเจ็บป่วยก็เป็นเพียงอาการเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ หากใช้เพียงสิทธิประกันสังคมหรือสิทธิบัตรทองก็อาจจะเพียงพอต่อการรักษาแล้ว แต่หากเจ็บป่วยบ่อย มีค่ารักษาพยาบาลสูง ซึ่งอาจจะไม่มีเงินก้อนไว้สำรองจ่ายได้ทุกครั้ง ดังนั้น การซื้อประกันสุขภาพเพื่อใช้สิทธิในการรักษาก็เป็นสิ่งที่ทำได้เช่นกัน หรือบางคนที่มองในเรื่องความคุ้มครองโรคร้ายแรง การได้รับบริการที่มีระดับมากขึ้น ก็อาจจะเป็นตัวเสริมในการพิจารณาเพื่อซื้อประกันสุขภาพได้

 

ทั้งนี้การซื้อประกันสุขภาพเป็นเรื่องที่มีค่าใช้จ่าย และเบี้ยประกันมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี ยิ่งอายุมาก เบี้ยประกันก็ยิ่งแพง ดังนั้น ผู้ที่สนใจซื้อประกันจะต้องดูเรื่องความพร้อมของตัวเองด้วย และในส่วนของผู้สูงอายุบางท่านที่มีกำลังทรัพย์และอยากซื้อประกันเพื่อดูแลตัวเองนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เพราะยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงก็ยิ่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน