วิกฤต PM2.5 ! กู้ภัยเชียงใหม่ เผย ต้องตระเวนรับ-ส่ง ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ไป รพ.ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
logo ข่าวอัพเดท

วิกฤต PM2.5 ! กู้ภัยเชียงใหม่ เผย ต้องตระเวนรับ-ส่ง ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ไป รพ.ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

ข่าวอัพเดท : สถานการณ์ฝุ่นPM2.5 และ หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่ตัวเมืองและพื้นที่รอบนอกหลายแห่งยังคงมีค่าคุณภาพอากา เชียงใหม่,ฝุ่น,pm2.5,โรคทางเดินหายใจ,กู้ภัย,ผู้ป่วย

495 ครั้ง
|
30 มี.ค. 2566
        สถานการณ์ฝุ่น"PM2.5" และ หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่ตัวเมืองและพื้นที่รอบนอกหลายแห่งยังคงมีค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน และสามารถมองเห็นหมอกควันสีขาวขุ่นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน โดยทางผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ได้ใช้ไฟฉายส่องไปในอากาศภาพที่เห็นคือมีฝุ่นละอองขนาดเล็กลอยอยู่ในอาการจำนวนมหาศาล
 
         แอปพลิเคชัน “AirVisual” ได้รายงานคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ช่วง 23.00 น. วันที่ 29 มี.ค. 66 พบว่า เชียงใหม่มีค่า AQI อยู่ที่ 209 อยู่ในอันดับ 2 ของโลก ซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก
 
         สำหรับจุดตรวจวัดค่า PM2.5 ของกรมควบคุมมลพิษ แอปพลิเคชัน Air4Thai รายงานว่า ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 135 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีแดงซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
 
        ด้านหน่วยกู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ นายพลวัตร สุดต๋า เจ้าหน้าที่กู้ชีพ เผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ข้า PM 2.5 เริ่มสูงขึ้นทำให้มีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก รถกู้ภัยต้องออกไปรับนำไปส่งโรงพยาบาลทั้งกลางวันและกลางคืน โดยโรคทางเดินหายใจนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรคหอบหืด และถุงลมโป่งพอง ก็อยากจะให้คำแนะนำประชาชนว่าหากจะออกมาทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง ให้สมใจหน้ากากที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กและควรเปลี่ยนวันต่อวัน
 
          ขณะที่นายแพทย์ รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ "หมอหม่อง" อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนักอนุรักษ์เจ้าของรางวัลลูกโลกสีเขียว โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Rungsrit Kanjanavanit” ระบุข้อความว่า "ทางการไม่ประกาศ ประกาศเองก็ได้" พร้อมภาพแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือออกเป็นประกาศในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิพื้นฐานในการหายใจและเสียภาษีครบถ้วน ประกาศให้จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติมลพิษอากาศ หลังจากที่มลพิษอากาศอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายขั้นวิกฤตต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่กลไกรัฐกลับไม่สามารถแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาได้
 
        โพสต์ดังกล่าวมีการแชร์ต่อและมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยและรู้สึกว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นการพูดแทนผู้คนในพื้นที่ที่กำลังเผชิญวิกฤตคุณภาพอากาศอย่างเลวร้าย แต่รัฐบาลและหน่วยงานราชการกลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง