เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ และสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ตรวจสอบสำนักสงฆ์ที่ถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าใช้วิธีรักษาโรคสุดพิสดาร ให้คนป่วยนอนย่างไฟจนร่างกายพุพอง แต่ไม่พบพระต้นเรื่อง อ้างว่าติดกิจนิมนต์ ด้านลูกศิษย์ต่อว่านักข่าว เรื่องดี ๆ ไม่ทำ ทำแต่เรื่องไร้สาระ ขณะที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว
จากกรณีที่ นางสาววิไลวรรณ อายุ 53 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แล้วหลงเชื่อว่ามีหมอที่เป็นพระรักษาหายมาแล้วหลายราย จึงเดินทางไปให้พระรูปนี้รักษาดูบ้าง เมื่อไปถึงพระรูปนี้ก็ใช้วิธีรักษา แบบใช้ค้อนไม้ตอกตามจุด ตามเส้นต่าง ๆ ของร่างกาย และให้นอนย่างไฟร้อน ๆ จนร่างกายเต็มไปด้วยแผลพุพอง และยังพบว่าพระรูปนี้รักษาคนป่วย ที่เป็นผู้หญิงแบบถึงเนื้อถึงตัว จนชาวบ้านพากันสงสัยว่าพระทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ
ล่าสุดวานนี้ (28 มี.ค.) นายเสน่ห์ สิงห์นุ้ย ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ชุดคุ้มครองผู้บริโภค จังหวัดพัทลุง ลงพื้นที่ไปยังสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุแต่ไม่พบพระภูมิพัด ที่ทำหน้าที่รักษาโรคให้ชาวบ้านแต่อย่างใด ทราบจากลูกศิษย์วัดว่า พระรูปนี้ติดกิจนิมนต์ ไปรักษาญาติโยมอยู่ใน จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงสำนักสงฆ์แห่งนี้ ปรากฎว่านายสมบูรณ์ บุญวิสูตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่มเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ได้ต่อว่านักข่าวว่าเรื่องดี ๆ มีตั้งเยอะไม่ทำ มาทำเรื่องไร้สาระ และทำให้พระเสียหาย ขณะที่คณะสงฆ์ที่มาร่วมตรวจสอบก็บอกว่า ข่าวที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้คณะสงฆ์เสียหาย อยากรู้ว่านักข่าวมีเจตนาอะไร
ด้านนายเสน่ห์ สิงห์นุ้ย ผอ.สำนักพุทธศาสนา จังหวัดพัทลุง กล่าวว่าเบื้องต้นจากการตรวจสอบการขอใช้อาคารโรงเรียนเก่า เปิดเป็นสำนักสงฆ์นั้น ยังไม่มีใครดำเนินการ ซึ่งยังผิดอยู่และการรักษาผู้หญิงนั้น มันไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่จะกระทำ มันไม่เหมาะสม ซึ่งการลงโทษถึงขั้นไหนนั้น ต้องรอเจ้าคณะสงฆ์เป็นผู้ดำเนินการเองว่าปราชิกหรือไม่ หรือแค่อาบัติ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่าผลจากการตรวจการขอขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้านนั้น ยังไม่ได้รับการขอขึ้นทะเบียน ซึ่งยังผิด พ.ร.บ.กระทรวงสาธารณะสุข แต่มาวันนี้ไม่เจอพระต้นเรื่อง จึงไม่สามารถสอบสวนอะไรได้มากนัก ต้องรอเจ้าตัวกลับมาก่อน
ด้านนายสมบูรณ์ บุญวิสูตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่มเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ลูกศิษย์พระภูมิพัด ได้กล่าวหลังจากฟังการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ ที่ว่าการรักษาทุกอย่างยังผิดขั้นตอนอยู่ โดยนายสมบูรณ์ ได้โทรศัพท์ไปหาพระภูมิพัด บอกว่าให้กลับมาขอขึ้นทะเบียนแพทย์แผนไทยให้ถูกต้อง และหลังจากนี้ยืนยันว่าจะไม่ให้พระภูมิพัด รักษาผู้หญิงอีกแล้ว ถ้าจะรักษาก็ขอให้ผ่านลูกศิษย์ พร้อมยอมรับว่าเมื่อมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการมารักษาที่นี่ ตนจะตามไปดูว่า แผลพุพองนั้นเกิดจากการรักษาของพระภูมิพัดตามที่มีการนำเสนอข่าวไปจริงหรือไม่
ในขณะที่นางสมศรี อายุ 55 ปี พี่สาวของนางวิไลวรรณ ผู้เสียหายก็ได้เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุงแล้ว เพื่อให้เอาผิดกับพระรูปนี้ต่อไป
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม