"ชูวิทย์" ประกาศชัด เคยทำอาบอบนวด เคยเป็นนักการเมือง เป็นนักโทษ วันนี้เป็นนักเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านกัญชา เพราะสังคมมันวิปริต คนอย่างผมถึงออกมาจัดการกับคนที่ไม่มีใครกล้าชน
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จั่วหัวถึงคำว่า “สื่อสารมวลชน” โดยข้อความตอนหนึ่งในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า หลังจากทำงานมาหลายสาขาอาชีพ เคยเป็นนักธุรกิจ ทำอาบอบนวด เป็นนักการเมือง เป็นนักโทษ เป็นสื่อ จนท้ายสุดในวันนี้ผมกลายเป็น “นักเคลื่อนไหว” รณรงค์ต่อต้าน “กัญชา” จุดตายของเรื่องนี้ง่ายๆ จากประสบการณ์นักการตลาดการเมืองที่อยู่ในกระแสมามากกว่า 20 ปี คือ การสื่อสารกับมวลชน
นายชูวิทย์ ระบุว่าการจะเรียกความสนใจจากประชาชนได้ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง และกระทบต่อความรู้สึกของเขามากที่สุดหากไปบ้านนอกพูดเรื่องรถไฟฟ้า ชาวบ้านคงไม่สนใจ เพราะห่างไกลตัวเขา แต่เรื่อง “ยาเสพติด” เกี่ยวพันถึงทุกคน ทุกครอบครัว จึงต้องเข้าใจว่า “จุดอ่อน” ของพรรคการเมืองในเรื่องนี้อยู่ตรงไหน และหมดโอกาสแก้เกม เพราะทำไปโดยไม่คิดถึงสังคมที่เกิดปัญหาตามมามากมาย
“การรณรงค์ต่อต้านกัญชาของผมเหมือนการตอกตะปู ยิ่งตอกทุกวี่ทุกวัน ย่อมแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนยากที่จะถอนออก กัญชา คือสิ่งที่ผมสื่อสารถึงมวลชน และมวลชนตอบรับสิ่งที่ผมสื่อสารเป็นอย่างดี กระแสจึงกระเพื่อมดั่งคลื่นเกยฝั่งไปจนถึงวันเลือกตั้ง อยู่ที่ผมจะลากกระแสไปถึงหรือไม่ หากเห็นว่าสิ่งที่ผมทำเป็นประโยชน์ สื่อย่อมมีหน้าที่สะท้อนมุมมองให้สังคมได้เห็นเป็น กระจกสองด้าน สื่อที่หมกหมุ่นเอาแต่ไล่โจมตีคนอื่น มันตกยุคไปแล้ว เพราะสังคมมันวิปริต คนอย่างผมถึงออกมา เพื่อจัดการกับคนที่คิดว่าไม่มีใครกล้าชน” นายชูวิทย์ระบุ
ส่วนกรณีนายสันธนะ ประยูรรัตน์ จะเดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ติดตามความคืบหน้าคดีสารวัตรซัว พยายามจ่ายเงินเพื่อปกปิดคดี และแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับถุงเงินสีเทา นายชูวิทย์ ระบุว่า ศาลเพิ่งประทับรับฟ้องไปหมาดๆ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช นั่งถูมือรอดูอยู่ คงได้โดนซัดอีกคดี
+ อ่านเพิ่มเติม