เช้านี้ที่หมอชิต - ทนายตั้ม เผยเหตุผลแฉ นายชูวิทย์ เพราะผิดหวังที่รู้ข้อมูลเรียกรับเงินแลกกับการไม่แฉ ซึ่งยอดเงินสูงถึง 50 ล้าน ยืนยัน ไม่ได้รับงานใครมา และพร้อมร่วมแฉรถไฟฟ้า เว้นแต่ นายชูวิทย์ จะเลือกแฉแค่บางสี
หลังจากที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เฟซบุ๊กภาพถุงเงิน พร้อมข้อความ แฉไป ไถไป จนกระทั่ง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ต้องโพสต์ตอบโต้
เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) นายษิทรา บอกในการแถลงที่สำนักงานทนายความษิทราลอว์เฟิร์มว่า ตั้งใจมาตลอดว่า 3 คน ที่จะไม่ทะเลาะด้วย คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายชูวิทย์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เพราะเหมือนหาเรื่องใส่ตัว แต่ตนกลับได้ข้อมูลหลายทางถึงพฤติกรรมการเรียกรับเงิน แลกกับการไม่แฉข้อมูลการทำผิด ซึ่งหนึ่งในคนให้ข้อมูลเป็นหลานของนายชูวิทย์ด้วย
หลายคนอาจไม่เชื่อในสิ่งที่ตนนำมาเปิดเผย หลายคนอาจยังเชื่อนายชูวิทย์ แต่เจ้าตัวก็ออกมายอมรับเอง เพราะจำนนต่อหลักฐานว่าได้รับเงิน 6 ล้านบาท มาจาก สารวัตรซัว และเมื่อสืบค้นคำสัมภาษณ์ของนายชูวิทย์ในวันที่นำเงินไปบริจาคให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นายชูวิทย์ บอกว่า ไปขอความช่วยเหลือจากพรรคพวกคนทำงานสุจริต แต่เมื่อมาบอกว่าเป็นเงินสารวัตรซัว จึงอยากถามกลับในมุมมองของนายชูวิทย์ สารวัตรซัวทำงานสุจริตหรือ นายชูวิทย์พูดบ่อย อาจลืมว่าพูดอะไรไปบ้าง
นายษิทรา บอกด้วยว่า คนที่เอาเงินไปให้ บางคนเคยเกี่ยวข้องคดียิงกันในบ่อน ซึ่งเรื่องเงียบไปหลังเข้าพบนายชูวิทย์ อาบอบนวดลาลิซ่าที่ซื้อมาจากเสี่ยกำพล กรณีถุงเงินคนที่อยู่ในเหตุการณ์ มีเจ้าของเว็บฯ พนัน คนสนิทสารวัตรซัว ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ กล่องดวงใจก็นั่งอยู่ด้วย และมีตำรวจคนสนิทอยู่ด้วย วันนั้นถือ 2 ถุงนี้เข้าไป ยอดไม่ใช่ 6 ล้าน แต่เป็น 10 ล้าน โดย ทนายตั้ม ได้ทำกราฟิกและภาพจำลองการคำนวณเงินพบว่า เปรียบเทียบกับถุงขนาดมาตรฐาน ที่มีขนาดความกว้าง 32 เซนติเมตร สูง 40 เซนติเมตร ขอบข้าง 12 เซนติเมตร แบงก์พัน 1 ปึก จะมีความสูง 7.2 เซนติเมตร หากคำนวณตามจำนวนที่ปรากฏในภาพ 3 ปึก ไม่น่าจะใช่เงินจำนวน 6 ล้านบาท แต่น่าจะเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท ที่ได้รับจากสารวัตรซัว
นายชูวิทย์ ยังรับจากเครือข่ายเพิ่มทีละ 10 ล้าน เท่าที่ทราบ 2 ครั้ง ตัวเลขเกินกว่า 20 ล้าน ไม่รวมกับ 50 ล้าน ที่รับเป็นเงินสกุลดิจิทัลจากคนที่ประมูลซื้อทะเบียนรถเลขสวย
นายษิทรา บอกอีกว่า ในรายการโทรทัศน์หนึ่ง เอ่ยถึงตำรวจนอกราชการนายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 35 ที่สนิทสนมกับนายชูวิทย์ คอยประสานงานต่าง ๆ ให้ ซึ่งตนทราบข้อมูลจากคนวงในอีกว่า นายชูวิทย์ มีกล่องดวงใจดวงหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่ทำธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชา เป็นเสมือนมือขวา โดยกล่องดวงใจดวงนี้ เป็นผู้ที่พาสารวัตรซัว ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเจ้าของเว็บฯ พนัน ไปพบนายชูวิทย์ ที่โรงแรมเดวิส เพื่อพูดคุยและให้เงินกัน
นายษิทรา ยังฝากคำถามถึงนายชูวิทย์ ที่เคยโพสต์เฟซบุ๊กถึง นายแทนไท เมื่อ 21 มกราคม จากนั้นก็ไม่เคยโพสต์ถึงนายแทนไท เป็นเพราะอะไร หรือเพราะว่ากล่องดวงใจพา นายแทนไท ที่เป็นเจ้าของเว็บฯ พนัน ไปพบเมื่อวันตรุษจีน ซึ่งปกติ นายชูวิทย์ จะรู้ว่าเว็บฯ พนันไหนเป็นไซซ์ S M L XL แต่ไม่เคยบอกว่าแทนไทไซซ์อะไร โดยจะร้องเรียนไปยังตำรวจสอบสวนกลาง ให้ตรวจสอบเงินสกุลดิจิทัลมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เข้าบัญชีกล่องดวงใจนายชูวิทย์ด้วย
นายษิทรา ตอบคำถามการออกมาแฉครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ว่า ตนเคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้ลาออกแล้ว ยืนยันว่า เลือกตั้งรอบนี้จะไม่สมัครพรรคไหน ขอทำหน้าที่แบบนี้ต่อไป ตนก็มีข้อมูลเกี่ยวกับรถไฟฟ้าเหมือนกัน หลังจบเรื่องนี้จะเอาข้อมูลไปมอบให้ นายชูวิทย์ อาจมีโอกาสร่วมกันแฉ ยกเว้น นายชูวิทย์ จะเลือกแฉเฉพาะรถไฟฟ้าสีใดสีหนึ่ง ข้อมูลที่ตนมีเกี่ยวข้องผู้ว่าฯ กทม. หลายคน จะปล่อยออกมาใกล้ ๆ เลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนรู้กันไปเลยว่าใครโกงกินเรื่องนี้
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม