สาวเจ็บหนัก ตู้คอนเทนเนอร์ล้มทับ คนขับไม่เหลียวแล หวั่นคดีไม่คืบ !

สาวร้องสื่อ ถูกกตู้คอนเทนเนอร์ล้มทับ นายจ้างเยียวยาแค่ 4,000 ก่อนจะเงียบ นัดหมายให้มาเคลียร์ ก็ไม่คุย หวั่นคดีไม่คืบ !

 

 

            วันที่ 27 มี.ค. 66 ดวงฤทัย จำปาพันธ์ (มายด์) ผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน  โชคกมลกิจ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ แฟนของตนขับรถพ่วงเพื่อขึ้นไปบรรจุข้าวสาร ทว่าแฟนเพิ่งจะเริ่มมาทำงานใหม่ เลยไม่ค่อยชินรถ ลุงมงคล ผู้จ้างงาน เขาเลยมาขับเอง จากนั้นเมื่อบรรจุข้าวสารเข้าตู้คอนเทนเนอร์เสร็จแล้ว จังหวะที่กำลังเอาตู้ลงไปชั่งน้ำหนัก หัวรถลากอยู่ตรงบริเวณทางต่างระดับ มันเลยดึงตู้คอนเทนเนอร์ลงมาทับ ซึ่งตนก็นอนอยู่ในหัวรถ นอนอยู่ข้างหลังคนขับ เลยถูกทับหนีไม่ทัน โดยตนถูกทับตั้งแต่ช่วงอกขึ้นไปด้านบน ขณะที่อาการบาดเจ็บของตนนั้น มี เส้นเลือดฝอยในตาแตก เลือดออกที่โพรงจมูก แขนหัก เจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ อาเจียน มีบาดแผลที่หน้าอกและขา 

 

            ส่วนเรื่องการเยียวยา วันแรกที่เกิดอุบัติเหตุ ลุงมงคลโอนเงินมาให้ 2,000 บาท โดยบอกว่าเอาไว้ใช้กินอยู่ ขณะเดียวกันช่วงแรกที่อยู่โรงพยาบาลเขาก็มีโทรติดตามอาการจากตนอยู่ ต่อมาตนออกจากโรงพยาบาลได้ 1 วัน ตนมีอาการแน่นหน้าอก จึงคิดว่าจะไปหาหมอ โดยลุงมงคลก็ให้ค่าน้ำมัน 1,500 บาท และออกค่ารักษาพยาบาลวันนั้นให้ ทว่าหลังจากนั้นก็มีมีการเยียวยาใด ๆ ตนให้พี่สาวโทรติดต่อไปหา แต่ลุงมงคลก็ไม่คุย 

 

            ด้าน อรรชัย จารุนัย (เจมส์) แฟนของผู้บาดเจ็บ เผยว่า ตอนช่วงเกิดเหตุ ตนอยู่ข้างนอกรถ พอแฟนถูกทับจึงรีบขึ้นไปช่วย โชคดีว่าดึงเบาะออกได้ เลยช่วยแฟนออกมาได้ ขณะเดียวกัน ตนต้องออกจากงาน เพราะรถที่ต้องขับมันพังแล้ว แต่ลุงมงคล เขาก็บอกให้ตนไปขับรถของเขาแทน แต่ด้วยความกลัว ตนเลยไม่กล้าไปขับ

 

 

            ฟาก ศริพร จารุนัย (ออย) พี่สาวของแฟนผู้บาดเจ็บ เล่าว่า หลังจากน้องสาวออกจากโรงพยาบาล ตนก็โทรไปหาลุงมงคล เพราะเขาบอกว่าออกจากโรงพยาบาล แล้วเขาจะมาเยี่ยมมาดูแล ส่วนตนเองก็อยากจะคุยเรื่องการเยียวยาต่อจากนี้ แต่ลุงมงคลบอกว่า เพิ่งเจ็บวันสองวัน จะให้เยียวยาแล้วหรอ จากนั้นก็โต้เถียงกัน ทางลุงมงคลบอกว่า โทรมาแบบนี้อยากได้เงินใช่ไหม ซึ่งตนมองว่ามันไม่ถูก เพราะน้องตนเจ็บ ทำงานก็ทำไม่ได้ทั้ง 2 คน ทั้งนี้หลังจากที่ตนโทรไปหาเขา เขาก็ไม่ติดต่อมาหาตนอีกเลย จนกระทั่งเรื่องมาเป็นข่าว เขาถึงได้ติดต่อกลับมา 

 

            ด้าน มงคล นายจ้าง เล่าว่า  ตนได้คุยกับผู้เสียหายแล้ว ตนบอกให้เขามาอยู่กับตน แล้วตนจะให้ภรรยาคอยดูแล ส่วนค่าใช้จ่ายให้บอกตน ตนจะออกให้หมด ซึ่งตนก็โทรติดตามอาการอยู่ทุกวัน ทั้งนี้ตนเสียใจมากที่เขาบอกว่าตนไม่ดูแล ทั้งที่ตนก็โอนเงินค่ารถ ค่ากิน ค่ารักษาให้ ตนอยากให้รักษาให้หายเจ็บก่อน แล้วค่าทำขวัญไว้คุยกันภายหลัง  อย่างไรก็ตาม ตนได้คุยตกลงกับผู้ใหญ่ฝั่งของผู้เสียหายแล้ว ตนยินดีช่วยดูแลทุกอย่าง

 

 

            วิทิต สาธุ ทีมสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ผู้เสียหายมาร้องเรียนกับสายไหมต้องรอด เขาเจ็บหนัก และขาดรายได้ ตนก็เลยให้เขาเจรจากัน แต่ตกลงกันไม่ได้ โดยฝั่งนายจ้างเขายังไม่ให้รายละเอียดที่ชัดเจนกับฝั่งผู้เสียหาย  โดยฝั่งผู้เสียหายเขาอยากทราบว่าหลังจากนี้เขาจะได้เงินเยียวยาจากนายจ้างอีกหรือไม่  สายไหมต้องรอดเลยเป็นสื่อกลางให้เขาได้เจรจากันอย่างชัดเจน และหากคุยลงตัวก็จะจับทำสัญญา 

 

 

            นิติธร แก้วโต ทนายความ ให้ความเห็นว่า เคสนี้ ฝ่ายนายจ้างประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส เพราะว่าผู้เสียหายเขาแขนหัก น่าจะรักษาเกิน 20 วัน ซึ่งมันจะเกี่ยวพันกับการตั้งข้อหาของตำรวจ ขณะเดียวกัน ผู้ที่ประมาทจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่ารถค่าเดินทาง รวมถึงค่าขาดรายได้ นอกจากนี้ส่วนใหญ่ผู้เสียหายเขาจะเรียกกันคือ "ค่าทนทุกข์ทรมาน" เป็นค่าที่ต้องทนทุพลภาพอยู่แบบนี้ ซึ่งตรงนี้ให้เรียกไปก่อน แล้วศาลจะพิจารณาเองว่าสมควรได้เท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม การประมาทในลักษณะนี้ เป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความได้ แต่เงินเยียวต่าง ๆ สามารถเป็นเหตุให้บรรเทาโทษได้