แม่ค้าถูกมาเฟียในพื้นที่อ้างสนิทกับตำรวจ เรียกเก็บค่าคุ้มครอง หลังจากไม่จ่ายเงินตามที่เทศกิจแนะนำ ร้านค้าถูกก่อกวนจนได้รับความเสียหายหลายครั้ง และรุนแรงถึงขั้นถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ แต่อีกฝ่ายยืนยันไม่ได้เป็นมาเฟีย แค่มาช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้ ไม่สนิทกับตำรวจตามที่ถูกกล่าวอ้าง
วันที่ 23 มี.ค. 66 คุณทัตพิชา ทิพยหิรัญ (น้อง) เจ้าของร้านกาแฟ เล่าว่า ตนได้ตั้งร้านขายของมาตั้งแต่ปี 2564 มีคนมาบอกว่าต้องขออนุญาตคุณเอ๋ก่อน จึงจะขายได้ ตนจึงไปตกลงกับคุณเอ๋และจ่ายเงินไปครั้งแรก 500 บาท เพื่อแลกกับความคุ้มครอง จากนั้นก็จ่ายมาตลอด เดือนละ 1,300 บาท เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต เมื่อเทศกิจลงพื้นที่มาพูดคุย บอกว่าไม่ต้องไปจ่ายให้คุณเอ๋ โดยต้องมาจ่ายให้เทศกิจแทน เพราะเป็นพื่นที่ของรัฐ เมื่อตนไปบอกคุณเอ๋ เขาบอกว่า “ไม่อยากจ่ายก็ไม่ต้องมาจ่ายกู”
คุณสรวิศ สมลา (เอ๋) ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “มาเฟีย” ชี้แจงว่า ตนมีการเก็บเงินจริง เพราะเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเก็บขยะ จึงต้องการเก็บเงินเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ หลังจากที่คุณทัตพิชาบอกว่าไม่ต้องการจ่ายเงิน ตนจึงไม่ได้ไปเรียกเก็บเงินอีก ส่วนหลังจากที่ไม่ได้เก็บเงิน ก็เกิดเหตุการณ์กับร้านของคุณทัตพิชา ตนยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากตนแค่คนเดียว ถ้ามีหลักฐานก็ไปแจ้งความ
เรื่องการทำร้ายร่างกายกันระหว่างคุณเอ๋กับคุณทัตพิชา คุณเอ๋ชี้แจงว่าตนไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นมืดแล้ว จำได้แค่ว่าถูกหาเรื่องก่อน ตนอยู่คนเดียวและถูกรุมทำร้าย ยืนยันว่าตนไม่ใช่มาเฟีย ถ้าเป็นมาเฟียต้องมีลูกน้องมาช่วยอีกฝ่ายเข้าไม่ถึงตัวแน่นอน ส่วนปัสสาวะที่บริเวณร้าน คุณเอ๋ยืนยันว่า คนอื่นก็ทำเหมือนกัน แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีแค่คุณเอ๋คนเดียวที่มาปัสสาวะ
นอกจากนี้หลังจากที่ฝ่ายเจ้าของร้านตกลงว่าจะไม่จ่ายเงินให้คุณเอ๋ ผ้าใบของร้านถูกมีดกรีด โดยสามารถจับภาพผู้ก่อเหตุได้ คุณธีร์วินตร์ สิริภูริสกุล (เฟิร์ส) ลูกชายเจ้าของร้านกาแฟ แจ้งว่าพบผู้ก่อเหตุใช้รถมอเตอร์ไซค์คันเดียวกันกับเพื่อนของคุณเอ๋ ที่เคยมีเรื่องกันก่อนหน้านี้ จึงมั่นใจว่าคุณเอ๋ต้องมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วย ด้านคุณเอ๋ชี้แจงว่า ถ้ามีหลักฐานก็ไปแจ้งความได้เลย แต่มาโทษตนอย่างเดียวไม่ได้ เพราะตนไม่ได้ทำ
คุณกฤษฏพงศ์ กรกฤดิ์ทรัพย์ ทีมสายไหมต้องรอด กล่าวต่อว่า เมื่อได้รับเรื่องแล้ว ได้ประสานงานให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ตำรวจให้รอผลตรวจร่างกายจากกรณีที่โดนคุณเอ๋ทำร้ายร่างกาย จึงจะสามารถทำคดีต่อได้
ทนายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ให้คำแนะนำด้านกฎหมายว่า ถ้าคุณเอ๋มีสิทธิ์ที่จะไปเก็บเงินค่าดูแล คุณทัตพิชาก็ต้องจ่ายเงิน แต่ถ้าคุณเอ๋ไม่มีสิทธิ์ แล้วไปเก็บเงินค่าดูแลจะมีความผิดข้อหากรรโชกทรัพย์ เรื่องการปัสสาวะก็จะมีความผิดจะต้องเสียค่าปรับ ส่วนเรื่องกรีดผ้าใบ ผู้เสียหายสามารถนำหลักฐานไปแจ้งความได้เลย
พ.ต.ต.จาตุรงค์ ติดนนท์ สารวัตรสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า เรื่องพฤติกรรมมาเฟียของคุณเอ๋ ทางตำรวจได้ลงพื้นที่ไปสอบปากคำคนในพื้นที่แล้ว ไม่พบเรื่องการเก็บค่าคุ้มครอง ยืนยันว่าตำรวจรู้จักกับคุณเอ๋จริง เพราะอยู่มานานแต่ไม่ได้มีความสนิทสนมตามที่กล่าวอ้าง ส่วนเรื่องความปลอดภัย ยืนยันว่า “น่าจะปลอดภัยแน่นอน” เพราะมีตำรวจไปคอยดูแลอยู่ตลอด
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35