แม่คาใจ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนเดียว ถูกฟันแขนเกือบขาดระหว่างขี่ จยย. โดย ผู้ก่อเหตุ อ้างแค่แกว่งมีดพลาดท่าไปโดน ส่วนทาง ตร. ยืนยันตั้งใจฟัน ทว่า พยานให้การสวนทางว่า เห็นเหมือนมีอะไรลอยมา !?
จากกรณี น.ส.สุวนันท์ แพไม้ หรือโบว์ อายุ 22 ปี เสียชีวิตจากการถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่หัวไหล่ข้างขวาจนเกือบขาด และทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงสิ้นใจในจุดเกิดเหตุ โดยผู้ก่อเหตุคือ นายเปา อายุ 16 ปี อ้างว่าได้นำอาวุธออกมาแกว่งโชว์ไปมา ระหว่างที่รถจักรยานยนต์กำลังวิ่งด้วยความเร็ว จึงทำให้แกว่งไปโดนที่ไหนของ น.ส.สุวนันท์ อย่างแรง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว ทว่าญาติผู้ตายคาใจว่าจะเป็นการตั้งใจฟัน
วันที่ 20 มี.ค. 66 กัลยา แพไม้ (ยา) แม่ผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ลูกสาวไม่ได้รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยปกติแล้วลูกสาวจะไปทำงานกกับตนที่เขาใหญ่ แต่กลับมาที่บ้าน จ.นครวรรค์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 66 เพราะว่าจะจัดวันเกิดในวันที่ 7 มี.ค. 66 แล้วจะกลับเขาใหญ่วันที่ 20 มี.ค. 66 แต่ก็มาทราบข่าวร้ายก่อน เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 66 โดยลูกสาวโดนฟันผิดตัวในคืนนั้น ระหว่างกลับจากการไปเที่ยวงานงิ้ว แผลยาวลึกตั้งแต่หัวไหล่ถึงหน้าอกขวา ตอนทราบข่าว ตนรับไม่ได้ถึงกับเป็นลมไปเลย ขณะที่ครอบครัวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก็ติดต่อมาขอมางานศพ แต่สามีของตนยังทำใจไม่ได้ เลยไม่ให้เขามา
ทั้งนี้ตนคาใจเรื่องที่พยานบอกว่า เป็นการเขวี้ยงมีดออกมา ซึ่งหากเป็นการเขวี้ยงมีดออกมามันจะต้องถูกผู้ซ้อนบ้าง หรือบาดแผลของลูกสาวตนก็น่าจะโดนแค่นิดเดียว แต่แผลนั้นใหญ่มาก สิ่งที่ตนกลัวที่สุดตอนนี้คือกลัวลูกสาวไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน เสน่ห์ ปั้นทอง (เหน่) ตาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตำรวจบอกกับตนว่าลักษณะเหมือนเป็นการตั้งใจฟัน ไม่ใช่การปามีด เพราะแรงฟันมันแรงมากถึงกับทำให้กระดูกขาด หากปามีดแผลมันน่าจะแค่เฉี่ยว ๆ เฉย ๆ อีกทั้งประเด็นที่ขี่รถไปชนมีดก็ไม่น่าใช่ เพราะหลานสาวขับรถไม่เร็ว ไม่ถึง 90 กม./ชม. และรถจักรยานยนต์ที่หลานขี่ไปก็ก็ขี่ไวมากไม่ได้ เพราะมันเป็นรถโหลดต่ำ ล้อเล็ก หากขี่ไวมันจะล้มทันที ซึ่งตนก็คิดว่า เป็นการฟันมากกว่าเช่นกัน
ทั้งนี้ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับบาดแผลของผู้ตายว่า บาดแผลดังกล่าวเกิดจากของมีคม มีทิศทางจากไหล่ข้างขวา มาที่บริเวณกลางอกส่วนบน โดยมีลักษณะค่อนข้างฉกรรจ์บริเวณไหล่ข้างขวา จนตัดกระดูกไหปลาร้า เส้นประสาท และเส้นเลือดแดงใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต โดยอาวุธในการก่อเหตุจะต้องมีความคมมาก และใช้แรงในการกระทำค่อนข้างมาก จึงเป็นลักษณะของการฟัน มากกว่าเขวี้ยงมีดเข้าไปใส่
ส่วนกรณีแกว่งมีดแล้วผู้ตายขับรถมาชนเองนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย เนื่องจากหากถูกชนขณะแกว่งมีดจริง ตัวของผู้ถูกชนน่าจะกระเด็นออกจากตัวรถ และอาวุธมีดน่าจะกระเด็นออกจากมือ หรือถ้าไม่กระเด็นออกจากก็น่าจะมีโอกาสน้อยที่ทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ในลักษณะดังกล่าวได้
ฟาก จ๋า ผู้ที่ซ้อนท้ายรถ จยย. ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ตนซ้อนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายระหว่างกลับจากเที่ยวงานงิ้ว กลับกันมา 2 คน ซึ่งโซ่ของรถไม่ค่อยดีเลยค่อย ๆ ขับมา ช้า ๆ ระหว่างที่ขี่รถออกมาก็ไม่ได้มีใครตามมา และไม่ได้มีเรื่องกับใครในงานด้วย พอขี่ไปสักพักถึงปั๊มแก๊ส ตนก็เห็นกลุ่มผู้ชายยืนอยู่หลายคน แต่ก็ไม่ได้คิดว่าคนกลุ่มนี้จะทำอะไร จากนั้นก็มีคนในกลุ่มออกมายืนกลางถนน ตนจึงบอกให้ผู้ตายขี่ไปเร็ว ๆ เพราะคนพวกนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจ
ไม่นาน กำลังจะผ่านกลุ่มผู้ชาย ตนก็รู้สึกเหมือนมีอะไรลอยมาโดนผู้ตาย และมาโดนไหล่ตน จากนั้นผู้ตายก็ปล่อยแขนออกจากการควบคุมรถ แล้วบอกตนว่า "ชาว่ะ" และมีเลือดออกเต็มตัว ตนจึงประคองทั้งรถ และผู้ตายขี่ไปป้อมตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ตนเห็นแค่มีอะไรบางอย่างลอยมาโดนผู้ตาย ซึ่งตัวผู้ตายเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาโดนอะไร หากมีคนเข้ามาฟันผู้ตายก็น่าจะรู้ตัว หรือตนเองก็น่าจะเห็น ขณะเดียวกันตนก็โดนมีดเหมือนกัน แต่น่าจะเป็นสันมีด หรือไม่ก็ด้ามมีด มีอาการปวดและบวมมาก
แหวง ย่าเยาวชนผู้ก่อเหตุ เผยว่า หลานชายของตน ตอนแรกก็เป็นเด็กดี ก่อนพักหลังจะเริ่มเกเร ออกไปเที่ยวกลางคืน ตนก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเขาไปก่อเหตุอะไรบ้าง ตอนอยู่บ้านหลานก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ตนยอมรับว่าหลานทำผิดจริง ๆ ทุกอย่าง และตนก็เสียใจที่หลานไปทำคนตาย ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามติดต่อไปเพื่อขอไปบุญ แต่ฝั่งญาติผู้เสียชีวิตเขาไม่ให้ไป เขาบอกว่าทำใจไม่ได้ อย่างไรก็ตามตนอยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เผยว่า ตอนนี้ตามพยานหลักฐาน มีผู้กระทำความผิด 1 คน สามารถจับกุมตัวได้แล้ว ถูกส่งตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัว นครสวรรค์ ส่วนเรื่องการสอบสวนทางตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำ เพราะต้องประสานงานกับสหวิชาชีพ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเด็กและเยาวชน
การกระทำผิดในครั้งนี้ ตนยืนยันว่าเป็นการใช้อาวุธมีดตั้งใจฟัน ไม่ได้เป็นการเขวี้ยง หรือปามีดออกมา โดยมีผู้บอกเล่าจากบริเวณใกล้เคียงเขายืนยันหลาย ๆ ปากว่าเป็นการเดินข้ามถนนมาดักฟัน ขณะเดียวกันที่ จ๋า พยานที่ซ้อนรถผู้ตายบอกว่าเป็นการขว้างมีดมา ตนคิดว่ามันเป็นเพราะที่เกิดเหตุตรงนั้นมันค่อนข้างมืด ต้องมาดูข้อเท็จจริงอีกที
ส่วน จิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กล่าวว่า เบื้องต้นญาติผู้เสียชีวิต จะได้รับการเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม เป็นค่าตอบแทนการตาย 50,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการเขวี้ยงมีดหรือตั้งใจฟันกระทรวงยุติธรรมเยียวยาหมด เพราะตกเป็นเหยื่อแล้ว ส่วนต่อมาสำนักงานยุติธรรม จะช่วยจัดหาทนายให้ เพราะว่าเด็กที่กระทำความผิดอายุต่ำกว่า 16 ปี จึงต้องฟ้องกับผู้ปกครองให้เขามาชดใช้เงินในส่วนต่าง ๆ เป็นการฟ้องแพ่ง ขณะเดียวกัน น้องจ๋า ที่เป็นพยาน หากถูกข่มขู่พยาน ก็สามารถเข้ารับการคุ้มครองพยานได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ทั้งนี้หากมีความรู้สึกไม่สบายใจ ยังเครียดอยู่ กระทรวงยุติธรรมสามารถช่วยประสานกับสหวิทยาให้ช่วยได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35