“ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร” ลูกสาวคนหนึ่ง ได้ออกมาเปิดหลักฐานแฉพี่น้องของตัวเอง ที่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายและจิตใจคุณแม่ อายุ 87 ปี แถมยังขับไล่แม่แท้ ๆ ของตัวเองให้ออกจากบ้าน เพื่อหวังแย่งบ้านและที่ดินกว่า 80 ไร่
จนคุณแม่ที่เกิดความหวาดกลัว ได้พยายามหนีข้ามจังหวัดจาก จ.พังงา มาขออาศัยกับลูกสาวอีกคนใน จ.นครศรีธรรมราช แต่สุดท้ายลูก ๆ กลุ่มนั้นยังตามมาระราน จนมีการนำคลิปออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์
นี่คือคลิปที่มีการเผยแพร่กันในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นคลิปที่มีการแอบถ่ายจากบ้านหลังหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เป็นภาพที่แม่เฒ่าอายุ 87 ปี ได้สั่งให้ปิดล็อคประตูเหล็ก โดยไม่ยอมให้ลูกชายและลูกสาว 3 คน เข้ามาพบ ก่อนจะต่อว่าลูกสาวและลูกชายที่บุกมาหา พร้อมทั้งมีการกล่าวอ้างว่า ลูกทั้ง 3 คน ได้ตามมาอาละวาด ด่าทอ ข่มขู่ ทำร้ายร่างกายและจิตใจของคุณแม่ท่านนี้ เพื่อแย่งสิทธิ์การครอบครองที่ทำกิน ทั้งบ้านและสวนยางที่แม่ เป็นคนสร้างมาเองทั้งหมด
โดยบ้านและสวนยางแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งพฤติกรรมที่อ้างว่า มีการทำร้ายร่างกายและจิตใจของคุณแม่อายุ 87 ปี ทำให้ตัวของคุณแม่เกิดความหวาดกลัวอย่างหนัก และมองว่า หากยังขืนอาศัยอยู่ที่บ้านใน จ.พังงา อาจจะต้องถูกลูกชายและลูกสาว ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตอย่างแน่นอน จึงได้หลบหนีออกจากบ้านมาขออาศัยอยู่กับลูกสาวอีกคนใน จ.นครศรีธรรมราช
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวระบุอีกว่า กลุ่มลูกชายและลูกสาวที่ไม่สามารถเข้าไปหาแม่ในบ้าน ได้ประกาศจะกลับมาหาแม่อีกครั้ง และจะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง แถมยังแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับลูกสาวที่ช่วยเหลือแม่ โดยจะกล่าวหาว่า “กักขังหน่วงเหนี่ยวแม่”
ก่อนอื่นเรามาไล่เรียงกันก่อนว่า ครอบครัวนี้มีลูกทั้งหมดกี่คน ทีมข่าวได้รับข้อมูลว่า ครอบครัวของคุณแม่อายุ 87 ปี มีลูกทั้งหมด 6 คน โดยคนที่ 1 เป็นลูกผู้ชาย คนที่ 2 เป็นลูกผู้หญิง คนที่ 3 เป็นลูกผู้หญิง คนที่ 4 เป็นลูกผู้ชาย คนที่ 5 เป็นลูกผู้หญิง และคนที่่ 6 เป็นลูกผู้ชาย
และมีการให้ข้อมูลกับทีมข่าวอีกว่า กลุ่มลูกๆที่พยายามจะแย่งสมบัติของคุณแม่ มี 4 คน คือ คนที่ 1 คนที่ 3 คนที่ 4 และคนที่ 6 ส่วนลูกคนที่ 2 และคนที่ 5 เป็นฝ่ายที่ดูแลคุณแม่ท่านนี้
ทีมข่าวได้สอบถามกับลูกสาวคนที่ 5 ได้เล่าถึงไทม์ไลน์เหตุการณ์ของเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทีมข่าวฟัง โดยลูกสาวคนที่ 5 กล่าวอ้างว่า เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน พ.ย.2564 ตนเองซึ่งทำงานเป็นข้าราชการในกรุงเทพมหานคร ได้ยอมลาออกจากราชการ เพื่อมาปรนนิบัติเลี้ยงดูคุณแม่ เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพของคุณแม่
จากนั้นเดือน ธ.ค.2564 คุณแม่ได้เขียนพินัยกรรมขึ้นมา และได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้เซ็นชื่อร่วมเป็นพยานในพินัยกรรมฉบับดังกล่าว แต่ตัวของผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเพื่อนกับลูกชายคนที่ 6 ได้แจ้งให้เขารับทราบ ทำให้ต่อมาลูกชายคนที่ 1 และลูกชายคนที่ 6 ได้พยายามมาเจรจาขอให้แม่ยกสมบัติให้ลูกชายคนที่ 4 พร้อมกับอ้างว่า ลูกชายคนที่ 4 เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมด
ลูกสาวคนที่ 5 เล่าให้ทีมข่าวฟังอีกว่า วันที่ 29 พ.ค.2565 ลูกชายคนที่ 6 ได้แอบเข้ามาตัดสายกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ซึ่งเป็นการตัดกล้องวงจรปิดครั้งที่ 1
หลังจากวันที่ 19 ก.ค.65 ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อลูกชายคนที่ 6 ได้เข้ามาตัดสายกล้องวงจรปิดเป็นครั้งที่ 2 และได้พยายามปีนหน้าต่างมาทำลายประตูห้องนอนของหลานชาย ซึ่งอาศัยอยู่กับคุณแม่ โดยมีการต่อว่ากันอย่างเสียงดัง แถมมีการกล่าวอ้างอีกว่า ลูกชายคนที่ 6 พยายามที่จะบีบคอแม่ตัวเองอีกด้วย
นอกจากนี้ ลูกชายคนที่ 6 ยังได้ประกาศลั่นอีกว่า “ต่อไปนี้หากใครมาดูแลแม่ ทั้งพาไปสวนยางพารา หรือพาแม่ไปแจ้งความ จะทุบรถให้หมด” เราไปดูคลิปเหตุการณ์วันที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น
ลูกสาวคนที่ 5 ยังเล่าอีกว่า จากนั้นวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ลูกสาวคนที่ 3 ลูกชายคนที่ 4 และลูกชายคนที่ 6 ได้เดินทางมายังบ้านลูกสาวคนที่ 2 ใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ให้คุณแม่และลูกสาวคนที่ 5 มาพักอาศัยอยู่ด้วย หลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้น ซึ่งก็เป็นคลิปที่เราได้ดูกันไปตอนเริ่มต้น
หลังจากที่ทีมข่าวได้รับข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ติดต่อไปยังลูกสาวคนที่ 5 เราขอใช้นามสมมุติว่า “ด็อกเตอร์ฟา” ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว พร้อมระบุว่า พี่น้องของเธอต้องการแย่งสิทธิ์การครอบครองที่ดินทำกิน ทั้งบ้านและสวนยางพาราที่แม่สร้างมาทั้งหมดไป ทั้ง ๆ ที่คุณแม่ได้สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง โดยแม่ตั้งใจจะเก็บไว้บางส่วนเพื่อไว้เลี้ยงดูตนเองตอนแก่ แต่ลูก ๆ ไม่ยอม ได้เถียงว่าแม่ไม่มีสิทธิ์ และได้ร่วมกันบีบบังคับกดดันแม่ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งชวนทะเลาะ กลั่นแกล้ง ข่มขู่ ตัดกล้องวงจรปิด และร่วมกันให้ข้อมูลเท็จต่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2565
ด้านลูกสาวคนที่ 2 เล่าว่า ที่ผ่านมา พวกเขามักจะหาเรื่องขับไล่คุณแม่ และ “ด็อกเตอร์ฟา” ออกจากบ้าน โดยข่มขู่แม่ให้เกิดความกลัว ซึ่งบ้านพักหลังที่มีการต่อว่ากันและมีการแชร์คลิปนั้น เป็นบ้านของแม่ที่สร้างและพักอาศัยมากว่า 30 ปี หลังจากถูกไล่ออกจากบ้าน คุณแม่และด็อกเตอร์ฟา พร้อมด้วยหลาน ๆ ได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านของตนด้วยความทนทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส
นอกจากนี้ ลูก ๆ กลุ่มนั้น ได้อ้างว่า ทรัพย์สินทั้งหมดของแม่เป็นของลูกชายทั้ง 3 คนแล้ว และจะยืนยันว่า จะดำเนินการกับทรัพย์สินของคุณแม่ โดยยึดตามบันทึกของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพังงา ลงวันที่ 26 พ.ค.2565 และหนังสือไม่สั่งฟ้องของอัยการฯ ตะกั่วป่า กรณีคุณแม่แจงความว่าลูก 4 คนดังกล่าว ร่วมกัน ทำให้เสียทรัพย์โดยไปตัดกล้องวงจรปิดที่บ้านแม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2565
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35