เด็กช่างเหิม ! ยกพวกรุมกระทืบเด็ก ม.1 หน้าบวมตาปิด แถมโพสต์เฟซบุ๊กเย้ยกฎหมาย

กันจอมพลัง พาแม่ของเด็ก ม.1 แจ้งความหลังถูกนักเรียนอาชีวะกว่า 7 คน รุมทำร้ายร่างกายบนรถเมล์ ฉกกระเป๋านักเรียน กระชากกระเป๋าเสื้อที่มีตราโรงเรียน แล้วเต้นเยาะเย้ยก่อนหลบหนีไป ทั้งที่ลูกชายไม่เคยไปมีเรื่องกับใครมาก่อน

 

 

วันที่ 16 มี.ค. 66 คุณเยาวลักษณ์ ผดุงศักดิ์ (เหมียว) แม่ผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ปกติหลังเลิกเรียนจะมีพ่อไปรับกลับบ้าน แต่ในวันที่เกิดเหตุ ลูกชายเลิกเรียนเร็ว จึงบอกแม่ว่าจะไปบ้านเพื่อน โดยนั่งรถเมล์ผ่านสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ฝ่ายผู้ก่อเหตุได้ขึ้นมาบนรถ ไม่ได้พูดอะไรแล้วกระชากกระเป๋านักเรียนจากนั้นก็ถูกรุมทำร้ายบนรถเมล์และกระชากกระเป๋าเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนไป

 

หลังจากเกิดเหตุ ตนได้พาลูกไปแจ้งความพร้อมกับคุณกันจอมพลัง แล้วไปขอคลิปหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ จากนั้นจังพาไปตรวจร่างกาย เมื่อตนได้เห็นคลิปทำร้ายร่างกายรู้สึกรับไม่ได้ที่ลูกถูกกระทำขนาดนี้ โดยลูกชายยืนยันว่าไม่เคยไปมีเรื่องกับใครมาก่อน หลังจากที่ถูกทำร้าย ลูกชายไม่บาดเจ็บมาก แต่สภาพจิตใจค่อนข้างหวาดกลัว

 

 

คุณกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ (กัน จอมพลัง) เล่าต่อว่าตนได้รับเรื่องจากคุณแม่แล้วรู้สึกรับไม่ได้ ว่าทำไมถึงต้องไปทำร้ายเด็กอายุแค่ 13 ปี ไม่เข้าใจว่ามันน่าภาคภูมิใจอย่างไร ตนมองว่าผู้ก่อเหตุเลือกทำร้ายเฉพาะคนไม่มีทางสู้ จากคลิปที่ทำร้ายแล้วเต้นเยาะเย้ย “อาจเป็นเพราะทะลุถุงยางมาเกิดหรือเปล่า” จึงได้ประสานกับผู้กำกับ สน.พระโขนง ให้ติดตามคดีนี้จนได้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยากฝากถึงน้อง ๆ ที่คิดจะก่อเหตุในลักษณะนี้ว่า “หิวกินข้าว ห้าวติดคุก ใจร้อนนอนที่แคบ”

 

 

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้ประสานตำรวจ สน.พระโขนงให้ติดตามคดีนี้แล้ว และเห็นว่าการก่อเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อย จึงต้องมีมาตรการที่จะช่วยดูแลกันหลายฝ่าย ตอนนี้ทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วว่ามี 7 คน โดย 5 คนเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนอีก 2 คนไม่ได้ก่อเหตุแต่ขึ้นไปบนรถด้วย อัตราโทษในคดีนี้สูงมาก ไม่ว่าจะข้อหาปล้นทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนการเยียวยาสามารถมาเรียกร้องที่กระทรวงยุติธรรมได้ โดยจะมีทนายคอยช่วยเหลือด้านคดีความ และชุดคุ้มครองพยาน หากกังวลเรื่องความปลอดภัย

 

 

ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าตนได้รับรายงานแล้ว ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูแลให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยปกติแล้วจะมีการเฝ้าระวังนักศึกษากลุ่มเสี่ยง แต่เหตุนี้เกิดขึ้นบนรถเมล์จึงทำให้สถาบันดูแลไม่ทั่วถึง ในขั้นต้นจะเชิญตัวผู้ก่อเหตุมาปรับพฤติกรรม และเชิญผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย มาประชุมและทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนเรื่องคดีต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

 

คุณกันจอมพลัง กล่าวว่าต้องการให้สถาบันรับผิดชอบมากกว่านี้ โดยเอาความรู้สึกของผู้เสียหายเป็นที่ตั้ง อย่าเห็นใจแต่นักศึกษาของสถาบันอย่างเดียว ต้องเห็นใจผู้ถูกกระทำมากกว่า ถ้าหากผู้ก่อเหตุกลับมาทำร้ายเหยื่ออีก ทางสถาบันจะรับผิดชอบอย่างไร ถ้าหากยังเกิดเหตุซ้ำซากแบบนี้อีก ซึ่งเมื่อปี 2562 เคยเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้มาแล้ว ตนมองว่าควรให้ผู้ก่อเหตุออกจากสถาบันไปเลย

 

 

โดยคุณกันจอมพลัง ได้พยายามติดต่อส่งเรื่องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณตรีนุช เทียนทอง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และทางทีมงานรายการ “ถกไม่เถียง” ได้ติดต่อคุณตรีนุช เทียนทอง เพื่อขอสอบถามข้อมูลหรือแนวทางการจัดการปัญหานี้ แต่ได้คำตอบว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ “ยังไม่ทราบว่ามีข่าวนี้เกิดขึ้น” 

 

ทีมงานได้ติดต่อไปยังศิษย์เก่าของสถาบันดังกล่าว ได้คำตอบว่าปัญหานี้เกิดมาหลายสิบปี โดยมีการปลูกฝังความคิดจากรุ่นสู่รุ่น เพียงแค่เจอหน้าก็มีเรื่องได้ทันที แม้ชมรมศิษย์เก่าจะพยายามลดปัญหาก็ไม่สามารถทำได้ ส่วนผู้บริหารของสถาบันของผู้ก่อเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่าไม่ทราบเรื่อง เพราะแผนกที่ดูแลเรื่องนี้กลับบ้านไปหมดแล้ว และไม่มีเบอร์ติดต่อแผนกดังกล่าว

 

 

คุณเยาวลักษณ์ อยากให้สถาบันดูแลนักศึกษาให้ดีกว่านี้ เพราะคนที่เลือกเรียนอาชีวะก็อาจคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา ควรให้ความรู้ความเข้าใจให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะให้คนอื่นไม่ต้องมาโชคร้ายแบบนี้อีก คุณกันจอมพลัง ทิ้งท้ายว่า “เรื่องที่พวกคุณได้รับการปลูกฝังกันมา เป็นแค่นิทานเรื่องหนึ่ง เรื่องในอดีตพวกคุณก็เกิดไม่ทัน ถ้าหากก่อเหตุทำร้ายคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยไปแล้ว คนเล่าก็ไม่ได้มาติดคุกกับคุณด้วย แต่คนที่ทำตามนิทานจะติดคุก”