ข่าวใหญ่ที่สุดของวันนี้คงหนีไม่พ้นประเด็นของ “สารวัตรกานต์” ที่เกิดอาการคลุ้มคลั่ง และก่อเหตุยิงปืนจำนวนหลายสิบนัดภายในหมู่บ้านย่านสายไหม จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ต้องหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ปฏิบัติการปิดล้อมยาวนานข้ามวัน ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ปฏิบัติการดังกล่าวก็ถึงจุดสิ้นสุดลงแล้ว
มาย้อนกลับไปดูไทม์ไลน์กันเหตุการณ์นี้กันตั้งแต่ที่เริ่มต้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปิดปฏิบัติการปิดล้อม ซึ่งใช้เวลามากกว่า 27 ชั่วโมง และเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการหลากหลายด้านเพื่อเข้าสยบ “สารวัตรกานต์” ไม่ว่าจะเป็นการเกลี้ยกล่อม ยิงก๊าซน้ำตา จนกระทั่งบุกเข้าไปควบคุมตัว “สารวัตรกานต์” ได้ในที่สุด
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 มี.ค. 66 เวลา 8.30 น. “สารวัตรกานต์” ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัด พร้อมกับเดินถืออาวุธปืนตะโกนโวยวายอยู่ภายในหมู่บ้านย่านสายไหม แถมยังมีการขี่รถจักรยานยนต์ รัวยิงรอบหมู่บ้าน
ต่อมาเวลา 11.00 น. ตำรวจได้นำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ พร้อมแจ้งเตือนเพื่อนบ้านไม่ให้เข้าใกล้ที่เกิดเหตุ และส่งทีมเจรจาให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและเข้ามอบตัว
จากนั้นเวลา 13.50 น. ได้เกิดเสียงปืนดังขึ้นอีกกว่า 10 นัด และเวลา 14.40 น. ตำรวจที่เป็นเพื่อนกับผู้ก่อเหตุได้พยายามพูดคุยผ่านโทรโข่ง ขอให้มอบตัวแต่ก็ไม่เป็นผล
กระทั่งเวลา 15.00 น. สารวัตรกานต์ได้โยนสิ่งของลงมาจากบ้านที่ชั้น 2 และสาดน้ำลงมา พร้อมตะโกนส่งเสียงโวยวาย และมีเสียงปืนที่ดังออกมาอีกหลายนัด
เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการตัดกระแสไฟเพื่อเป็นการกดดัน ด้านเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยก็ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้สูงอายุออกจากบ้านจุดที่ใกล้เคียงกับบ้านของสารวัตรกานต์ และเตรียมยกระดับมาตรการกดดันด้วยก๊าซน้ำตาและระเบิดควัน
เวลาผ่านไปจนถึงเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความพยายามในการเจรจา โดยขอให้ลูกชายของสารวัตรกานต์มาช่วยเกลี้ยกล่อม ซึ่งมีใจความว่า “พ่อครับ พ่อยังโอเคไหม ทุกคนไม่มีใครทำร้ายพ่อนะ ทุกคนหวังดีกับพ่อ ไม่มีใครจะทำร้ายเลย ถ้าพ่อโอเค ลงมาคุยกันนะ หรือจะให้ผมขึ้นไปคุยก็ได้ พ่อเป็นคนดีมากเลย ลงมาคุยกันก่อน ผมรักพ่อ ใจเย็น ๆ นะครับ”
ต่อมาเวลา 19.00 น. เมื่อการเจรจาไม่เป็นผล ตำรวจจึงเริ่มยิงก๊าซน้ำตาเพื่อยกระดับมาตรการกดดัน ทำให้สารวัตรกานต์ยิงปืนตอบโต้ และเวลา 20.15 น. หลังจากการระดมยิงก๊าซน้ำตาผ่านไปเกือบชั่วโมง ได้พบเปลวเพลิงเกิดขึ้นภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าพื้นที่
จากนั้นเวลา 20.50 น. ตำรวจได้ใช้โดรนบินจับความร้อน และพบว่า สารวัตรกานต์ยังอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน โดยมีการนำภาพออกมาเปิดเผยในภายหลัง
เวลา 21.30 น. ตำรวจต่อสายให้มารดาและอดีตภรรยาสารวัตรกานต์ วิดีโอคอลเกลี้ยกล่อม แต่การเจรจายังไม่เป็นผล สารวัตรกานต์ปฏิเสธที่จะคุยด้วย และบอกว่าขอใช้ชีวิตของตัวเองไม่ต้องมายุ่ง
ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เวลา 22.30 น. พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า จะไม่ทำตามกระแสสังคมที่ให้เร่งดำเนินการชาร์จตัว โดยตามยุทธวิธีนั้นมีขั้นตอนหลากหลาย และจะไม่ใช้ก๊าซน้ำตาชุดที่ 2
ปฏิบัติการปิดล้อมครั้งนี้ยังคงเดินหน้าต่อไป กระทั่งเวลา 02.34 น. ของวันที่ 15 มี.ค. 66 เจ้าหน้าที่ได้ยิงก๊าซน้ำตาชุดที่ 2 ประมาณ 20 ลูก เข้าไปยังบ้านพัก ส่งผลให้ควันจากก๊าซน้ำตาลอยกระจายเต็มพื้นที่ จากนั้นมีเสียงดังคล้ายอาวุธปืนดังเป็นระยะ
ต่อมาเวลา 05.15 น. ตำรวจได้ยิงสตั๊นบอมบ์ หรือระเบิดเสียง เพื่อเข้าชาร์จตัวสารวัตรกานต์ และเวลา 05.34 น. สารวัตรกานต์ ได้ยืนถือปืนในมือ แต่ไม่ได้ยิงตอบโต้
จากนั้นเข้าสู่เวลา 06.45 น. หลังระดมยิงก๊าซน้ำตาและสตั๊นบอมบ์ การเจรจาเกลี้ยกล่อมก็ยังไม่เป็นผล ตำรวจเปิดปฏิบัติการบุกจู่โจมขึ้นไปยังชั้น 2 ของบ้าน แต่มีเสียงยิงปืนตอบโต้ ทางเจ้าหน้าที่จึงถอยออกมา
จากนั้นเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดเจรจาได้ร้องเพลง “จดหมายจากแนวหน้า” ของคุณยอดรัก สลักใจ และเพลงลูกทุ่งที่คาดว่าสารวัตรกานต์ชอบ เพื่อกล่อมให้คลายความเครียด แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณที่สารวัตรกานต์จะยอมมอบตัว กระทั่งเวลา 08.30 น. ตำรวจปีนขึ้นชั้น 2 ยิงสตั๊นบอมบ์จู่โจมอีกครั้ง และทีมเจรจายังคงพูดเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว
และความคืบหน้าเมื่อช่วง 10.30 น. ทาง พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาถึงพื้นที่เกิดเหตุ โดยได้กล่าวขอโทษประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามขั้นตอนและยุทธวิธี โดยได้สั่งการให้ทางสารวัตรกานต์ ออกจากราชการไว้ก่อน จากปัญหาด้านสุขภาพจิต ส่วนที่ตนเองได้พูดคุยกับทางสารวัตรกานต์นั้น เขายังพูดจาวกวน และมีการพูดถึงเรื่องของเทพเจ้าอีกด้วย
จากนั้นเวลา 10.50 น. สารวัตรยิ้ม (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เพื่อนของสารวัตรกานต์ ซึ่งเป็นนายตำรวจสังกัดเดียวกัน ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับหิ้วถุงกับข้าว เพื่อนำมาให้สารวัตรกานต์ และหวังจะมาช่วยเจรจา โดยเจ้าตัวยังได้ส่งข้อความไปหาสารวัตรกานต์ เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. โดยพยายามบอกว่า เอาข้าวมาให้นะ มีอะไรให้ช่วยหรือไม่ ซึ่งทางสารวัตรกานต์ได้กดอ่านข้อความทันที แต่ไม่มีการตอบกลับข้อความกลับ
และตัวของสารวัตรยิ้ม ยังบอกอีกว่า ปกติตัวของสารวัตรกานต์ เป็นคนชอบฟังการเมืองใต้ดิน ชอบพูดเรื่องลัทธิ และเทพเจ้ามานานแล้ว และเขาอยู่กองบัญชาการตำรวจปราปปรามยาเสพติดมานานกว่า 10 ปี ก่อนจะถูกโยกย้าย โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีปัญหามาจากเรื่องงาน เพราะเขาเป็นคนสบาย ๆ ทำงานเก่ง แต่คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาเรื่องความรักครั้งใหม่ ที่สารวัตรกานต์ไปแอบชอบผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า แต่ถูกปฏิเสธ
ต่อมาเวลา 11.10 น. พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ได้พูดคุยเกลี้ยกล่อมกับสารวัตรกานต์ โดยมีรายงานข่าวว่า การพูดคุยมีแนวโน้มไปในทางที่ดี และคาดว่าจะสามารถนำตัวสารวัตรกานต์ออกมาจากพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย
และเมื่อเวลา 12.13 น. ได้เกิดเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากบ้านของสารวัตรกานต์ และมีรายงานข่าวว่า จากการเข้าควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนเกิดการปะทะกันได้ส่งตำรวจอรินทราช 26 กับคอมมานโด เตรียมบุกเข้าไปในบ้านของสารวัตรกานต์ โดยวางแผนตามภาพถ่ายจากโดรนที่บินเข้าไปสำรวจก่อนหน้านี้ ทำให้ทราบพิกัดของสารวัตรกานต์ว่า อยู่บริเวณไหนของบ้าน
จากนั้นตำรวจอรินทราช 26 กับคอมมานโด นำกำลังบุกเข้าไปในบ้านพัก แต่สารวัตรกานต์ ได้นอนราบไปกับพื้น เนื่องจากเคยฝึกยุทธวิธีของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ บช.ปส. และพยายามวิ่งชาร์จเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม ทำให้ตำรวจอรินทราช 26 กับคอมมานโด ต้องตัดสินใจยิงตอบโต้
จังหวะนั้น สารวัตรกานต์ได้กระโดดออกจากหน้าต่างชั้น 2 ของบ้าน ลงมาชั้น 1 ด้านหลังบ้าน โดยในมือยังถือปืนและมีดอยู่ ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัว และพบว่า สารวัตรกานต์ถูกกระสุนอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดนกระสุน 3 นัด เข้าข้อพับแขนซ้าย หน้าอกข้างซ้าย และขาท่อนบนซ้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสารวัตรกานต์ออกจากบ้านพัก ก่อนพยายามปั๊มหัวใจและนำส่งตัวขึ้นรถฉุกเฉินไปรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพล โดยอาการขณะนี้ยังน่าเป็นห่วง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35