เช้านี้ที่หมอชิต - การนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาปราศรัยในช่วงเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย แต่ช่วงนี้ถือว่า กกต. ยังใจดีสำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในกรณีของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี จึงได้รับแค่หนังสือแจ้งเตือนไปยังพรรค พร้อมออกหนังสือไปถึงทุกพรรคเป็นกฎเหล็กที่ต้องจดจำให้ดีและยึดถือเป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน
เมื่อวานนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ลงนามในหนังสือส่งถึงหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการเฉพาะ เรื่องการควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีรายละเอียดว่า ด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ได้ปราศรัย ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยช่วงหนึ่งของการปราศรัยได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนายไตรรงค์ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจเป็นการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนของการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งได้ ดังนั้น จึงขอให้ควบคุมและกำกับดูแลมิให้นายไตรรงค์ กระทำการอันอาจเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ รวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต.
นอกจากนี้ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งยังได้ลงนามในหนังสือ เรื่องการควบคุมและกำกับดูแลมีให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย แจ้งต่อหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคด้วย เนื้อหาแจ้งให้ทราบว่า หากมีการการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติหรือสั่งการให้สมาชิกพรรคการเมืองยุติการกระทำนั้นโดยพลัน และกำหนดมาตรการหรือวิธีการที่จำเป็นเพื่อมิให้สมาชิกพรรคการเมืองผู้ใดกระทำการอันอาจมีลักษณะดังกล่าวอีก แล้วแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีมติ หากคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะเสนอให้ กกต. เพื่อพิจารณามีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และตัดสิทธิดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองจนกว่าจะพ้นเวลา 20 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง
วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะอดีตกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า ชื่นชมเลขาฯที่ออกหนังสือดังกล่าว แต่สำหรับกรณีของนายไตรรงค์ แค่เท่านี้ยังไม่สมควรจบ เพราะเป็นความผิดสำเร็จที่กระทำขึ้นแล้วถึง 2 ครั้ง คือทั้งวันที่เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ และในการปราศรัยที่โคราช เป็นข้อหาที่เชื่อมโยงถึงการทำความผิดตามมาตรา 92(2) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองถึงขั้นยุบพรรค สิ่งที่เลขาธิการ กกต. พึงกระทำคือการมีคำสั่งรับ หรือไม่รับคำร้องที่มีการร้องเข้าไปทั้ง 2 กรณี หากรับคำร้องต้องตั้งกรรมการเก็บรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงเสนอ กกต.ภายใน 30 วัน เพื่อให้ กกต.วินิจฉัย หาก กกต.เห็นว่าผิดก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคต่อไป
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม