สาวหัวร้อน ตบพนักงานลานจอดรถสนามบิน ขอโทษ อ้างเข้าใจผิด น้อมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
logo ข่าวอัพเดท

สาวหัวร้อน ตบพนักงานลานจอดรถสนามบิน ขอโทษ อ้างเข้าใจผิด น้อมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ข่าวอัพเดท : สาวหัวร้อนหาทางออกลานจอดรถสนามบินไม่เจอ ขอโทษ หลังจอดรถลงไปตบพนักงาน เจ้าตัวอ้าง ฟังเข้าใจผิดน้อมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น สาวหัวร้อน,เน็ตไอดอล,ตบพนักงาน,ลานจอดรถ,สนามบิน,ขอโทษ,เข้าใจผิด,หาทางออกไม่เจอ

1,057 ครั้ง
|
14 มี.ค. 2566
     สาวหัวร้อนหาทางออกลานจอดรถสนามบินไม่เจอ ขอโทษ หลังจอดรถลงไปตบพนักงาน เจ้าตัวอ้าง ฟังเข้าใจผิดน้อมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
 
           จากกรณีที่ นางสาวราวัลย์ พนักงานลานอาคารจอดรถภายในสนามบินสุวรรณภูมิ นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกขกับทางพนักงานสอบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 มี.ค.66) ว่าถูกคนขับรถเก๋งสีขาวซึ่งเป็นหญิงสาวรายหนึ่งจอดรถลงมาทำร้ายร่างกาย สาเหตุมาจากความไม่พอใจที่ถามหาทางออกลานจอดรถ แล้วพนักงานรายนี้ให้สังเกตหรืออ่านป้ายทางออกของลานจอดรถ จึงทำให้เกิดอาการหัวร้อนลงมาทำร้ายร่างกาย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด และ คลิปมือถือของู้เสียหายเป็นหลักฐาน
 
         ล่าสุดเมื่อคืนเวลา 23.30 น. นางสาวธาราทิพย์ อายุ 25 ปี คู่กรณีที่ปรากฏในคลิป พร้อมกับเพื่อนสาวและเจ้าของรถเช่า เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนและพนักงานสาวที่สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรับทราบข้อหา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมาพบ
 
         ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันในห้องพนักงานสอบสวน ต่อมานางสาวราวัลย์ ได้ออกมาเปิดเผยกับนักข่าวว่า คู่กรณี เข้ามาขอโทษและยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งยอมจ่ายเงินเยียวยาเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท
 
         ส่วนสาเหตุที่ทำลงไป คู่กรณีอ้างว่า เข้าใจผิดกับคำพูดของตน ซึ่งตนก็ยังยืนยันว่าไม่ได้พูดจาขึ้นเสียงหรือถ้อยคำไม่สุภาพแต่อย่างใด
 
           ด้าน นางสาวธาราทิพย์ เปิดใจยอมรับผิดและขอโทษสังคมกับเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่าได้ยินคำตอบจากพนักงานคนดังกล่าวแล้วรู้สึกไม่ดี ประกอบกับตนเองหาทางออกไม่เจอจนมีการขับรถวนหลายรอบทำให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว อีกทั้งพอมาเจอพนักงานยกโทรศัพท์ถ่ายคลิปอีกทำให้ควบคุมตัวเองไม่อยู่ หลังเกิดเรื่องจนช่วงค่ำ ทางบริษัทเช่ารถติดต่อให้เข้ามาเจอตำรวจจึงพากันเดินทางมาพบ และแสดงความรับผิดชอบต่อคู่กรณี
 
          ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทเปิดใจกับนักข่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตจริง เคยเข้ารับการรักษามาแล้ว และเคยคิดจะกระโดนสะพาน จนกระทั่งครอบครัวส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและกลายเป็นเน็ตไอดอลในโซเชียล ที่ผ่านมาในกลุ่มบรรดาเพื่อนๆมักจะเจออารมณ์หัวร้อนของผู้ก่อเหตุรายนี้บ่อยครั้ง ใครพูดไม่เข้าหูหรือทำอะไรไม่ถูกใจก็จะเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวใส่ทันที พอมาทราบข่าวในวันนี้ยิ่งตกใจจึงตัดสินใจเดินทางมาเป็นเพื่อนที่สภ.
 
             ด้าน พ.ต.ท. กวีรัตนะ บังคมธรรม รองผกก.สอบสวน. สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าของคดีเปิดเผยว่า ในส่วนของการเยียวยากับผู้เสียหายเป็นการเจรจากันของทั้งสองฝ่าย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย สั่งปรับในอัตรา 2,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง