สส. โรม แฉ ! “พลตำรวจเอก ส.” วิ่งเต้นช่วย “สว. ทรงเอ” พ้นคดีทุน มิน ลัต | ขยายข่าว กับ กาย สวิตต์

เช้านี้ที่หมอชิต - ในคดี ส.ว.ทรงเอ ที่กำลังสั่นสะเทือนวงการยุติธรรมขณะนี้ มีคำถามดัง ๆ จากสังคมเกิดขึ้นว่า ตำรวจและศาลกำลังตอบคำถามสังคมด้วยความเงียบหรือเปล่า นั่นจึงทำให้ เมื่อวานนี้ ส.ส.รังสิมันต์ โรม พรรคก้าวไกล เดินทางไปกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. เพื่อทวงความคืบหน้าในการติดตามตัว สว.ชื่อย่อ อ.อ่าง หรือ สว.ทรงเอ มาดำเนินคดีกรณีมีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของทุนมินหลัด ซึ่งในวันนี้ยังมีการเปิดชื่อย่อ อดีตบิ๊กตำรวจยศสูง ที่เป็นคนเป่าคดีอีกด้วย ไปติดตามรายละเอียดเรื่องนี้กัน

 

ย้อนความไปนิดเดียว คดีนี้สืบเนื่องมาจากการอภิปรายในสภา โดย สส.รังสิมันต์ โรม เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งมีการนำข้อมูลของ สว.ท่านหนึ่ง ชื่อย่อ อ.อ่าง หรือ สว.ทรงเอ ที่เรียกกัน ซึ่งเกือบถูกออกหมายจับในคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงินร่วมกับเครือข่ายทุนมินหลัด นักธุรกิจชาวเมียนมาและพวกที่ถูกจับกุมไปเมื่อเดือนกันยายน ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนั้นที่มีการอนุมัติหมายจับและหมายค้นจากศาลในช่วงเช้า กลับได้มีการสั่งให้ยกเลิกหมายจับ สว.ทรงเอ คนดังกล่าว โดยเมื่อวานนี้ มีเอกสารของ พันตำรวจโท มานะพงษ์ หนึ่งในทีมสอบสวนและขอหมายจับ สว. เผยแพร่ออกมา เนื้อหาในเอกสารชี้ให้เห็นถึงความพยายามแทรกแซงคดี ทั้งจากศาลบางท่านและนายตำรวจระดับสูง จนนำไปสู่การยกเลิกหมายจับ สว.คนนี้ในที่สุด 

 

ตัดกลับมาที่ นายรังสิมันต์ โรม ที่หน้า บช.ปส เขากล่าวว่า ถ้าไม่เอาเรื่องนี้มาเปิดเผยให้สังคมรู้ ตนจะต่างอะไรจากขบวนการพวกนี้ ตนก็จะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ช่วยกันปิดบังเรื่องชั่วในสังคมไทย แล้วปล่อยให้ขบวนการพวกนี้ทำมาหากินต่อไปได้ และตนได้ทำทุกอย่างแล้ว ทั้งอภิปรายในสภา แสดงหลักฐานเพิ่มเติมที่ สว.ทรงเอ อาจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้องไปยังคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) อัยการสูงสุด ถึงกรณีการถอนหมายจับ สว. ทรงเอ แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหว

 

ส่วนเหตุผลที่มาแถลงข่าวที่นี่ เนื่องจาก บช.ปส. ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดให้ดูแลการดำเนินคดีนี้ และเชื่อว่ามีการแทรกแทรงของตำรวจ จึงอยากให้ตำรวจ บช.ปส. มาตอบคำถามให้สังคมได้รู้ความชัดเจน โดยจากประสบการณ์ทางการเมืองที่ตนมี ความเงียบที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากความจงใจหรืออาจจะเป็นการล้มคดี

 

นายรังสิมันต์ ยืนยันด้วยว่า มีความพยายามวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีจริง แม้แต่ในส่วนของศาล ที่อธิบดีศาลยังพูดในลักษณะหวาดกลัวผู้ใหญ่ต่อการทำคดีนี้ นอกจากนี้ยังเห็นความพยายามวิ่งเต้นเพื่อช่วยเหลือให้ สว.ทรงเอ หลุดพ้นจากคดีนี้ โดยเกี่ยวข้องกับ อดีตบิ๊กตำรวจยศใหญ่ที่ตอนนี้ไม่อยู่ในราชการแล้ว ซึ่งคุณรังสิมันต์ให้คำใบ้มา ขึ้นต้นโดย ส.เสือ ยศสูงมาก ไม่อยู่ในราชการแล้ว คุณรังสิมันต์ ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน ชื่อนี้จะต้องถูกเปิดเผยออกมาแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวหลังจากนี้ คุณรังสิมันต์ บอกว่า เตรียมยื่นเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพราะเชื่อว่ามีตุลาการ 3 คน เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับ ที่อาจทำขึ้นโดยเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านมา 160 วัน หลังถอนหมายจับ สว.ทรงเอ คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ การทำหน้าที่ของ บช.ปส. เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังจริง ๆ

 

หลังแถลงข่าว นายรังสิมันต์ ได้นำแผ่นป้ายข้อมูลกรณี สว.ทรงเอ ที่เคยใช้ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปติดตั้งบริเวณรอบ ๆ บช.ปส. เพื่อย้ำเตือนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามกระบวนการยุติธรรมที่ควรจะเป็น

 

ภายหลังการเคลื่อนไหวของ นายรังสิมันต์ ทาง พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาชี้แจงถึงความล่าช้าในคดีที่ถูกตั้งคำถาม โดยกล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงาน และตามที่ได้อ่านตามคำให้การของ ผบก.ปส.3 เรื่องนี้ไม่ได้เงียบ แต่เป็นการหารือกันในคณะทำงานอยู่แล้วว่าจะออกหมายเรียกใครอยู่ในขั้นตอน ขอเวลานิดนึงในการทำงาน ทุกอย่างเราต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนการตรวจสอบเรื่องถอนหมายจับ ทางจเรตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบเรื่องนี้ถึงเหตุต่าง ๆ แต่ดุลยพินิจของศาล เราไม่อาจไปก้าวล่วง ท่านก็ใช้ดุลยพินิจของท่าน ส่วนตำรวจจะตรวจสอบว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรต่อไป

 

พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35