ผัวช็อก ! เมียแสบ แอบขายบ้านพร้อมกิจการ หอบเงินร่วมล้าน หายเข้ากลีบเมฆ

เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มชาวอุบลฯ สุดช็อก! ถูกภรรยาแอบขายบ้านพร้อมกิจการ หอบเงินหนีหายเข้ากลีบเมฆ คาดหนีไปกับชู้! ส่วนตัวเองต้องเร่ร่อนอาศัยนอนตามปั๊มน้ำมัน

 

เมื่อเย็นวานนี้นายสัญญา ลาวิลาศ อายุ 46 ปี ชาวอำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกภรรยาปลอมแปลงเอกสารนำบ้านพักและกิจการลานมันของตนไปแอบขาย ทำให้ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน อาศัยนอนบบรถจอดตามปั๊มน้ำมันมากว่า 20 วัน

 

นายสัญญา กล่าวว่า ตนมีภรรยาคนนี้เป็นคนแรกของชีวิต เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 4 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ในวัยเด็กครอบครัวตนยากจน เมื่อเรียนจบ ป.6 จึงได้บวชเรียนเรื่อยมาจนจบปริญญาตรี กระทั่งอายุ 24 ปีได้ลาสิกขาเนื่องจากติดเกณฑ์ทหาร หลังจบเกณฑ์ทหาร ได้หันมาประกอบอาชีพรับจ้าง ทำงานทุกอย่างเก็บเงินเพื่อสร้างบ้านและสร้างครอบครัว ทำงานเก็บเงินได้ประมาณ 10 ปี ได้นำเงินเก็บไปออกรถทัวร์มาวิ่งรับนักท่องเที่ยว นำรายได้มาสร้างบ้านและทำลานรับซื้อมันที่จังหวัดอุบลราชธานี 

 

นายสัญญาบอกว่า ตลอดทั้งชีวิตไม่เคยคบหาผู้หญิงคนไหนมาก่อน ทั้งแฟนหรือภรรยา เพราะบวชเรียนมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จากนั้นก็ทำงานเลี้ยงดูพ่อและแม่มาตลอด จนกระทั่งมารู้จักกับนางสาวบี (นามสมมุติ) ซึ่งประกอบกิจการลานมันเหมือนกับตน แต่ธุรกิจของนางสาวบีล้มละลาย จึงมาปรับทุกข์ให้ตนฟัง ทำให้ได้มีโอกาสพูดคุยกัน ต่อมา 4 ปีให้หลัง ตนจึงได้คบหากันและอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา และด้วยความเชื่อใจ ตนจึงได้ให้นางบีเป็นคนดูแลกิจการ โดยเฉพาะงานธุรการบัญชีของตนทั้งหมด ส่วนตนเองก็ไปขับรถทัวร์พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ เพื่อหารายได้เข้าครอบครัว โดยจะไปขับรถครั้งละ 5 - 7 วัน จากนั้นก็จะกลับมาบ้านพัก 2 - 3 วัน รายได้ทั้งหมดตนจะให้ นางสาวบี เป็นคนเก็บไว้ 

 

กระทั่งมาเกิดเรื่องเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากตนกลับจากการขับรถทัวร์มาถึงที่บ้าน พบคนแปลกหน้านั่งอยู่ในบ้านพอสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน ก็ได้รับคำตอบว่า เค้าได้ซื้อบ้านพร้อมกิจการต่อจากนางสาวบีหมดแล้ว ตอนนั้นตนช็อกและตกใจมาก จึงได้ขอดูเอกสารหลักฐานการซื้อขายต่าง ๆ ชายแปลกหน้าจึงได้นำเอกสารการซื้อขายมาให้ตนดู จึงพบว่าตนถูกนางสาวบีปลอมแปลงเอกสารหนังสือมอบอำนาจและหนังสือสัญญาซื้อขายขึ้นมาเอง โดยในสัญญานางสาวบี ระบุว่า ตนได้ขายบ้านและกิจการทั้งหมดต่อนางสาวบี เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท ไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 แล้ว 

 

ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวจึงบอกว่า นางบี มาติดต่อขายบ้านและกิจการให้เขาเป็นเงิน 1,200,000 บาท แต่ต่อรองกันเหลือ 1,000,000 บาท

 

หลังทราบเรื่องตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ศรีเมืองใหม่ อุบลราชธานี และได้ติดต่อไปหานางสาวบี ซึ่งได้คำตอบแค่เพียงว่า ขอโทษ รู้ว่าทำผิด แต่ไม่มีมีทางเลือก เท่านั้น โดยทางตำรวจไม่ได้มาช่วยเหลือตนเลย ตนก็ไม่มีที่อยู่ บ้านตัวเองก็เข้าไม่ได้ ต้องอาศัยจอดรถตามปั๊มและนอนบนรถมาตลอด โดยไม่มีเงินติดตัว เนื่องจากนางสาวบีหอบเงินหนีไปทั้งหมด ตนได้แต่ไลน์สอบถามว่าทำไมจึงทำกันแบบนี้ก็ได้รับแต่คำขอโทษกลับมา ตนรู้สึกหมดหนทาง และมีชาวบ้านที่ทราบข่าว มาบอกกับตนว่าให้ตนมาหานายเอกภพ เพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ ตนจึงได้เดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี มาร้องขอให้ทางเพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือดังกล่าว

 

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดบอกว่าได้ประสานไปยัง พันตำรวจเอก ศักดิ์ชัย เกษโกมบ ผู้กำกับการ สภ.ศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อขอให้ช่วยลงมาดูสำนวนคดีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้เร่งแก้ปัญหา เนื่องจากนายสัญญาไม่มีที่พักอาศัย ต้องไปนอนตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งน่าเห็นใจมาก