สังคมซ้ำเติม ? ญาติคนตายขอพูด หนุ่มบุกยิงวิน จยย. แต่ถูกฟันดับ คาใจอีกฝ่ายเส้นใหญ่

จากกรณีหนุ่มยิงวินเตอร์ไซค์ ก่อนแก๊งวินฯ จะยกพวกไล่ฟันยับ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านญาติผู้เสียชีวิตคาใจ ผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 2 คน หวั่นอีกฝ้ายเส้นใหญ่ ! 

 

 

            วันที่ 7 มี.ค. 66 พิชญาภา พึ่งอุทัย (เฟิร์น) ภรรยาของผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดจากเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 66 แฟน(โอ๊ต) ตนแวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน แต่ก่อนจะเติมน้ำมัน เขาได้ขับไปส่งตนที่หน้าห้องน้ำก่อน ทว่ามีวิทมอเตอร์ไซค์ขวางทางอยู่เขาจึงบีบแตก 2-3 ครั้งเพื่อให้วินมอเตอร์ไซค์หลบ พอส่งตนเสร็จ แฟนก็ขับรถถอยหลังเพื่อเข้าช่องจอดเติมน้ำมัน ระหว่างนั้นวินมอเตอร์ไซค์รายดังกล่าวก็เข้ามาหาเรื่อง พร้อมชกแฟนตน แฟนของตนจึงหยิบอาวุธมาเพื่อป้องกันตัวเอง จากนั้นวินมอเตอร์ไซค์ก็หนีไป แล้วแฟนตนก็ขับตาม ซึ่งหลังจากตนออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่เจอแฟนแล้ว 

 

 

            ต่อมาแฟนตนก็ได้เปลี่ยนจากรถยนต์เป็นมอเตอร์ไซค์ เพื่อตามหาวินมอเตอร์ไซค์คู่กรณี ส่วนตนนั้นก็รู้ว่าเขาไปไหน จนกระทั่งชาวบ้านในละแวกนั้นพูดกันว่ามีคนมีเรื่องกัน ตนเลยให้เขาพาไปดูที่เกิดเหตุ เพื่อจะตามให้แฟนกลับบ้าน ซึ่งตนก็ได้เห็นว่ากลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ยืนดักรอแฟนของตนอยู่ และนายเอ็ม หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุก็เข้ามาบอกตนว่าแฟนของตนไปยิงพ่อของเขา ทำให้ถูกกลุ่มวินเตอร์ไซค์ไล่ทำร้าย สุดท้ายแฟนของตนถูกทำร้ายหนัก มีบาดแผลลึกถึงหลอดลม หน้าอกถูกฟันแผลเหวอะ มือขวาฉีกขาด หูซ้ายขาด แขนซ้ายขาด ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ตนกลัวเรื่องความยุติธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ถูกจับ 2 คน ได้รับการประกันตัวออกมา อีกทั้งตนคิดว่าไม่น่าจะมีผู้ก่อเหตุแค่ 2 คน 

 

 

            ฟาก สุรเชษฎ์ แฉล้มไธสง (แสน) ญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลังจากเหตุการณ์ในปั๊ม นายโอ๊ต  ผู้เสียชีวิต จึงเข้าไปยิงกลุ่มวินเตอร์ไซค์ และได้วิ่งหนีเข้าไปในซอย และถูกกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์คู่กรณี 4-5 คนวิ่งไล่ทำร้าย และต่อจากนี้ ตนได้เข้าไปค้นหาข้อมูลจากคนในพื้นที่ด้วยตัวเอง ก็พบว่า นายโอ๊ต กำลังจะวิ่งหนีออกหน้าซอยสุขุมวิท 48 แต่ถูกคนดักรอออยู่ เขาเลยหลบเข้าไปบ้านหลังแรก และก็ได้หนีอีกไปบ้านหลังที่ 2 ใกล้ ๆ กัน แต่ที่นี่ นายโอ๊ต ถูกชายฉกรรจ์เจอเอามีดเข้ามาทำร้าย แต่นายโอ๊ต เอาตู้บังไว้และหนีเอาตัวรอดไปได้ ไปจบที่บ้านหลังที่ 3 โดยคนอาศัยที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ได้ไปตามตัวลูกชายของคนที่ถูกนายโอ๊ตเยิง พร้อมส่งอาวุธมีดให้เขาเข้าไปทำร้ายนายโอ๊ต โดยชาวบ้านบอกว่าเป็นชายร่างอ้วน ๆ ท้วม ๆ รุมกระหน่ำฟันนายโอ๊ต จนนายโอ๊ตกระเสือกกระสน ไปสิ้นสภาพอยู่บ้านหลังที่ 4

 

            ทั้งนี้ ตนอยากรู้ว่าเจตนาของกลุ่มผู้ก่อเหตุคืออะไร พวกเขาไปออกข่าวว่า วิ่งตาม นายโอ๊ต เพื่อจับและรอให้ตำรวจมา แต่ทว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่านายโอ๊ตมีปืนอยู่ในมือ แต่ก็ยังบุกเข้าไปโดยไม่ได้เกรงกลัวอะไร และตนยังได้ข้อมูลอีกว่า กลุ่มที่เข้าไปหานายโอ๊ตสุดที่บ้านหลังสุดท้าย มีปืนไปด้วย 3 กระบอก อีกเรื่องที่ตนคาใจคือ ทำไมกู้ภัยถึงเคลื่อนย้ายเอาแขนของนายโอ๊ตลงมาก่อน โดยที่ตำรวจเองก็ยังมาไม่ถึง ขณะเดียวกัน คลิปกล้องวงจรปิดจากที่ปั๊มน้ำมัน ไม่ได้มีอยู่ในสำนวนของตำรวจ ตนเป็นคนหาเองและเอาไปให้สารวัตรสอบสวนที่เขาทำคดีนี้ โดยสารวัตรบอกว่าไม่เคยได้รับคลิปนี้มาก่อน แต่พนักงานปั๊มบอกกับตนว่ามีตำรวจเอาไปแล้ว ซึ่งทำให้ตนกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเส้นใหญ่หรือเปล่า 

 

 

            ด้าน ชวลิต ผลอุดม (อ๊อฟ) พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มคนในละแวกแถวนั้น เคยมีเรื่องกันมาก่อนแต่ได้เคลียร์กันจบไปแล้ว ไม่ได้มีเรื่องกันเลย จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ 

 

 

            ส่วน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย สภาทนายความฯ กล่าวว่า เคสนี้เริ่มต้นจากนายโอ๊ตถูกต่อยที่ปั๊ม จึงไปยิงนายโอม กรณีก็ถือว่านายโอ๊ตทำเกินกว่าเหตุและถือเป็นการเจตนาฆ่าได้ แต่นายโอ๊ตเสียชีวิตคดีอาญาตรงนี้เลยชะงักไป ทว่านายโอมกับพวกจะอ้างว่าป้องกันตัวจากเหตุการณ์นี้ โดยเอามีดไปไล่ฟันนายโอ๊ตไม่ได้ เพราะกรณีของการป้องกันตัวมันจะต้องเกิดขึ้นในขณะนั้น และต้องเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ซึ่งมันขาดช่วงไปแล้ว 

 

            ขณะเดียวกัน การที่นายโอมกับพวก เอามีดไล่ฟันนายโอ๊ตจนเสียชีวิต ถือว่าเป็นตัวการร่วมกันหมดโดยถือว่าเป็นเจตนาฆ่า และนายโอมก็จะอ้างว่าเป็นการบันดาลโทสะไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่ได้เกิดขึ้นในขณะนั้น หรือไม่ได้ถูกข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรมอย่างร้ายแรง 

 

 

            ฟาก ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความเห็นว่า ตนได้ประสานไปยังผู้กำกับที่ทำคดีนี้แล้ว ท่านจะให้ความเป็นธรรมแน่นอน โดยท่านได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายแล้ว กำลังยื่นเรื่องต่อศาล อีกกรณีคือคนที่ยื่นมีดให้ผู้ก่อเหตุ ก็ถือเป็นผู้สนับสนุนการฆ่า ตอนนี้ก็จับตัวได้แล้ว โดยทั้งคู่ศาลให้การประกันตัวไปก่อน สำหรับผู้ก่อเหตุนอกเหนือจากนี้ ตำรวจกำลังติดตามตัวว่ามีใครบ้าง หากมีหลักฐานอื่นใดก็ให้ส่งให้ตำรวจ หรือส่งให้กระทรวงฯ ทางกระทรวงฯ จะได้ช่วยอีกแรง และตนจะได้ทำหนังสือถึงท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการในพื้นที่ ท่านจะได้ให้การดูแลให้ความเป็นธรรม ทว่าต้องให้เวลาตำรวจดำเนินการ เพราะมีผู้ก่อเหตุหลายราย สำหรับในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ตนแนะนำให้ญาติผู้เสียชีวิตเข้าไปยื่นเรื่องที่กระทรวงฯ เพื่อรับสิทธิ์การเยียวยาต่าง ๆ รวมถึงการคุ้มครองพยานด้วย