ตำรวจตามจับกุมได้แล้ว ผัวโหดจุดไฟเผาเมียแล้วแทงซ้ำ เจ้าตัวเผย หวังปลิดชีพตัวเองหนีความผิด แต่ถูกตำรวจรวบตัวได้ก่อน
จากกรณีสามีภรรยาทะเลาะกันบนรถ ก่อนที่ฝ่ายภรรยาจะวิ่งลงมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี จากนั้นฝ่ายสามี ได้วิ่งตามลงมาแล้วใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผาร่างภรรยา จนต้องวิ่งหนีลงคูน้ำเพื่อดับไฟ แต่ผู้ก่อเหตุยังตามลงไปใช้มีดแทงซ้ำ 6 แผล จนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุ นายพิสุทธิ์ศิริ อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถกระบะหลบหนีไป
ล่าสุดในวันนี้ (7 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางปู นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายพิสุทธ์ศิริ ผู้ต้องหา พร้อมกับรถยนต์ที่ใช้หลบหนี ซึ่งไปพบว่านำไปจอดซุกไว้ข้างทาง ที่มีต้นไม้ขึ้นปิดบังสายตา ริมถนนเทพรัตน ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง อำเภอบางประกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจากการตรวจค้นภายในรถพบมีดดาบของกลางที่ใช้ก่อเหตุ และที่ท้ายรถมีข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าอยู่ในกระบะจำนวนมาก
เจ้าตัวยอมรับว่าก่อเหตุจริง หลังก่อเหตุหลบหนีขับรถวนไปตามเส้นทางต่าง ๆ จนถึงจังหวัดชลบุรี ก่อนจะกลับมาจอดบริเวณดังกล่าวเพื่อเตรียมปลิดชีพตัวเองหนีความผิด แต่ถูกตำรวจตามแกะรอยจนมาพบตัวและจับกุม
นาย ต้น ผู้ต้องหารายนี้เปิดใจและยอมให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองยอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุที่ทำ นายต้นอ้างว่า ตนเองเก็บอารมณ์ความโกรธมา 2 ปี ที่ฝ่ายหญิงแอบไปคุยชู้สาวกับชายอื่นในแชต ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเคยคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลงมือทำร้ายฝ่ายหญิงจริง ด้วยการตบ ทำให้ฝ่ายหญิงหนีออกจากห้องพักไปกว่าสิบวัน จนกระทั่งขอนัดคุยนัดเคลียร์ปัญหา จนฝ่ายหญิงตกลงตามที่นัดหมาย จนกระทั่งวันเกิดเหตุตนจึงขับรถไปรับฝ่ายหญิงตามนัด โดยพาไปทำบุญที่วัดคลองเก้า จากนั้นพาไปจอดรถนั่งเล่นที่สนามกอล์ฟ ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ระหว่างนั่งคุยเล่นกัน นายต้นอ้างว่าถูกฝ่ายหญิงดุด่าจนเกิดความโมโห
จึงข่มขู่ว่าจะราดน้ำมันเผาให้ตายทั้ง 2 คน หากยังไม่หยุดด่า และพอขึ้นรถมาได้ก็ยังถูกฝ่ายหญิงต่อว่าอีก ทำให้เกิดความโมโห จึงใช้น้ำมันราดฝ่ายหญิงและตัวเอง เพื่อหวังข่มขู่ แต่ด้วยความคันจากน้ำมันจึงพากันถอดเสื้อหวังเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างทางฝ่ายหญิงอ้างหิวน้ำ จึงจอดรถที่เกิดเหตุ พอจอดรถฝ่ายหญิงจึงเปิดประตูวิ่งไปขอความช่วยเหลือ ด้วยความโมโหและคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว เมื่อถามว่าเตรียมการมาหรือไม่ นายต้นอ้างว่าไม่ได้เตรียมการ แกลอนน้ำมันที่เตรียมมาอ้างว่าเตรียมไว้เติมรถจักรยานยนต์ที่เอาไปจำนำ เพื่อเอาเงินมาจากค่างวดรถยนต์ที่ค้างไว้
ด้าน พ.ต.อ. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า ภายหลังจากที่มีการคุมตัวผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำเเล้วนั้น ผู้ต้องหาให้การรับสารสภาพว่า ตนเองมีการเตรียมการตั้งเเต่ขั้นตอนเตรียมงานรวมถึงสาเหตุที่ทะเลาะเเละฆ่า ทั้งนี้ ตำรวจได้หลักฐานครบทุกอย่างเเล้ว มีทั้งกระป๋องน้ำมัน เเละอาวุธมีด
ส่วนสาเหตุเกิดจากการหึงหวง โดยมีเรื่องระหองระเเหงกันมา 2 ปีเเล้ว อีกทั้งผู้ต้องหาได้ ไปเจอเเชตผู้ตายคุยกันคนอื่น เเละหาเรื่องทะเลาะมาตลอด ทั้งนี้ ทางตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหาน่าจะมีการวางเเผนไว้เเล้ว เพราะมีการซื้อน้ำมันเตรียมไว้แต่ ผู้ต้องหาอ้างว่าจะนำไปใช้ในการเติมรถ จักรยานยนต์ ส่วนอาวุธมีดดาบที่พบนั้นผู้ต้องหาอ้างว่ามีการพกติดตัวไว้อยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ไปจอดตรงนั้น (ที่จับกุม) เพราะเตรียมตัวจะฆ่าตัวตาย เเต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะถ้าผู้ต้องหาจะฆ่าตัวตาย ก็ตายไปตั้งเเต่เมื่อคืนเเล้ว ทั้งนี้ เมื่อปี 2557 ผู้ต้องหาเคยเอาน้ำมันเเละมีดมาก่อเหตุกับภรรยาเก่าเเล้ว 1 ครั้ง
คาดว่าน่าจะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเช้า โดย เบื้องต้นได้เเจ้งข้อหา ถ้าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและข้อหาเกี่ยวกับการพกพาอาวุธมีด
ด้าน นาง สนิท บุราณเดช พี่สาวคนตาย เดินทางมาดู หน้าผู้ต้องหาที่ สภ.บางปู หลังจากที่ทราบข่าวว่าตำรวจสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ โดยพี่สาวคนตายให้สัมภาษณ์ ระบุว่า ไม่ให้อภัยไม่รับคำขอโทษจากผู้ต้องหา และอยากถามว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ หลังจากเกิดเรื่องยอมรับว่าทุกคนหวาดกลัวที่ผู้ต้องหาจะย้อนมาก่อเหตุกับคนในครอบครัว พอทราบว่าถูกจับตัว ก็รู้สึกสบายใจขึ้นและต้องขอบคุณตำรวจที่ตามจับกุมตัวได้ ยืนยันว่าจะดำนเนินคดีให้ถึงที่สุด
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35