รู้จัก หนี้ครัวเรือน ที่ไม่อยากรู้จัก จะมีวิธีแก้อย่างไร ? | เงินทองของจริง

762 ครั้ง

09 มี.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้หลาย ๆ คนเจอวิกฤตทางการเงิน โดยเฉพาะคำว่า "หนี้ครัวเรือน" มักจะเป็นคำที่ได้ยินอยู่บ่อย ๆ ซึ่งหนี้ครัวเรือนนั้นมีความหมายว่าอย่างไร ?

คำว่าหนี้ครัวเรือน หมายถึง หนี้ที่ภาคประชาชนกู้ยืมมาจากสถาบันการเงิน เพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น กู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อรถ หรือบัตรเครดิตต่าง ๆ นับรวมกันว่าเป็นหนี้ครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งมีการเปรียบเทียบว่ามากหรือน้อย โดยการคิดจากรายได้ที่หาได้ ไม่ใช่การคิดจากมูลค่าหนี้ที่ก่อขึ้น ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงหนี้ครัวเรือน จึงต้องเปรียบเทียบจากรายได้ของประเทศหรือ GDP และในปัจจุบัน GDP ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นสูงถึง 89.3% ซึ่งถือว่าเยอะมาก ๆ

การที่ GDP ของประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นมากขนาดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการใช้สินเชื่อจำนวนมาก และเมื่อเทียบสัดส่วนกับประเทศที่พัฒนาแล้ว หนี้ครัวเรือนส่วนใหญ่จะไปตกอยู่กับการกู้ซื้อบ้าน หรือกู้ซื้อรถ แต่เมื่อเทียบกับประเทศไทยแล้ว มีเพียง 30% เท่านั้นที่ตกอยู่กับการกู้ซื้อบ้าน หรือกู้ซื้อรถ ส่วนอีก 30% ที่ตกอยู่กับสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล แสดงให้เห็นว่าเป็นการกู้มาเพื่อจับจ่ายใช้สอยมากกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

ด้วยความที่หนี้ครัวเรือนในประเทศไทยพุ่งขึ้นสูง ทำให้มีผลกระทบต่อประเทศมากพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงเวลา ณ ปัจจุบันที่มีค่าเงินเฟ้อสูง เพราะเมื่อเงินเฟ้อสูงแล้ว แน่นอนว่าธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมีการพิจารณาในเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อจัดการกับเงินเฟ้อไม่ให้สูงมากจนเกินไป ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ที่กำลังเป็นหนี้อย่างแน่นอน รวมไปถึงการมีหนี้ครัวเรือนที่สูงยังแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ที่บ่งบอกว่าพวกเราทั้งหลายกำลังแบกรับภาระที่หนักเกินไป ยกตัวอย่างจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงที่หลายคนไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายยังคงอยู่

อย่างไรก็ตาม ทุกปัญหาล้วนมีทางออกเสมอ ซึ่งการลดหนี้ครัวเรือนให้สำเร็จยังพอมีวิธีอยู่ โดยทุกครัวเรือนต้องร่วมด้วยช่วยกัน สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การควบคุมรายจ่าย โดยเฉพาะรายจ่ายฟุ่มเฟือย ซึ่งอาจจะมาจากการกู้ยืม และหากลดในส่วนนี้ได้ ก็จะเป็นตัวช่วยให้ภาระลดลง

ส่วนที่ 2 คือ การประเมินตัวเองก่อนที่จะกู้ยืมหรือทำสินเชื่อ เพราะในหลาย ๆ ครั้ง ภาระหนี้ครัวเรือนเกิดจากการสร้างหนี้แล้วจ่ายไม่ไหว และเราก็จะสร้างหนี้ก้อนถัดมาเพื่อนำมาอุดหนี้ก้อนแรกให้รอด เช่น บางคนกู้ซื้อรถแล้วผ่อนไม่ไหว และใช้บัตรกดเงินสด หรือเป็นการกู้ยืมอื่น ๆ มาเพื่อจ่ายก้อนแรก ซึ่งจะทำให้เกิดภาระที่มากกว่าเดิม จึงอยากให้ประเมินตัวเองดูก่อนที่จะตัดสินใจกู้ยืมหรือทำสินเชื่อ ว่าเรามีความพร้อมหรือไม่

ส่วนที่ 3 คือ การสร้างรายได้เพิ่ม เพราะรายได้ถือเป็นตัวหารสำคัญในการลดหนี้ครัวเรือน เช่น หากเรามีหนี้เยอะ แต่รายได้เรามากขึ้น สามารถจ่ายหนี้ได้ไหว ก็จะทำให้หนี้ครัวเรือนลดลงนั่นเอง

ส่วนที่ 4 คือ การออม อาจจะส่งผลต่อการลดหนี้ครัวเรือนโดยอ้อม แต่จะเป็นผลที่ดีโดยรวม ซึ่งในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีการออมน้อยลง และเมื่อถึงเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงินก้อน ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ มักจะบีบบังคับให้คนเหล่านั้นเข้าสู่วงจรสินเชื่อ ดังนั้น การออมจึงเป็นเกราะป้องกันที่ทำให้เราไม่ต้องหยิบยืมเงินคนอื่น และยังสามารถใช้ซื้อของที่ตัวเองอยากได้ในบางโอกาส โดยไม่เป็นหนี้เพิ่มได้ด้วย

ส่วนที่ 5 คือ การรักษาวินัยทางการเงิน เรื่องของการใช้จ่ายอย่างพอเหมาะพอควร การใช้สินเชื่ออย่างเหมาะสมแบบที่เราสามารถชำระคืนได้ และรู้กำลังของตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ๆ เมื่อใดก็ตามเราที่มีภาระหนี้ เราต้องรักษาวินัยในการชำระคืน เพราะหากไม่ชำระคืนแล้ว จะยิ่งทำให้มีภาระหนี้ที่งอกเงยขึ้นจากดอกเบี้ยและค่าปรับต่าง ๆ นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบต่อการเป็นหนี้เสีย ซึ่งทำให้จากหนี้ครัวเรือนธรรมดา กลายเป็นหนี้ครัวเรือนที่มีอัตราหนี้เสียสูง ดังนั้น จึงต้องรักษาวินัยทางการเงินให้มาก ๆ

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน สนามข่าว 7 สี ช่วง "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35