เจ้าของรถสุดช้ำ จำนำรถ 7 หมื่น รถล่องหน เหตุนายทุนขายต่อ แบบนี้ก็ได้เหรอ ?

2 เจ้าของรถช้ำหนัก จำนำรถหวังเอาเงินสดมาใช้ ยอมจ่ายดอกเบี้ยสุดโหด ร้อยละ 10 สุดท้าย พอจะไถ่คืน รถกลับถูกขายทอดตลาดต่างประเทศไปแล้ว ! 

 

 

            วันที่ 6 มี.ค. 66 องอาจ (อาร์ท) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้นำรถไปจำนำกับนายแชมป์ นายหน้ารับจำนำรถ หวังเอาเงินให้แฟนไปทำงานต่างประเทศ โดยได้รับเงินจากนายหน้าจำนวน 70,000 บาท ในระหว่างนั้นต้องผ่อนดอกเบี้ยร้อยละ 10% จำนวน 7,000 ทุกเดือน แต่พอตนเก็บเงินได้ครบจำนวน  จะไปไถ่รถคืน รถของตนกลับถูกนายทุนนำไปขายทอดตลาดต่างประเทศ ทั้งที่ตนจ่ายดอกเบี้ยตรงเวลาทุกเดือน จึงออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ 

 

 

            องอาจ เล่าต่อว่า ตนรู้จักนายแชมป์ นายหน้ารับจำนำรถผ่านเพื่อน จึงได้ติดต่อไปเพื่อนำรถไปจำนำกับเขา โดยนัดกันวันที่ 7 ก.ย. 65 ที่บิ๊กซี วงศ์สว่าง เพื่อเอารถไปให้เขา โดยตกลงวงเงินกันที่ 70,000 บาท แต่ถูกหักดอกเบี้ยร้อยละ 10% ล่วงหน้าเป็นจำนวนเงิน 7,000 บาท และค่าจอดรถล่วงหน้า 1,000 บาท รวมแล้ว 8,000 บาท เหลือ 62,000 บาท ที่ตนได้รับในตอนนั้น และตนยังต้องจ่ายดอกเบี้ยเขาไปเรื่อย ๆ พอเสร็จเรื่องแล้วเขาก็เอารถไปเลย ขณะเดียวกัน สัญญาการจำนำรถ ก็ได้ทำในวันที่ 7 ก.ย. 65 เลย แต่นายแชมป์บอกกับตนว่า ไม่ต้องเอาสัญญากลับไป ให้เอาไว้ในลิ้นชักหน้ารถ  แล้ววันที่ไปเอารถคืนค่อยมาเอาสัญญากลับไป ซึ่งตนก็ไม่ได้ถ่ายรูปสัญญาดังกล่าวเอาไว้ด้วย ตนก็ไม่ได้คิดอะไร

 

            จากนั้นตนก็ผ่อนจ่ายดอกเบี้ยให้นายแชมป์ตรงตามกำหนดทุกเดือน พอตนจ่ายไปทั้งหมด 5 เดือน ตนก็เก็บเงินได้หนึ่งก้อนเป็นเงินที่เอาไว้ไถ่เอารถออก วันที่ 1 ก.พ. 66 จึงติดต่อนายแชมป์ให้เตรียมรถให้ตน วันที่ 7 ก.พ. 66 ตนจะไปเอารถคืน พอถึงวันที่นัดกันไว้ นายแชมป์ กลับบอกว่า นายทุนเอารถของตนไปขายแล้ว ตนก็ตกใจว่าทำไมถึงเอารถตนไปขาย ทั้งที่ตนก็จ่ายดอกเบี้ยให้เขาทุกเดือน อย่างไรก็ตาม รถของตนยังติดไฟแนนซ์อยู่ โดยต้องส่งให้เขา 7,500 บาทต่อเดือน และยังต้องผ่อนไปอีกกว่า 6 ปี ทั้งนี้ ตนต้องการให้เขาเอาเงินมาปิดหนี้ไฟแนนซ์ของตนทั้งหมด เพราะเขาเอารถตนไปขายแล้ว 

 

 

            ด้าน หนูกาล ทองคำ (กาล) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนติดต่อนายแชมป์ ผ่านญาติ ซึ่งญาติก็บอกกับตนว่านายแชมป์ไว้ใจได้ ด้วยความที่ตนต้องการใช้เงินไปจ่ายค่างวดรถ ค่าคอนโด จึงนำรถไปจำนำกับเขา นัดกับเขาวันที่ 20 พ.ย. 65 ที่ปั๊มน้ำมันแถววงศ์สว่าง โดยตนจำนำรถในราคา 60,000 บาท โดยต้องผ่อนดอกเบี้ยร้อยละ 10% เป็นจำนวน 6,000 บาทต่อเดือน และ 2,000 บาทต่อเดือน เป็นค่าที่จอด รวมแล้วตนต้องจ่ายเขาเดือนละ 8,000 บาท โดยในก้อนแรกตนโดนหักล่วงหน้าไป เหลือ 52,000 บาท ส่วนสัญญาจำนำรถ เขาก็เอาไป 

 

 

            ทั้งนี้ตนจ่ายมาได้ 2 เดือน ตนส่งตรงเวลามาตลอด ต่อมาตนได้เห็นข่าวว่ามีนายทุน นำรถไปขาย ซึ่งมีชื่อคล้ายนายแชมป์อยู่ด้วย ตนจึงติดต่อไปหาเขาเพื่อจะไถ่รถออก แต่นายแชมป์ กลับบ่ายเบี่ยง บอกว่า นายทุนไปต่างประเทศ เอากุญแจไปด้วย ขอเวลา 15 วัน แต่ตนไม่ยอมเพราะตอนแรกตกลงกันไว้แล้วว่า มีเงินพร้อมเอารถออกเมื่อไหร่ รถก็พร้อม 

 

            สุดท้าย วันที่ 9 ก.พ. 66 ตนนัดนายแชมป์เพื่อจะเอารถคืน ซึ่งนายแชมป์ก็ตอบรับตน ตอนนั้นตนก็ดีใจว่าจะได้รถคืนแล้ว ทว่าก่อนเวลานัดไม่นานญาติก็โทรมาบอกตนว่า นายแชมป์ยอมรับว่า รถของตนถูกนำไปขายแล้ว พร้อมกับของคุณอาร์ท ขณะที่รถของตนยังค้างไฟแนนซ์อยู่ 600,000 บาท  ตอนนี้ต้องผ่อนลม ที่ต้องออกมาร้องเรียนกับสื่อ เพราะอยากให้เขามารับผิดชอบบ้าง ถ้าปิดหนี้ไฟแนนซ์ตนไปเลย ตนโอเค 

 

 

            ฟาก แชมป์ นายหน้ารับจำนำรถ กล่าวว่า ตนเป็นคนกลางระหว่างลูกค้าที่จะมาจำนำรถ และนายทุน โดยเงินจากทั้งสองฝ่าย จะผ่านตนไปให้อีกฝ่าย ส่วนตนจะได้ค่านายหน้าประมาณ 2,000 บาท ซึ่งรถที่ถูกนำมาจำนำของทั้งคู่ ตนนำไปให้ นายสายลม(นายทุน) ซึ่งเขานำไปขายต่างประเทศแล้ว โดยนายสายลม เอารถของผู้เสียหายไปขายก็ไม่ได้แจ้งอะไรกับตนเลย ตนได้ติดต่อไปถามเขาเรื่องการรับผิดชอบ เขาก็โยนมาให้ตน แต่ตนรับผิดชอบทั้ง 2 คันไม่ไหว ต้องให้นายสายลม รับผิดชอบก่อน 

 

            ขณะที่สัญญาจำนำรถ ก็อยู่ภายในรถ ตนไม่ได้เก็บไว้เลย เวลาลูกค้าไถ่รถออกเขาก็เอาสัญญาไปเลย ตนเคยทำแบบนี้มาแล้ว 3-4 คัน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขณะเดียวกัน ตนพยายามไปหาตัวนายสายลม แต่เขาบอกว่าถ้าไป เขาจะแจ้งข้อหาบุกรุก 

 

            ทั้งนี้ นายแชมป์ ยอมรับกลางรายการ ว่า ได้เอาเงินจากนายทุนมาเกินจากที่ลูกค้าทำสัญญาเอาไว้ โดยในเคสของ คุณอาร์ท นายแชมป์เอาเงินจากนายทุนมา 90,000 บาทให้คุณอาร์ทก่อนหักดอกเบี้ย 70,000 บาท และของคุณกาล นายแชมป์ เอาจากนายทุนมา 80,000 บาท และให้คุณกาลก่อนหักดอกเบี้ย 60,000  และ เอาเงินไปเองคนละ 20,000 โดยในส่วนที่นายแชมป์เอาเงินมาเกิน ก็ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยเลย โดยนายแชมป์ให้เหตุผลที่ทำแบบนี้ว่า "แบบนี้มีทุกวงการ"

 

 

            ด้าน เกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ให้ความเห็นว่า เบื้องต้น นายทุนจะเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ เพราะนายทุนเขารู้อยู่แล้วว่าทรัพย์ที่เขาครอบครองไว้ เป็นทรัพย์ของคนอื่น เขาครอบครองไว้ในลักษณะของการจำนำ ถ้าหากผู้จำนำจะมาไถ่ถอนทรัพย์นั้น ๆ ก่อนระยะเวลากำหนด ผู้รับจำนำก็ต้องให้ผู้จำนำปลดจำนำได้ แต่การที่เขาเอาทรัพย์สินของผู้จำนำมา แล้วนำไปขายต่อ หรือเคลื่อนย้ายโดยที่เจ้าของเขาไม่อนุญาต ก็จะมีความผิด 

 

            สำหรับกรณีที่นายแชมป์เอาเงินจากนายทุนมาเกินนั้น แล้วไม่ได้ส่งดอกเบี้ยแก่นายทุนเลย ทำให้นายทุนยึดรถไปขาย เพราะเหมือนส่งดอกเบี้ยต่อเดือนไม่ครบมันผิดสัญญา ขณะที่ คุณอาร์ท ก็ส่งดอกเบี้ยให้นายแชมป์แค่เดือนละ 7,000 เพราะคิดว่าหนี้เขา 70,000 ส่วนคุณกาล ก็ส่งดอกเบี้ยแค่ 6,000 บาท เพราะคิดว่าหนี้เขาแค่ 60,000 เช่นกัน ในส่วนนี้ นายแชมป์ก็จะมีความผิดในฐานเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ทว่าในส่วนนี้ถ้านายแชมป์ให้ความร่วมกับตำรวจ จับนายสายลม ก็อาจจะได้รับการยอมความ อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ที่สุดคือรถที่ถูกนำไปขายนั้น ยังติดไฟแนนซ์อยู่ แต่กลับข้ามประเทศไปได้อย่างไร เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาตรวจสอบ