แม่หม้ายน้ำตาตก ! ถูกหนุ่มรุ่นน้องเทงานแต่ง โอละพ่อ แม่ฝ่ายชายโต้ หนังคนละม้วน

สาวร้องสื่อ เหตุ ถูกแฟนหนุ่มรุ่นน้อง ให้แม่มาสู่ขอ บอกสินสอดพร้อม จัดงานรอได้เลย สุดท้ายเทงานไม่บอกกล่าว ทำเอาเสียหายหมดเงินไป 4 หมื่น แถมยังอับอายไปทั่ว !   

 

 

            วันที่ 2 มี.ค. 66 อนงค์ ใจเย็น (บิวตี้) เจ้าสาว ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนถูกแฟนหนุ่มเทงานแต่ง โดยคบหากันมาได้ประมาณ 2 เดือน แม่ฝ่ายชายก็ได้มาสู่ขอตนแต่งงาน บอกว่าจะจัดการให้ทุกอย่าง ได้ฤกษ์แต่งงานวันที่ 1 มี.ค. 66 ตนจึงจัดเตรียมงานไว้รอทุกอย่าง หมดเงินไปประมาณ 40,000 บาท สุดท้ายฝ่ายชายไม่มาปล่อยรอเก้อ ตนต้องอับอายชาวบ้านไปทั่ว

 

  

 

            อนงค์ ใจเย็น เล่าต่อว่า ตนรู้จักกับนายตูน(แฟนหนุ่ม) ผ่านแอปฯหาคู่ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 66 ซึ่งก็ถูกใจ ตั้งแต่นั้นก็เลยคุยกันมาตลอด ตนเคยเจอตัวนายตูน 2 ครั้ง วันที่ 22 ม.ค. 66 และช่วงต้นเดือน ก.พ. 66 ทั้งนี้จุดเปลี่ยนเรื่องการแต่งงาน เริ่มจากนายตูน มาบอกว่า แม่ของเขาอยากคุยกับตน โดยไม่สะดวกจะโทรคุย สะดวกจะพิมพ์แชตคุยกันมากกว่า กระทั่งได้คุยกับแม่ของนายตูนผ่านแชต ซึ่งโปรไฟล์แชตก็คือแม่ต๋อย โดยเนื้อหาของการคุยก็จะเกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน ซึ่งเขาเป็นคนเสนอมาว่าจะให้แต่งงานกับลูกเขา อีกทั้งยังขอลายมือตนไปหาฤกษ์วันแต่งงานเอง จัดแจงทุกอย่างเองหมด สุดท้ายเขาก็แจ้งว่าได้ฤกษ์วันแต่งงานวันที่ 1 มี.ค. 66 โดยจะมาแต่งงานที่บ้านตน ส่วนเรื่องสินสอด แหวนแต่งงาน ชุดแต่งงาน เขาบอกแต่เพียงว่า จะเตรียมทุกอย่างมาเอง 

 

            นอกจากนี้เขายังบอกว่าจะซื้อที่ให้ตนเป็นสินสอด ในราคา 650,000 บาท และหลังจากแต่งงานเสร็จแล้ว จะให้มาดูช่วยนายตูนดูแลธุรกิจร้านทอง โดยอ้างว่าแทำธุรกิจร้านทอง ทั้งนี้ตนได้คุยกับแม่ต๋อย โดยที่คิดว่าเป็นเขาจริง ๆ 

 

            จากนั้น ตนจึงได้จัดการเตรียมงานแต่งงาน จ้างคนมาเก็บบ้านถางหญ้า จัดการหาเต็นท์จัดงาน หากับข้าว เครื่องดื่ม เตรียมเลี้ยงคนในงาน และจ้างเครื่องเสียง โดยทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตนหมดเงินไปประมาณ 40,000 บาท 

 

 

            ต่อมาฝ่ายชายบอกว่าจะมาหาตนที่บ้านวันที่ 26 ก.พ. 66 เพื่อเตรียมงาน แต่ก็ไม่ได้มา ให้เหตุผลว่าชุดเจ้าสาวยังไม่เสร็จ ตนเริ่มรู้สึกเอะใจวันที่ 28 ก.พ. 66 เพราะฝ่ายชายยังไม่มีการตอบรับใด ๆ และยังไม่เดินทางมาที่บ้านของตน ตนได้ทำการทวงถาม เขาได้ตอบกลับมาว่า ขอคุยกับญาติผู้ใหญ่ฝั่งเขาก่อน จากนั้นช่วงบ่าย แชตที่คุยกับฝ่ายชายก็ได้ออกจากการสนธนาไป  ติดต่อไม่ได้ หลังจากนั้นนายตูนก็เอาอีกไลน์อันหนึ่งแอดเพื่อนตนมาเพื่อบอกขอโทษ 

 

            ขณะเดียวกัน ตนได้ทวงถามเรื่องเงินค่าใช้จ่าย ที่ตนจัดงานไป เพราะตนยังไม่ได้จ่ายค่าเต็นท์ ค่าเครื่องเสียงเลย ซึ่งนายตูนก็ได้โอนเงินมาช่วย 4,000 เป็นค่าเต็นท์ นอกเหนือจากนั้นตนก็ยังไม่เคยได้อะไรเลย เขาบอกแต่เพียงว่าเดี๋ยวจะหาเงินมาให้ สุดท้ายที่ตนออกมาร้องสื่อ เพราะ ตนอยากให้เขาเห็นใจตนหน่อย ตนหมดเงินไปเยอะยังคงค้างค่าใช้จ่ายในการจัดงานอยู่ แถมตนและแม่ยังอับอายคนในหมู่บ้านอีกด้วย 

 

 

            ด้าน ตูน เจ้าบ่าว เล่าว่า ตนเคยพูดเรื่องการแต่งงานกับแม่แท้ ๆ ของตนจริง โดยแม่ของตน เขามีลักษณะชอบโกหก ซึ่งแม่แท้ ๆ ของตนก็เอาไปพูดเองเออเอง ว่าเขาจะขอบิวตี้มาแต่งงานให้ จะซื้อที่ให้ และโอนเงินไปให้ฝ่ายผู้หญิงแล้ว 700,000 บาท ทั้งที่จริงไม่ได้โอนเงินไปเลยสักบาท เล่าให้ตนฟังอีกแบบ เอาไปพูดอีกแบบ 

 

 

            ฟาก ต๋อย แม่ฝ่ายชายที่เทงานแต่ง กล่าวว่า ตนเป็นแม่บุญธรรม ที่เก็บนายตูนมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ขณะที่เรื่องนี้ ตนไม่เคยรู้จักบิวตี้มาก่อนเลย ไม่เคยสนธนาต่อกันด้วย แชตที่เขาคุยก็ไม่ใช่ตน เพิ่งจะมารู้เรื่องเทงานแต่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 66 หลังจากกลับจากการทำงาน 

 

            อย่างไรก็ตาม นายตูน ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้นต้องกินยาตลอด และมีนิสัยชอบสร้างเรื่องราวปลอม ๆ ตลอด แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสร้างเรื่องใหญ่ ขณะเดียวกันเขาก็อายุแค่ 19 ปี ตนก็ไม่เข้าใจว่า บิวตี้ มาเชื่ออะไรกับเด็ก ทั้งนี้ตนยืนยันว่าจะไม่ชดใช้ค่าเสียหายสักบาทเลย ให้เอานายตูนไปติดคุกได้เลย ให้เขาดัดนิสัยที่ชอบทำแบบนี้ 

 

            ด้าน ทีมงานรายการถกไม่เถียงจึงได้ติดต่อไปยัง แม่ที่แท้จริงของ นายตูน โดยคุณแม่บอกว่า รู้เรื่องที่ลูกชายมีแฟน และยังเคยบอกลูกชายว่าให้ดูแลกันไปก่อน เดี๋ยวเขากลับจากต่างประเทศแล้ว ค่อยว่ากันว่าจะเอายังไงต่อ แต่ก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องที่ลูกชายจะแต่งงาน 

 

 

            ส่วน นิติธร แก้วโต ทนายความ เผยว่า การที่ฝ่ายหญิงจะเรียกร้องค่าเสียหายของการผิดสัญญาหมั้นนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากสัญญาหมั้นยังไม่เกิด ดังนั้นฝ่ายหญิงจะเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้ เพราะยังไม่ได้มีการหมั้นกัน ส่วนเรื่องการปลอมแชตไลน์นั้น หากสืบแล้วว่าใครปลอม อาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

 

            อย่างไรก็ตาม หากจะเอาผิดทางกฎหมาย เรื่องของการจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือชื่อเสียง ตนมองว่า สามารถทำได้ แต่ตัวนายตูนยังเป็นผู้เยาว์อยู่ และยังเป็นภาวะผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้ปกครองอาจจะต้องรับผิดชอบร่วมด้วย ขณะเดียวกัน ฝ่ายหญิงเองก็ประมาทที่ไม่ตรวจสอบให้ดีว่าฝ่ายชายยังเป็นผู้เยาว์ ซึ่งศาลอาจจะตัดสินให้ทั้งสองฝ่ายรับผิดชอบกันคนครึ่ง