logo ถกไม่เถียง

หนุ่มทุกข์หนัก น้องในไส้ปลอมสเตตเมนต์ กู้ 1.2 ล้าน แต่หลอกว่าแสนเดียว บ้านโดนยึด !

ถกไม่เถียง : เรื่องราวเศร้าหนัก พี่น้องก็ยังทำกันได้ลง โดยพี่ชายเข้าร้องสื่อ หลังถูกน้องชายต่างแม่ หลอกให้กู้เงิน 1 แสนบาท แต่แท้จริงแล้ว ปลอมสเต ถกไม่เถียง,ทิน โชคกมลกิจ,terodigital,กู้เงิน,1.2ล้าน,1แสน,หนี้,ธนาคารกสิกร,กองปราบปราม,ปลอมแปลงเอกสาร,ปลอมสเตตเมนต์,หลอกว่าแสนเดียว,น้องชายหลอกพี่ชาย,น้องต่างแม่,ยึดบ้าน,ประมูล,ขายทอดตลาด,นายวัน,โย,ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์

1,763 ครั้ง
|
01 มี.ค. 2566
เรื่องราวเศร้าหนัก พี่น้องก็ยังทำกันได้ลง โดยพี่ชายเข้าร้องสื่อ หลังถูกน้องชายต่างแม่ หลอกให้กู้เงิน 1 แสนบาท แต่แท้จริงแล้ว ปลอมสเตตเมนต์ จนตนเป็นหนี้ 1.2 ล้าน บ้านจ่อจะถูกยึด !
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มทุกข์หนัก น้องในไส้ปลอมสเตตเมน
 
            วันที่ 1 มี.ค. 66 วัน ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ถูกน้องชายต่างแม่หลอกให้กู้เงิน อ้างว่าจะช่วยดำเนินการทำธุรกรรมให้ กู้เงินเสร็จสรรพเรียบร้อยจำนวน 100,000 บาท สุดท้าย 1 ปีต่อมา ธนาคารส่งหมายศาล แจ้งว่าเป็นหนี้ 1,200,000 บาท น้องชายก็บอกตนว่าไม่เป็นไร จะจัดการให้ สุดท้ายบ้านจ่อจะโดนยึดขายทอดตลาด ที่ช้ำไปกว่านั้น ยังโดนคดีข้อหาปลอมแปลงเอกสารอีก 
 
            นายวัน เล่าต่อว่า ตนได้ไปเจอน้องชายต่างแม่ในเรือนจำ โดยตั้งแต่เด็กไม่ได้เคยรู้จักกันมาก่อน แต่มาเอะใจที่เขานามสกุลเดียวกับพ่อ จึงทราบว่าเป็นน้องชายต่างแม่ ซึ่งระหว่างอยู่ในเรือนจำตนก็ดูแลเขาตลอด จากนั้นตนได้รับการปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำก่อนน้อง พอออกมาแล้วก็ไม่สามารถหางานทำได้ เพราะมีประวัติติดตัว 
 
            ขณะเดียวกันน้องชายก็ออกมาจากเรือนจำหลังตน แล้วติดต่อมาถามตนว่าสนใจจะกู้เงินไหม เขาจะเป็นคนดำเนินการให้ ซึ่งตนก็สนใจ เพราะตนอยากเอาเงินไปซื้อรถ เพื่อไปหางานทำต่อไป ทั้งนี้ตนได้ขอให้เขากู้ให้ 100,000 บาท โดยน้องชายได้ขอเอกสารไปดำเนินการมี สมุดบัญชีธนาคาร ซิมการ์ด และบัตรเอทีเอ็ม ต่อมาตนก็ได้ไปเซ็นเอกสารที่ธนาคารช่วงเช้า โดยก่อนเข้าไปธนาคาร น้องชายก็ให้ตนเข้าไปรับซองเอกสารจากผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรออยู่ในรถหน้าธนาคาร เมื่อรับเอกสารแล้ว ตนทำทุกอย่างโดยที่น้องชายไม่ได้เข้าไปในธนาคารด้วย ต่อมา น้องของตนก็บอกให้ตนกลับไปรอที่บ้าน พร้อมทั้งเอาเอกสารไปหมด ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดว่าน้องจะทำอะไรตน พอตกเย็น เขาก็โทรมาหาบอกว่าเรื่องผ่านแล้ว และโอนเงินมาให้ตนเลย 80,000 ส่วนอีก 20,000 น้องชายขอไปเป็นค่าดำเนินการ 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มทุกข์หนัก น้องในไส้ปลอมสเตตเมน
 
            หลังจากนั้น ประมาณ 1 ปี มีหมายศาลส่งมา ว่าตนเป็นหนี้ธนาคาร 1,200,000 บาท ซึ่งน้องชายตนก็บอกกับตนว่า ให้ตนไปตามศาลได้เลย ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะเอาทนายมาจัดการให้ แต่ก็บ่ายเบี่ยงไม่ได้ตอบว่าทำไมยอดหนี้ถึงเพิ่มมาขนาดนี้ ขณะที่ตนก็เชื่อใจ จึงกลับไปใช้ชีวิตปกติ 
 
            สุดท้ายตอนนี้บ้านกำลังจะโดนยึดขายทอดตลาดในวันที่ 9 มี.ค. 66 เพราะตนไม่ได้ไปจ่ายหนี้เขา โดยกรมบังคับคดีประเมินราคาบ้านอยู่ที่ 800,000 บาท ตนได้คุยกับตัวน้องชายล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเขาบอกว่า วันที่ 9 มี.ค. 66 เขาจะหาคนมาซื้อบ้านไว้ให้ก่อน และจะใช้ชื่อคน ๆ นั้นเป็นเจ้าของไปก่อน และเขาจะส่งเงินค่าบ้านให้แค่ 2 ปี ส่วนที่เหลือตนต้องจ่ายเอง ขณะเดียวกันตนและครอบครัว ก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อใจ 
 
            นอกจากนี้ ตนยังถูกกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ส่งหมายมาว่าตนก่อเรื่อง ปลอมแปลงเอกสาร เพื่อใช้ไปกู้เงินธนาคาร แต่ตนไม่เคยทำ ทำไม่เป็นด้วย ขณะที่ตนเองนั้นก็ไม่เคยไปกู้เงินที่ไหนด้วย นอกจากตอนที่น้องชายขอเอกสารไปดำเนินการเรื่องกู้เงิน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ที่อยู่ก็กำลังจะไม่มี เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยที่ตนไม่รู้เรื่องเลย ทุกอย่างตนมารู้เรื่องจากมีหมายส่งมาแล้ว ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนหน้านี้เลย
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มทุกข์หนัก น้องในไส้ปลอมสเตตเมน
 
            ด้าน โย ภรรยาของผู้เสียหาย เล่าว่า ตอนแรกน้องชายสามีเขาจะให้ตนเป็นคนกู้เงิน แต่ทว่าตนติดเครดิตบูโร ขณะที่ตอนนี้ ตนโกรธน้องชายของสามีมาก เขามาทำแบบนี้กับพี่ชายเขา โดยที่ตัวเขาเองยังคงใช้ชีวิตสุขสบาย ไฮโซ มีรถหรู ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อย อีกทั้งยังเปิดฟาร์มสุนัขอีกด้วย ขณะเดียวกัน เขาได้ทำการบล็อกช่องทางการติดต่อจากตน และสามีทั้งหมด ตนจึงให้เพื่อนช่วยหาทางติดต่อ จนกระทั่งเพื่อนออกอุบายขอนัดซื้อสุนัขกับเขา เพื่อนก็กลับมาบอกว่าเขายังใช้ชีวิตปกติสุขดี ไม่ได้เดือดร้อนอะไร 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มทุกข์หนัก น้องในไส้ปลอมสเตตเมน
 
            ฟาก รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เคสนี้ น้องชายของ นายวัน เอาสเตตเมนต์ปลอมไปยื่นกู้กับธนาคาร และยังเอา ซิมโทรศัพท์ของนายวัน ไปเปิดโมบายแบงค์กิ้ง และไปขอกู้เงินจากโมบายแบงค์กิ้งอีก  ซี่งตนคิดว่ามีผู้ร่วมกระบวนการ รวมทั้งพนักงานธนาคารบางคนก็อาจจะรู้เห็นเป็นใจ เพราะกระบวนการมันไวผิดปกติ กู้เช้า แล้วเย็นก็ได้เงินแล้ว ตามปกติแล้วมันจะต้องการตรวจสอบหลายขั้นตอน อย่างไรก็ตาม เคสนี้เจ้าตัวเขาเป็นคนเข้าไปกู้เงินเอง แต่สะเพร่าไม่เช็กยอดกู้ให้ละเอียด ซึ่งธนาคารเขาไม่มาสนใจว่าเราได้เงินเท่าไหร่ สนใจแค่ว่าเป็นชื่อใครกู้ขณะที่คดีทางแพ่งคงไปทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีแล้ว 
 
            สำหรับเรื่องบ้านที่จะโดนยึด ยังไงก็ต้องหาเงินไปจ่าย ถ้ายังอยากจะได้บ้านอยู่ โดยหาเงิน 800,000 ไปซื้อบ้านก่อนก็ได้ แล้วผ่อนจ่ายธนาคารส่วนหนี้ที่เหลือต่อ แต่ถ้าไม่มีเงินมาประมูลสู้ ก็ต้องไปหาที่อยู่ใหม่ ทั้งนี้นายวันจะโดนข้อหา ปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ตนแนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายที่ก่อเหตุ 
 
            ทั้งนี้ ทางทีมงานได้ติดต่อไปยัง เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม  เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทราบว่าตามหลักฐานแล้วผู้มาร้องเป็นคนเซ็นเอกสารทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งต้องดำเนินการทางคดีตามขั้นตอน แต่อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้มีการพิสูจน์ทราบเรื่องที่มีการหลอกลวงให้ทำธุรกรรม ก็สามารถแจ้งความเพิ่มได้ 
 
            ขณะเดียวกันก็พบว่าเคยเกิดกรณีคล้ายกับกรณีนี้ เป็นข่าวไปเมื่อปี 65 ซึ่งทางทีมงานได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นจริง และมีผู้เสียหายเกิดขึ้นหลายราย มีมูลค่าความเสียหายกว่า 10,000,000 บาท 
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/5tMJWq4SaSQ