จากกรณที่นายเกรียงไกร ไทยอ่อน คณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.หนองบัวลำภู ได้เชิญคุณครูท่านหนึ่ง มาสัมภาษณ์ถึงประเด็นที่อดีตลูกศิษย์ ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขับรถยนต์ไปชนกับเสาไฟฟ้ากลางเมืองอุดรธานี พร้อมกับมีข้อมูลระบุว่า อดีตลูกศิษย์ถูกไล่ล่าโดยรถกระบะคันหนึ่ง และมีการยิงปืนข่มขู่ โดยมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ที่ระบุว่า “ถูกตำรวจไล่ล่า”
นี่คือคลิปเสียงที่อดีตลูกศิษย์ของคุณครูเหมา ครูสอนวิชาพละศึกษาในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ได้ส่งให้กับเพื่อนพร้อมข้อความที่บอกว่า “ถูกตำรวจไล่ หาคนมารับด่วน” และคาดว่าเป็นเสียงสุดท้ายที่เพื่อนได้ยินจากผู้เสียชีวิต เพราะเขาได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุขับรถยนต์ชนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า คืนเกิดเหตุ รถยนต์คันนี้ขับมาด้วยความเร็วสูงและชนเสาไฟฟ้าจนเสียงดังสนั่นไปทั่วพื้นที่ แต่ก่อนที่รถยนต์คันนี้จะชน ได้มีการขับแซงรถของชาวบ้าน ไม่มีรถไล่ติดตามมา และไม่ได้ยินเสียงปืนใด ๆ
ทีมข่าวได้ไปสอบถามกับคุณครูเหมา บอกว่า ตนเองเคยสอนผู้เสียชีวิตช่วง ม.ต้น และเคยเป็นโค้ชฟุตบอลให้กับผู้เสียชีวิตและเพื่อน ๆ ทำให้มีความผูกพันกันพอสมควร วันเกิดเหตุลูกศิษย์ที่เป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต ได้เห็นข่าวจากเพจเฟซบุ๊ก พอรู้ก็รีบแจ้งข่าวมาให้ตนเองรับทราบ
นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิต ยังได้ส่งข้อมูลมาให้ว่า ผู้เสียชีวิตถูกกลุ่มคนที่ระบุว่าเป็นตำรวจขับรถกระบะไล่ล่า ตนจึงอยากต่อสู้เรื่องนี้ให้กับลูกศิษย์เพื่อขอความยุติธรรม และได้นำเรื่องราวไปโพสต์ในโซเชียล จนมีคนส่งข้อมูลเข้ามาให้พอสมควร ประกอบกับมีคลิปเสียงของผู้เสียชีวิตที่ส่งข้อความเสียงมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ตนจึงมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องอะไรมากกว่าอุบัติเหตุแน่นอน และมั่นใจว่าถูกตำรวจไล่ล่า จนต้องหนีตายด้วยความเร็วจนเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต
คุณครูเหมา ยังบอกอีกว่า ยังมีหลักฐานจากเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิต ที่พบว่า มีการติดต่อกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “เจมส์ อมร” มีการนัดหมายให้ไปหากันหลายจุด มีการเปลี่ยนจุดนัดหมายกันหลายครั้ง แต่ไม่รู้ว่านัดหมายกันเรื่องอะไร และต่อมาได้ลบแชตออกไปทั้งหมด เหลือเพียงข้อความของผู้เสียชีวิตเท่านั้น ตนจึงมองว่า เรื่องนี้มีพิรุธ และอาจมีคนต้องการล่อให้ผู้เสียชีวิตออกไปหา เพราะเขาเคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด
ตำรวจยืนยันไล่ล่าจริง แต่ไม่ได้ยิงผู้เสียชีวิต
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยได้ได้พบกับคุณพ่อและคุณแม่ พร้อมด้วยคุณป้าของผู้เสียชีวิต
คุณป้า เล่าว่า เลี้ยงดูหลานชายตั้งแต่เด็ก เรื่องที่เกิดขึ้นตนเสียใจมาก ได้รู้จากเพื่อนหลานที่บอกว่า หลานถูกไล่ล่าก่อนเกิดอุบัติเหตุ หลานตายไปแล้วคงไม่ฟื้นคืนมา จะไม่ขอต่อสู้อะไรทั้งสิ้น ส่วนรถยนต์ที่เสียหายก็ขอให้มันตายไปกับหลานชาย และขอให้เขาไปดีมีสุข ไม่จองกรรมจองเวรกันต่อไป
ด้านพ่อของผู้เสียชีวิต บอกว่า รู้ว่าลูกชายเคยมีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกจับมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่เคยรู้ว่าลูกชายมีหมายจับอีก มีเพื่อนของลูกและอดีตครูติดต่อมาเหมือนกัน ว่าลูกชายถูกไล่ล่า ตนปรึกษากับครอบครัวแล้วว่าไม่อยากจะต่อสู้เกี่ยวกับคดีนี้อีก ตนอยากให้ลูกจากไปอย่างสงบ อยากให้ลูกไปสู่สุขคติ ไม่มีห่วงอะไรอีก
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อสอบถามความคืบหน้ากับ พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับคำตอบว่า วันเกิดเหตุอยู่ในช่วงระดมกวาดล้างและได้วางแผนจับกุม มีการล่อซื้อยาบ้าจากผู้เสียชีวิต และทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี คดีจำหน่ายยาเสพติด พอจะเข้าจับกุมเขาไหวตัวทัน จึงได้ขับรถพุ่งออกมาและเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
พ.ต.อ.จามร บอกอีกว่า พนักงานสอบสวนคดีจราจรได้ออกไปตรวจที่เกิดเหตุ ได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาล โดยศพไม่มีร่องรอยกระสุน รวมทั้งสภาพรถไม่มีร่องรอยกระสุนแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่ประชาชนสงสัยว่า ในที่เกิดเหตุทำไมไม่พบยาเสพติด
ซึ่งในการส่งยาบ้าในปัจจุบัน มีหลายเทคนิค ส่วนใหญ่จะวางยาบ้าไว้ที่อื่น แต่จะมาเอาเงินจากผู้สั่งซื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย จะตรวจข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก็อยากให้ประชาชนให้กำลังใจกับผู้ปฎิบัติงานด้วยความวิริยะอุตสาหะด้วย
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35