เปิดใจ พระเอกลิเกชื่อดัง เดินสาย “ถวายบวบ” พระ-เณร เจ้าตัวปฏิเสธแล้ว

เช้านี้ที่หมอชิต - พระเอกลิเกหน้ามนคนดังของภาคกลาง ทำเอาแม่ยกสะเทือนใจ หลังเพจอีซ้อขยี้ข่าว 2 โพสต์ว่ารับงานพิเศษ แอบถวายบวบให้กับเจ้าอาวาสหลายวัด ล่าสุด เจ้าตัวออกมาปฏิเสธแล้ว แต่ไม่อยากอธิบายเยอะ

 

วงการผ้าเหลืองร้อนไม่แผ่ว แถมยังทำเอาวงการแม่ยกใจสลายไปด้วย กับข้อมูลที่เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว 2 นำเสนอชายแต่งกลายคล้ายพระ ลักษณะเหมือนกำลังก้มลงกระทำลักษณะบางอย่าง แล้วเขียนข้อความในโพสต์ว่า พระเอกลิเกหนุ่มหน้ามนขวัญใจเจ้าอาวาสหลายวัด เบื้องหลังแม่ยกแอบไปรับงานถวายบวบ ซู๊ดผัดไทกับลูกค้าที่เป็นพระสงฆ์และเณรเท่านั้น แถมหลังจบงานยังนำมาลงรีวิวในกลุ่ม ด้วยความที่หน้าหล่อ งานดี บรรดาแครอทต่างบอกปากต่อปาก ถึงขั้นมีเจ้าอาวาสและพระปลัดบางคนยังต้องเรียกให้ช่วย โดยพระเอกลิเกรายนี้จะเลือกถวายบวบให้กับพระในอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี เป็นหลัก มีเจ้าคณะบางคนเรียกซ้ำ ออกไปนัดเจอนอกสถานที่อีกด้วย

 

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไม่นาน เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรียกว่ากระหึ่มโซเชียลเลยทีเดียว จึงมีอีกโพสต์หนึ่งตามมา เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าพระเอกลิเกคนที่ถูกพาดพิง ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ตนเอง โดยโพสต์นี้เป็นรูปจากบัญชีทวิตเตอร์ที่อ้างว่ารับงานบริการทางเพศ มีการระบุถึงกลุ่มเป้าหมายและขอบเขตสถานที่ที่รับบริการ โพสต์ดังกล่าวระบุข้อความว่า โอ๊ย...พ่อพระเอกลิเกจะแถทำไม ปฎิเสธทุกอย่างไม่เคยรับงานกับพระสงฆ์ แถมมาบอกไม่เคยคิดทำเรื่องเสื่อมเสียศาสนา แล้วอีกอย่างช่างบังเอิญเหลือเกินสถานที่กับลายเสื้อดันตรงกันอีก จะรับงานกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่เห็นดีกับพวกเกาะผ้าเหลือง ช่วยกันบ่อนทำลายให้วงการนี้ ทำผิดแล้วยังแถต่อ ระวังจะพาทั้งคณะพังด้วยนะ ที่สำคัญคนที่ทำผิดไม่จำเป็นต้องได้รับโอกาสเสมอในทุกครั้ง

 

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามกับพระเอกลิเกคนที่ถูกพาดพิงตามโพสต์ เจ้าตัวชี้แจ้งว่า ตนเองไม่ได้ทำอย่างที่โพสต์ดังกล่าวออกมาแฉ ตนเองไม่จำเป็นต้องรับงานอย่างที่ถูกกล่าวหา ทุกวันนี้ทำคณะลิเก ประกอบอาชีพเสริม ก็มีรายได้เพียงพออยู่แล้ว และที่กล่าวหาว่าตนเองไปแสดงที่วัดไหนก็จะรับงานถวายบวบวัดนั้น หลังเเสดงเสร็จ พระเอกลิเก ชี้แจงว่าไม่เคยจะทำแบบที่กล่าวหาเลย

 

ส่วนเรื่องโพสต์ที่นำมาจากบัญชีทวิตเตอร์ที่รับงานบริการทางเพศ พระเอกลิเก เปิดเผยว่า ก็เป็นรูปของตนเองจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำเรื่องดังกล่าวแน่นอน และก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะหากพูดไปก็เหมือนเป็นข้ออ้างอยู่ดี

 

ซึ่งเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง อย่างคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะเข้าไปตรวจสอบ หรือหากเข้าข่ายการค้าประเวณี ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป