บิ๊กแน็ต นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซีโอโอหัวหน้าสำนักงานซีเกมส์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน ตนได้เสนอแนวทางในการยกระดับ และสร้างมาตรฐานให้กับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ โดยเฉพาะการเลือกบรรจุชนิดกีฬาต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ซีเกมส์นั้นเป็นเวทีแห่งการพัฒนานักกีฬาไทย นักกีฬาชาติต่างๆ และวงการกีฬาในอาเซียน เพื่อต่อยอดไปสู่การแข่งขันเวทีที่ใหญ่ขึ้นอย่างเอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ และการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ตามจุดมุ่งหมายของการจัดแข่งขันที่แท้จริง
นายชัยภักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนั้น การจะขอเปลี่ยนแปลงชนิดกีฬาอะไรที่เป็นสากลเข้าไปในตอนนี้ คงทำไม่ทันแล้ว ส่วนการบรรจุกีฬาพื้นบ้านของเจ้าภาพในนั้น เป็นสิ่งที่พึงทำได้ แต่ก็ควรจะต้องดูความเหมาะสมด้วย ซึ่งครั้งที่จะถึงนี้ กัมพูชาก็ปรับเปลี่ยนทั้งกีฬาและกติกาหลายๆ อย่าง ก็นับว่าเป็นที่น่าหนักใจของมนตรีซีเกมส์และชาติต่างๆ ด้วย
จึงเป็นที่มาของการที่ตนได้เสนอแนวทางในการแก้ธรรมนูญซีเกมส์ ในเรื่องชนิดกีฬาการแข่งขันที่บรรจุชิงชัยนั้นควรจะอ้างอิงตามการจัดแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ซึ่งเราก็หวังว่าในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพปี 2025 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างมาตรฐานและยกระดับการแข่งขันซีเกมส์
“ในที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ผมได้นำเสนอการบรรจุชนิดกีฬาในการแข่งขันซีเกมส์ลงธรรมนูญซีเกมส์ครั้งต่อไปได้พิจารณา โดยประเด็นหลัก คือ การจัดหมวดหมู่ของกีฬา 3 ประเภท อย่างประเภท 1 ที่เป็นกลุ่มกีฬาภาคบังคับรวม 15 รายการ อาทิ กรีฑา, ว่ายน้ำ, ฟุตบอล, วอลเลย์บอล, ยกน้ำหนัก, เทควันโด, แบดมินตัน เป็นต้น ต้องจัดชิงชัยทุกรายการ ส่วนประเภทที่ 2 กีฬาเพื่อต่อยอดในโอลิมปิก และเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งกลุ่มนี้มีกีฬา อาทิ มวยสากลสมัครเล่น, ยิงปืน, กอล์ฟ, มวยไทย และ เซปักตะกร้อ เจ้าภาพต้องเลือก 15 ชนิดกีฬาในกลุ่มนี้เป็นอย่างน้อย เพื่อจัดแข่งขัน ส่วนประเภทที่ 3 กีฬาอื่นๆ เช่น เพาะกาย, หมากรุก, ลอนโบวลส์, ปันจักสีลัต เจ้าภาพที่จัดชิงชัย จะเลือกจัดกีฬาในกลุ่มนี้ได้ไม่เกิน 4 ชนิด และจะมีการจำกัดอีเวนต์ด้วย”
นายชัยภักดิ์กล่าวอีกว่า แนวคิดดังกล่าวจะมีการนำไปหารือกับสมาคมกีฬาชาติต่างๆ ในอาเซียน และคณะมนตรีซีเกมส์ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งให้ได้ภายในพฤษภาคมนี้ ซึ่งการแก้ธรรมนูญซีเกมส์นั้น ตามหลักการของคณะมนตรีซีเกมส์ก็ใช้เสียง 8 ใน 11 เพื่อขอความเห็นชอบ หากผ่านความเห็นชอบ ก็จะเริ่มนำมาใช้ในการแข่งขันซีเกมส์อีก 3 ครั้งหลังจากนี้เพื่อเป็นการนำร่องคือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย ในปี 2025 ต่อด้วยปี 2027 ที่ประเทศมาเลเซีย และปี 2029 ที่ประเทศสิงคโปร์
+ อ่านเพิ่มเติม