ก่อนที่ “ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม”จะได้ทำหน้าที่แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (155 ป.) ครั้งแรกกับผู้ท้าชิง “จามาล ยูซูพอฟ” ในศึก ONE FIGHT NIGHT 7 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้า 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 25 ก.พ.66 เราอยากจะทดสอบบรรดาแฟนคลับของซูเปอร์สตาร์มวยไทย “ซ้ายดารา” ว่าคุณรู้จักเขาดีแค่ไหน 10 เรื่องนี้
1. หนุ่มหน้ามนคนชลบุรี
“ตะวันฉาย” มีชื่อจริงว่า “ณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา” หรือชื่อเล่นว่า “กัน” เกิดที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีมี ความชื่นชอบมวยมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนอยากที่จะลองดูบ้าง จึงให้พ่อพาไปฝึกหัดมวยที่ค่ายเพชรรุ่งเรือง ของ “ครูนุ” วิษณุชัย เพชรรุ่งเรือง อดีตมวยดังเมืองพัทยา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ บ้าน โดยมี “อนันต์ศักดิ์ เปียปลื้ม” เป็นครูมวยคนแรก
2. ชกมวยครั้งแรกในบาร์
เมื่อฝึกมวยได้ระยะหนึ่งก็ขึ้นชกโชว์ที่บาร์แห่งหนึ่งแถวชายหาดเมืองพัทยา ในนาม “จตุคาม เพชรรุ่งเรือง” โดยเอาชนะน็อกคู่ชกในยกแรก ก่อนจะพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็วเดินสายชกมวยทั่วภาคตะวันออก และอีสานจนได้มาชกที่สนามมวยเวทีลุมพินีในวัย 14 ปี ในรุ่น 35-36 กก.
3. ย้ายซบพี.เค.ฯ
ในระหว่างเดินสายชกมวย ก็ได้รู้จักกับ “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” จึงได้ขอไปอยู่ที่ค่าย พี.เค.แสนชัยฯ ด้วยโดย “พระจันทร์ฉาย” ช่วยพูดคุยกับ “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่ายมวยให้
หลังเรียนจบมัธยมต้นจากพัทยา จึงย้ายมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายมวย พี.เค.แสนชัยฯ และใช้ชื่อ “ตะวันฉาย” นับตั้งแต่นั้นมา
4. พีคตั้งแต่ยังหนุ่ม
“ตะวันฉาย” ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพนักมวยมากมาย เริ่มตั้งแต่ครองแชมป์ประเทศไทย รุ่น 126 ปอนด์ ในปี 2560 จากนั้นคว้าแชมป์สมาคมกีฬามวยไทย นายขนมต้ม รุ่น 140 ปอนด์ ในปีต่อมา ซึ่งในปี 2561 ถือเป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของ “ตะวันฉาย” เขาได้รับรางวัลเกียรติยศอย่างท่วมท้น โดยคว้ารางวัลยอดมวยสยามกีฬาอวอร์ด, นักมวยยอดเยี่ยมสนามมวยเวทีลุมพินี, นักมวยขวัญใจมหาชนยอดเยี่ยม, รางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่น และ นักมวยไทยอาชีพดีเด่นการกีฬาแห่งประเทศไทย
5. ฉายาซ้ายดารา
“ตะวันฉาย” เคยได้รับฉายา “ซ้ายเพอร์เฟกต์” เป็นฉายาแรก แต่พอหลังจากเอาชนะ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” เมื่อเดือนกันยายน 2561 ก็ได้รับฉายาใหม่จากสื่อมวลชนว่า “ซ้ายดารา” ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าน่าจะเป็นเพราะตนเองมีลักษณะรูปร่างหน้าตาขาว ตี๋ สูงยาว ดูสะอาดสะอ้าน
6. ยอดมวยในดวงใจ
ถ้าหากพูดถึงต้นแบบที่ “ตะวันฉาย” คอยเฝ้ามองมาโดยตลอด คงหนีไม่พ้น “แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ลูกพี่ใหญ่ประจำค่าย ที่ถูกยกให้เป็นยอดมวยผู้ยิ่งใหญ่
ส่วนรายต่อไปคือคนที่นำ “ตะวันฉาย” เข้ามาสู่การดูแลของค่าย พี.เค.แสนชัยฯ อย่าง “พระจันทร์ฉาย” รวมถึงรุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง “ปกรณ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” จอมเก๋าแห่งวงการมวยไทย ก็เป็นอีกหนึ่งไอดอลของ “ตะวันฉาย” เช่นกัน
7. แข้งซ้ายเพชฌฆาต
เป็นที่รู้กันดีว่า “ตะวันฉาย” เป็นมวยซ้ายสุดอันตราย โดยเฉพาะการสาดแข้งซ้ายที่ปราบมวยดังมาแล้วนักต่อนักหนึ่งในนั้นก็คือ “กุหลาบดำ”
นอกจากเเข้งซ้ายแล้ว “ตะวันฉาย” ก็มีหมัดที่รุนแรงไม่แพ้กัน แถมเจ้าตัวยังเคยลงแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2563 และคว้าเหรียญทองแดงกลับมาอีกด้วย
8. สะสมพระเครื่อง
“ตะวันฉาย” เป็นนักสะสมพระเครื่องอีกคนหนึ่งของวงการมวย เขามีพระเครื่องเก็บสะสมไว้อยู่ร่วมร้อยกว่าองค์ โดยรุ่นที่เจ้าตัวรักและหวงแหนที่สุดคือ “หลวงปู่ทวด วัดประสาทบุญญาวาท ปี พ.ศ.2505” ซึ่งได้รับมาจาก อนันตศักดิ์ เปียปลื้ม ครูมวยคนแรก ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อคนที่สอง ตั้งแต่ตอนเขาอายุ 12 ปี พระเครื่ององค์นี้จึงมีคุณค่าทางใจ เตือนสติให้เขาทำดี และย้ำเตือนว่าเขาเป็นศิษย์มีครู
9. เจ้าของซุ้มไก่ชน
นอกจากจะเป็นนักมวยแล้ว “ตะวันฉาย” ยังเป็นเจ้าของ “ซุ้มไก่ชนซ้ายดาราตะวันฉาย” ตั้งอยู่ที่เมืองพัทยาบ้านเกิด ซึ่งต่อยอดจากพี่ชายที่เคยทำไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะขยายกิจการเป็นของตัวเอง จนปัจจุบันมีไก่ชนอยู่ร่วมร้อยตัว
10. สัตว์เลี้ยงตัวโปรด
นอกจากการเลี้ยงไก่ชนเป็นอาชีพ “ตะวันฉาย” ยังมีสัตว์เลี้ยงโปรดซึ่งก็คือเจ้าตูบสี่ขานามว่า “บูเอล” สายพันธุ์พิตบูล แต่ว่าน้องได้จากโลกนี้ไปแล้วด้วยโรคกระเพาะ ตอนนี้เขามีคู่ซี้สี่ขาตัวใหม่คือ “เจ้ากุชชี” สุนัขพันธุ์ชิวาวา รวมถึงบรรดาเพื่อน ๆ ของมันที่เลี้ยงรวมกันอีก 7 ตัวในบ้านที่พัทยา